[ข่าวลุงพล] ทำไมต้อบอกว่าคนอื่น โง่เหมือนควาย
โง่ ทำไมต้องเหมือนควาย
ความคิด คือสิ่งที่จะกำหนดโลกทั้งใบของคุณเลยทีเดียว
คุณเติบโตมาพร้อมกับกรอบความคิด และวิธีการมองโลกแบบไหน โลกจะเป็นแบบนั้นสำหรับคุณ ดังนั้น
แม้จะยืนอยู่ข้างกัน แต่โลกของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละคน สร้างประสบการณ์ให้ตัวเองอย่างไร นอกจากนี้
ความคิดยังสร้างบุคลิกภาพ สร้างนิสัย และกำหนดได้ด้วยว่า คุณจะเป็นคนอย่างไร
รวมถึงความอ่อนแอ และความเข้มแข็งก็มาจากความคิดเช่นกัน คนที่มักพาตัวเอง ไปอยู่ในวังวนของความไม่ได้เรื่อง
ส่วนใหญ่เป็นเพราะความคิดและทัศนคติของพวกเขาเอง
ผมเป็นคนที่ชอบอ่านคอมเมนต์
หรืออ่านโพสต์ของคนอื่น ที่ปรากฏผ่านสื่อทางโลกออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค
เพจ ยูทูป พยายามอ่านความคิดของคนที่โพสต์หรือคอมเมนต์ ว่าเขาต้องการสื่อถึงอะไร
เกี่ยวกับเรื่องราวของคนลุงพล
ถ้าเป็นคนที่เขาไม่ชอบลุงพล เขาจะด่าเอฟซีฝั่งลุงพล ซึ่งคำที่ผมจะเห็นบ่อยมากที่สุด
คือการที่เขาจะพูดว่า เอฟซีข้างไข่ โง่เหมือนควาย เลิกกินหญ้าได้แล้ว
ซึ่งถ้ามองนัยยะของความเป็นจริงแล้ว
บนโลกใบนี้มีสัตว์ชนิดไหนบ้าง ที่คุณรู้สึกว่า ชีวิตมันช่างน่าสงสารบ้างหรือเปล่า คนส่วนใหญ่มักจะรู้สึกสงสารพวกลูกหมา ลูกแมว ท่าทางน่ารักทั้งหลาย เวลาที่โดนสิ่งมีชีวิตบ้าอำนาจ อย่างมนุษย์บางส่วนรังแก หรือทิ้งขว้าง แต่สำหรับผม สัตว์ที่ทั้งโชคร้ายและน่าสงสารที่สุดก็คือ “ควาย” ครับ
จะไม่ให้ผมรู้สึกสงสารมันได้อย่างไรล่ะครับ
ก็คนสมัยนี้จะด่ากันแต่ละที เอะอะก็ไปลงที่ควาย เหมือนสำนวนที่ว่า “โง่เหมือนควาย!” บ้างล่ะ
ผมได้ยินแล้ว รู้สึกอนาถใจแทนควายมันจริงๆ ครับ ยืนเคี้ยวหญ้าอยู่เฉยๆ แท้ๆ
ดันโดนด่าว่าโง่เสียได้ คุณแน่ใจหรือครับว่า ควายโง่ แน่ใจนะครับว่าไม่ได้คิดไปเอง
อีกอย่างที่ด่าๆ กันว่า “โง่เหมือนควาย” สรุปแล้วมันโง่แบบไหน
โง่เพราะอะไร โง่เพราะพูดไม่ได้ คิดเลขไม่เป็น หรือโง่
ที่ปล่อยให้สัตว์ประเสริฐอย่างเราจูงจมูก ไหนๆ ก็ด่ามันว่าโง่ทั้งที อย่างน้อยๆ
ก็ควรจะรู้นะครับว่า ทำไมต้องโง่เหมือนควาย
ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานปีพุทธศักราช
2554 ได้ให้ความหมายของคำว่า “ควาย” ไว้สองอย่าง
ความหมายอย่างแรก หมายถึง ชื่อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิด บูบาลัส บูบาลิส ลินท์ (Bubalus
bubalis Linn) ในวงศ์ โบวีแด (Bovidae) เป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดใหญ่ กีบคู่
ลำตัวสีดำหรือเทา เขาโค้งยาว ไม่ผลัดเขา ที่ใต้คางและหน้าอกมีขนขาวเป็นรูปง่าม
ครึ่งล่างของขาทั้งสี่ มีขนสีขาวหรือขาวอมเทา ส่วนความหมายที่สอง หมายถึงคนโง่
คนเซ่อ หรือคนตัวใหญ่แต่ไม่ฉลาด โดยปรากฏความหมายของคำว่า “ควาย” ตามความหมายที่สอง
ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานครั้งแรกฉบับปีพุทธศักราช 2534
คำว่า “ควาย” เป็นคำไทยแท้ที่ใช้กันมาตั้งแต่ดั้งเดิม
คนไทยส่วนใหญ่ มักพูดคำว่า “ควาย” ในความหมายแบบที่สอง คือใช้พูดเปรียบเทียบถึงความโง่
มากกว่าการพูดถึงตัวสัตว์ที่เป็นควายจริงๆ ส่วนคำว่า “กระบือ” เอง ก็หมายถึงควายเช่นกัน
แต่ไม่ได้หมายถึงควายในความหมายที่สอง และเป็นคำที่ใช้ในลักษณะเป็นทางการ มากกว่าการพูดกันทั่วๆ
ไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า “ควาย” เป็นคำที่ไม่สุภาพนะครับ
จะเห็นว่ามีการใช้กันทั้งสองคำ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่า จะถนัดใช้คำว่าควายหรือกระบือ
นอกจากนี้ยังมีคำว่า “เจ้าทุย” หรือ “ไอ้ทุย” ซึ่งก็หมายถึงควายเช่นกัน แต่คำว่า “ควายทุย” ในบางท้องถิ่น
จะหมายถึงควายที่มีลักษณะเขาสั้น
หากลองพิจารณาคำว่า “ควาย” ดูดีๆ
จะพบการด่าว่า “โง่เหมือนควาย” ในปัจจุบัน แม้จะเป็นการด่าเพื่อสื่อความว่าโง่
แต่กลับมีมิติทางความหมาย ที่ค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับบริบทของผู้ด่าและผู้ที่ถูกด่า
กล่าวคือคำว่า “โง่” มีความหมายย่อยของมันอยู่เหมือนกัน ว่าโง่แบบไหน
ทั้งนี้ พอจะจำแนกมิติทางความหมาย ของการด่าด้วยคำว่า “ควาย” เพื่อสื่อความว่า
“โง่” ในปัจจุบัน
โดยอ้างอิงจากศัพท์ในภาษาอังกฤษได้สามรูปแบบ คือโง่แบบ อิกโนเรนท์ (ignorant) สตูพิส (stupid) และ
อินโนเซนท์(innocent)
ในความเป็นจริง น้องควายผู้น่าสงสาร อยู่คู่กับสังคมเกษตรกรรมของคนไทย
มาตั้งแต่สมัยโบราณจนสามารถเรียกได้ว่า “ควาย” เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนไทย
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่คนไทยจะมีสำนวนไทยเกี่ยวกับควายมากมาย ยกตัวอย่าง เช่น
ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก
สีซอให้ควายฟัง อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย
ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น หรือแม้แต่สำนวน “โง่เหมือนควาย” ก็เช่นเดียวกัน
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับที่มาของสำนวน “โง่เหมือนควาย” ในแถบภาคอีสานของไทยอยู่ว่า
ครั้งเมื่อพญาแถนสร้างมนุษย์ขึ้นมาใหม่ๆ เหล่ามนุษย์อยู่กันอย่างสงบสุข
แต่พออยู่ไปนานวัน ก็เกิดปัญหาขึ้น เพราะอาหารไม่เพียงพอ
เหล่ามนุษย์ทั้งหลายนั้นกินอยู่ตลอดเวลา ทำให้อาหารเริ่มลดลงเรื่อยๆ
เดือดร้อนถึงพญาแถนให้ต้องแก้ปัญหานี้ พญาแถน เลยส่งเจ้าแม่โพสพมาสอนมนุษย์ทำนา
และส่งเทวดามาสอนเลี้ยงสัตว์ แต่ถึงอย่างไร มนุษย์ก็ไม่สามารถผลิตอาหาร ได้ทันต่อความต้องการของตัวเองสักที
ดังนั้นพญาแถน เลยแก้ปัญหาด้วยการให้พรแก่มนุษย์ ผ่านทางสัตว์ตัวหนึ่งซึ่งก็คือ “ควาย”
พญาแถนได้รับสั่งกับควายว่า “เจ้าจงไปบอกมนุษย์ว่าให้มนุษย์กินอาหาร
3 วันต่อ 1 มื้อ” ควายจึงรับพรนั้น เพื่อนำไปบอกต่อแก่เหล่ามนุษย์
แต่ขณะที่กำลังเดินทางไปหามนุษย์ ก็ชักจะลืมๆ ว่าพญาแถนสั่งไว้ว่าอย่างไร
พอถึงโลกมนุษย์ ควายก็นำสารจากพญาแถน มาบอกแก่มวลมนุษย์ ให้ทราบโดยทั่วกันว่า “มนุษย์ทั้งหลาย
จงรับพรจากพญาแถนผู้เป็นใหญ่ ต่อไปนี้พวกเจ้าจะกินอาหาร 3
มื้อต่อ 1 วัน” เรื่องทราบไปถึงพญาแถนก็ไม่พอใจ กล่าวกับควายว่า
“เจ้าโง่ ข้าบอกให้มนุษย์กิน 3 วันครั้ง ไม่ใช่วันละ 3
ครั้ง เพื่อเป็นการลงโทษ ข้าขอสาบให้เจ้า จงไปช่วยพวกมนุษย์ไถนาก็แล้วกัน”
เป็นเรื่องเล่าที่สนุกสนานเฮฮา ตามประสาคนไทยดีใช่ไหมล่ะครับ
แต่ทุกท่าน คงไม่หลงเชื่อกันจริงๆ หรอกนะครับ ว่าสำนวน “โง่เหมือนควาย” จะมีที่มาจากเรื่องเล่า
เพราะในความเป็นจริง ดูเหมือนว่า การที่ใครต่อใครกล่าวว่าควายโง่นั้น
จะมีที่มาจากบริบททางสังคมไทย อันเนื่องมาจากวิถีชีวิตของคนไทย ที่เกี่ยวข้องกับควายมากกว่า
ถึงแม้จะฟังดูซับซ้อน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ต่อการทำความเข้าใจหรอกนะครับ
เดิมทีควายเป็นสัตว์ป่า เหมือนสัตว์ป่าทั่วไป
แต่โดยสัญชาติญาณ เป็นสัตว์ที่สามารถฝึกฝนและทำให้เชื่องได้
มนุษย์จึงนำมาใช้แรงงาน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้น ของการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ในวิถีชีวิตมนุษย์ของควาย
คนไทยใช้แรงงานจากควาย มาตั้งแต่ก่อนสมัยสุโขทัย
อันเนื่องมาจากพื้นที่ในการตั้งอาณาจักร อยู่ในเขตราบลุ่ม
อาชีพที่เหมาะสมคือการเกษตร ทำให้ “ควาย” มีบทบาทสำคัญ เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทย
จนสามารถพูดได้ว่า“ควายคือชีวิตของคนไทย” ซึ่งปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย
หนังสือเรื่อง “วัว-ควายมาจากไหน ในประวัติศาสตร์” จากวารสารศิลปวัฒนธรรมปีที่
22 ฉบับที่ 6 เดือนเมษายน 2544
ได้เขียนไว้ว่า “หลักฐานทางโบราณคดี ที่เป็นเครื่องยืนยันว่า มีการเลี้ยงวัวควายมาตั้งแต่ก่อนสมัยประวัติศาสตร์ก็คือ
การพบภาพเขียนสี ตามถ้ำและหน้าผาต่างๆ เช่นที่ถ้ำวัว อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
เป็นรูปวัว 6 ตัว ที่ถ้ำผาฆ้อง อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย
เขียนสีแดงเป็นรูปวัว และที่ถ้ำเขาปลาร้า อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
พบภาพวัวควาย และคน ลักษณะการเดินไถนา โดยใช้วัวควายช่วย”
หลักฐานต่างๆ แสดงให้เห็นว่า “ควาย” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง
ในวิถีชีวิตของคนไทยตั้งแต่โบราณ บริบททางสังคมไทย อันเนื่องมาจากวิถีชีวิตของคนไทย
ที่เกี่ยวข้องกับควายนี่เอง ที่เป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดความคิดว่าควายนั้นโง่
ซึ่งต่อมา ความคิดนี้ก็ได้พัฒนา กลายเป็นภาพจำทางความคิด
และเป็นจุดเริ่มต้นของสำนวน “โง่เหมือนควาย” รวมถึงการด่าว่าคนอื่นเป็นควายในปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นที่สำคัญ ของภาพจำทางความคิดนี้
เกิดจากวิถีชีวิต สัมพันธ์กับธรรมชาติของคนไทย ผสมผสานกับอุปนิสัยจำเพาะของคนไทย ที่เป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน ทำให้เรามีสำนวนไทยที่เกี่ยวพัน
หรือมีที่มาจากธรรมชาติมากมาย ซึ่งหลายสำนวน เกิดจากการสังเกตจนเป็นข้อสรุป
ยกตัวอย่างเช่น โง่เหมือนควาย ซนเหมือนลิง ดุเป็นเสือ ซื่อเป็นแมวนอนหวด
ปลาตื่นน้ำ หมาเห่าใบตองแห้ง
สำนวน “โง่เหมือนควาย” น่าจะเกิดจากพฤติกรรมของควาย
ตามการสังเกตและข้อสรุป จากการสังเกตของคนไทยที่มองว่า
ควายยอมทำตามคำสั่งของมนุษย์โดยไม่ขัดขืน ยอมถูกเฆี่ยนตี
ยอมให้มนุษย์เจาะจมูกแล้วลากจูง แม้ต้องลากคันไถหนักๆ แต่ก็ไม่เคยหนี ขัดขืน
หรือแสดงความต้องการของตน ยอมอยู่นิ่งๆ และทำตามคำสั่งโดยไม่มีเงื่อนไข
ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ ดูเหมือนจะเป็นพฤติกรรมโง่ๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่คนไทยผู้ชาญฉลาดจะมองว่า
ควายไม่ใช่สัตว์ที่ฉลาดเหมือนตน
เมื่อพิจารณาพฤติกรรมของควาย ในสายตาของมนุษย์
จะเห็นได้ว่า พฤติกรรมของมันเข้าข่ายคำว่าโง่แบบ อิกโนเรนท์ (ignorant) คือโง่แบบไม่รู้
ไม่มีสามัญสำนึกโดยทั่วไป และไม่สนใจว่าใครจะทำอะไรกับมันบ้าง
ในขณะเดียวกันก็เข้าข่ายคำว่าโง่แบบ สตูพิส (stupid)
ได้เหมือนกัน
เพราะต่อให้มันโดนเฆี่ยนตี หรือใช้งานหนักขนาดไหน มันก็ไม่เคยขัดขืน
แบบนี้มันยิ่งกว่าไร้หัวคิดเสียอีก จริงไหมครับ ด้วยเหตุนี้ จึงพอจะอนุมานได้ว่า “โง่เหมือนควาย” สมัยก่อน
คือการโง่เพราะไม่รู้ และโง่เพราะไร้หัวคิดนั่นเอง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
ควายอาจไม่ได้โง่ก็ได้นะครับ เพราะพฤติกรรมของควายเหล่านี้ มีปัจจัยหลายอย่าง ที่ขับเคลื่อนให้มันแสดงออกเช่นนี้
พฤติกรรมเหล่านี้ จึงไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าควายโง่ ยกตัวอย่างปัจจัยทางด้านสังคมวิทยา
ควายจัดเป็นสัตว์สังคมชนิดหนึ่ง การที่มันยอมทำตามมนุษย์ อาจเป็นเพราะมันมองว่า มนุษย์เป็นฝูงหรือหัวหน้าฝูงของมันก็เป็นได้
การแสดงออกของควาย จึงเต็มไปด้วยความไว้วางใจ แต่มนุษย์ผู้ประเสริฐสุดในโลกหล้า ดันมองว่าควายโง่เสียได้
สรุปแล้วเป็นใครที่โง่กันแน่
เราคงจะเห็นที่มาที่ไปของสำนวน “โง่เหมือนควาย” และคงจะพอเข้าใจกันแล้วบ้างว่า
ควายอาจไม่ได้โง่อย่างที่เราคิด อีกทั้งควาย ยังถือได้ว่าเป็นสัตว์สำคัญที่อยู่คู่คนไทย
และช่วยเหลือคนไทยไว้มากมาย ฉะนั้นเวลาจะด่าใครว่าเป็นควาย ก็ให้สงสารควายมันสักนิดนะครับ
ส่วนใครที่โดนด่าว่าโง่เหมือนควาย ก็ไม่ต้องเสียใจไปนะครับ ควรจะภูมิใจเสียด้วยซ้ำ
ที่คนอื่นบอกว่าเราเป็นควาย สัตว์โลกผู้น่ารัก และมีความสำคัญกับคนไทยมากขนาดนี้ โดยที่คนที่เขามาด่าเรา
เขาอาจจะไม่รู้ตัวว่า เขาโง่กว่าควายเสียด้วยซ้ำไป
ขอบคุณข้อมูล, แหล่งที่มา

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น