ลุงพลโดนกล่าวหา ว่าเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสี
บางคอมเมนท์ก็แรงถึงแรงมาก
ทั้งๆที่คุณ ก็ไม่ใช่ญาติฝ่ายไหนของลุงพลกับป้าแต๋น แต่เป็นเดือดเป็นแค้นแสนสาหัส
แงะงัดสารพัดถ้อยคำ มาพร่ำด่า ยิ่งคอมเมนท์ที่ผมหยิบยกมาพูดถึงนี้
อ่านแล้วต้องบอกว่า จิตใจคุณทำด้วยอะไร โดยคอมเมนท์นี้ ผมเห็นใต้คลิปคลิปหนึ่ง
มีใจความว่า
เดี๋ยวนี้ นางค่อมปากจัดมากกว่าเก่าเยอะ สันดานเสียทั้งผัวทั้งเมียเลย
ไอ้พวกขอทานสายบุญเนี่ย เห็นแล้วทุเรศ ลืมกำพืดตัวเอง มีกองทัพพญานาคหนุนหลังเลยเปลี่ยนสี
เหมือนไอ้กิ้งก่าเปลี่ยนสี เปิดใจให้กว้าง แล้วจะเห็นความเลวของพวกเขาเยอะ เขาปากเก่งกว่าสาวิตรีอีก แต่ก่อน
มีความรู้สึกไม่ชอบ สาวิตรี แต่เดี๋ยวนี้ ชอบที่เวลาพูดจะมีเหตุผล
และพูดน่าฟังกว่านางค่อมขาลาก นางค่อมไม่รู้จักยกมือไหว้เวลาคนมาเยี่ยมและให้ของ
และไม่รู้จักขอโทษคน เป็นแม่คนได้ยังไง เดี๋ยวนี้เขามีเงินเยอะก็เลยไม่เห็นหัวใคร
ผมเชื่อว่า ไม่ว่าใครก็คงต้องเคยเจอเหมือนกันแน่นอน
โดยเฉพาะคนขี้อิจฉา แต่จะให้มัวมานั่งเครียดกับคนจำพวกนี้ ก็ชวนให้เสียสุขภาพจิตมากกว่า
แม้ว่าคนขี้อิจฉา จะเป็นคนจำพวกที่นิยมชอบพูดจาส่อเสียด
ใส่ร้ายให้คนอื่นหรือตัวเราเสียหาย แต่การที่คุณจะ "ลดตัว" ลงไปต่อเถียง
หรืออธิบายความจริงแก่คน "หูเบา" ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
เพราะคนพวกนี้มักจะมีนิสัยชอบเถียงข้างๆคูๆ
จุดประสงค์ของเขา ไม่ใช่การ “สืบหาข้อเท็จจริง” แต่เป็นการ
“ต้องการเห็นคุณแย่ลง” พวกเขาจะได้รู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาอีกหน่อย
คนที่ “เห็นคุณค่าตัวเองต่ำ” มักจะใช้วิธีหาทางทำร้ายคนอื่น
เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น การไปโต้เถียงกับคนแบบนี้ จึงไม่มีวันจบ ให้จำไว้เสมอว่า
"คนขี้อิจฉา" เป็นคนน่าสงสาร เพราะต่อให้ชีวิตดีแค่ไหน ก็หาจุดที่
"พอใจ" ไม่เจอ บางคนมี "ด้านมืด" บอกใครไม่ได้ จึงพยายามสร้าง
"จุดเด่น" เพื่อกลบ "ปมด้อย" เพราะตีค่าตัวเอง
"ต่ำ" จึงพยายามทำให้ตัว "สูงส่ง" และมักเจ็บปวดทุกครั้ง ที่เห็นใครมีสิ่งที่ตัวเอง
"ขาด" คนขี้อิจฉามักชอบ "เปรียบเทียบ" และเสพติดการ
"แข็งขัน" มักจะรู้สึกดีเมื่อได้อยู่เหนือใคร
บางคนใช้ความมั่นใจปิดบังความอ่อนแอ
เพราะกลัว "พ่ายแพ้" จึงกล้า "แลก" ทุกอย่าง
แต่สุดท้ายคนขี้อิจฉาก็ไม่เคยได้ดีกว่าใคร เพราะยิ่งอยาก "ชนะ" ก็ยิ่ง
"แพ้" อย่าลืมว่า คนที่อิจฉา คิดร้าย เกลียดชังคนอื่นก็เหมือน “ตกนรกทั้งเป็น” อยู่แล้ว
ใจที่ร้อนรุ่ม เครียด กังวลนั่นแหละ คือ นรก เคยได้ยินไหม “สวรรค์อยู่ในอก
นรกอยู่ในใจ” นี่เป็นคำกล่าวที่ถูกต้องที่สุด การอิจฉา เกลียดชังคนอื่น
จึงเป็น “การทำโทษ”
คนๆนั้น อยู่แล้ว กรรมเห็นทันตา อย่าไปคิดแก้แค้นเขา ให้ “กฎแห่งกรรม” จัดการดีที่สุด
เพราะถ้าคุณตอบโต้ในทางร้ายมันจะเป็น “กรรม” ของคุณด้วย
ข้อสำคัญคือ คุณอย่าถูกคนแบบนี้
ลากไปลง “นรกในใจ”
กับเขาด้วย คุณต้องอยู่บน “สวรรค์ในอก” ของคุณ
…โดยไม่ยอมลงไป “ทุกข์” กับพวกเขาด้วย แม้แต่นิดเดียว
เพราะถ้าคุณลดความสุขและสงบใจของคุณ มีความทุกข์เพิ่มขึ้น เพราะคนเหล่านี้แปลว่าเขาชนะ
หมายความว่าเรามีหน้าที่แค่ ดูแล “จิต” และ
“ใจ” ของเรา ให้มีความสุขเสมอ 100% ไม่รุ่มร้อน
ไม่เครียด ไม่กังวล อย่าลดความสุขตัวเอง เพราะการมีความทุกข์เพิ่มเท่ากับเพิ่มนรกในใจ
ใครพูดอะไรมา ก็ไม่กระทบกระเทือนจิตใจคุณทั้งสิ้น เหมือนมี “เกราะกำบัง” น้ำลายยาพิษของคนอื่น
คนที่อิจฉา เกลียดชังคุณจะ “ยิ่งปี๊ด” เพราะเรื่องที่เค้าทนไม่ได้
คือ เห็นคุณมีความสุข
มีคำกล่าวว่า “การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ
คุณประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น” เพราะการที่คุณรุ่งเรืองขึ้น ดีขึ้น
มีความสุขขึ้น คนขี้อิจฉาจะยิ่งทนไม่ได้ ยิ่งมีความทุกข์มากขึ้น
ยิ่งร้อนรุ่มในใจมากขึ้น เหมือนตกนรกทั้งเป็นน่าสงสารมาก แต่เรื่องที่เค้าจะ “สะใจ” คือ
การเห็นคุณมีความทุกข์ ร้อนใจเหมือนพวกเขา เรายอมได้หรือ ที่จะให้เขา “สะใจ”
ลงมือทำบางสิ่งที่ปกป้องตัวคุณเอง
การไม่ยอมให้น้ำลายคนอื่น มาเป็น “ยาพิษ” ในใจคุณ ไม่ได้หมายความว่า คุณยอมเป็น “พรมเช็ดเท้า” ให้คนอื่น
ให้ไตร่ตรองอย่างดี ในการที่คุณจะได้ทั้งสองอย่างคือ
1. มีเกราะป้องกันจิต ไม่ให้ตัวเราคิดลบ
และทุกข์ไปกับคนคิดร้ายด้วย
2. มีมาตรการป้องกันตัวของเราเอง
เพราะเราต้องเป็นคน “ฉลาด และมีไหวพริบ” ในโลกนี้ด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น