[ข่าวลุงพล] การต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อ
หลายคน หรือแม้แต่หลายๆ คน ยังคงข้อสงสัยลุงพล
ในคดีน้องชมพู่ แม้กระทั่งหมายจับ ที่มีการฟันธงมาแล้วว่า ในเร็ววันนี้
ลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ซึ่งหมายถึงลุงพล โดยมีการเอาชีวิตมาเป็นเดิมพัน
ผมขออนุญาตหยิบยกบทความ ของคุณพี่โซดา น้ำ
ซึ่งท่านได้โพสต์ลงบนเฟซบุ๊ค กลุ่มคนรักลุงพลป้าแต๋นแฟมิลี่ มาเล่าให้ฟัง
โดยเนื้อหาที่ผมได้อ่านดูแล้ว รู้สึกประทับใจมาก
ทันทีที่ผมได้ทราบข่าวว่า ทนายตั้มจะเข้ามาดูแลเรื่องคดีให้กับลุงพล
รวมไปถึงคอยป้องปรามกลุ่มคนที่ไม่ประสงค์ดีกับลุงทุกหมู่เหล่า
เพื่อไม่ให้พวกเขาเข้ามารังแกลุงพลได้อย่างสนุกมือสนุกปาก เหมือนที่ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
เมื่อช่วงหลายเดือนก่อนหน้านั้น
ตามความรู้สึกที่ผมสัมผัสได้ในขณะนี้ เหมือนผมกำลังมองเห็นช้างพลายหนุ่มเชือกหนึ่งที่น่าเกรงขาม ที่กำลังก้าวเดินเข้ามาอย่างช้าๆ แต่มั่นคง เพื่อปกป้องแพะตัวหนึ่งที่กำลังอ่อนแรงและอ่อนต่อโลก ซึ่งกำลังตกอยู่ในวงล้อมของฝูงหมาป่าที่กำลังหิวโซ โดยมีช้างแก่หัวใสที่ก็กำลังจดๆ จ้องๆ คอยร่วมผสมโรงกินโต๊ะกับเขาด้วย แต่พอฝูงหมาป่าและช้างแก่ เหลือบไปเห็นช้างพลายหนุ่มเข้าเท่านั้น ก็เกิดอาการลังเลจนต้องหันมามองหน้ากันเลิ่กลั่ก โดยไม่กล้าผลีผลามเข้าไปรุมกัดรุมทึ้งเจ้าแพะตัวนั้น ต่างก็ทำได้แค่เห่าหอน และยืนฟาดงวงฟาดงาอย่างหงุดหงิดรำคาญใจ
ผมไม่รู้สึกวิตกกังวลกับหมาป่าเจ้าเล่ห์ฝูงนี้สักเท่าไหร่
เพราะถ้ารอคอยจนเบื่อก็คงจะเลิกลากลับเข้าป่ากันไปเอง
แต่ผมรู้สึกกังวลและจับตาไปที่ช้างแก่หัวใสตัวนั้นเสียมากกว่า เพราะสามารถรับรู้จากประสาทสัมผัสส่วนลึกได้เลยว่า
เป็นช้างแก่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอาฆาตพยาบาทที่รุนแรงมาก
ซึ่งมันดูย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ของช้างสารผู้ใจบุญ
ในสายตาของสรรพสัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้
ต้องแบบนี้สิครับ
จึงจะเรียกได้ว่าเป็นการเผชิญหน้าที่สมน้ำสมเนื้ออย่างที่สุด
ไม่ใช่ต้องทนเห็นแพะตัวนั้น ถูกรุมกัดรุมทึ้งอยู่ข้างเดียว
ส่วนกองเชียร์ของหมาจิ้งจอกและช้างแก่ก็เหลือร้ายเสียจริงๆ เพราะทั้งๆ ที่เห็นว่า พวกพ้องของตนรุมรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าอยู่แท้ๆ
แต่กลับตะโกนยุยงให้ออกแรงขบกัดอย่างหนักข้อขึ้นไปอีก ถึงตรงนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่า
จิตใจของกองเชียร์เหล่านี้ทำด้วยอะไรกันแน่
จึงได้รู้สึกสะใจกับการต่อสู้ที่สุดแสนจะรันทดหดหู่
และไร้ซึ่งความยุติธรรมโดยสิ้นเชิงอย่างนี้ได้
แต่หลังจากการปรากฏตัวของช้างหนุ่มเชือกนี้
ผมก็ขอเชิญชวนให้ทุกท่าน จดข้อความต่อไปนี้ใส่สมุดบันทึกไว้เลยว่า “นับจากนี้สถานการณ์เลวร้าย
ที่ลุงพลจำต้องเผชิญมาในรอบหลายๆ เดือน ก็จะเริ่มคลี่คลายความตึงเครียดลงที่ละน้อย
จนกระทั่งกลับคืนเข้าสู่โหมดของความสงบเรียบร้อยในที่สุด”
สำหรับนัยยะที่ผมจะขอหยิบยก มาสนับสนุนข้อความประโยคนี้ก็คือ
หากจะว่ากันไปแล้ว ลุงพลก็เปรียบเสมือนผู้ป่วยที่ต้องรีบทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
และต้องเป็นหมอที่สามารถจะเยียวยาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าหมอท่านอื่นๆ จะทำการรักษาได้ไม่ดีหรอกนะครับ
เพียงแต่ท่านอาจจะมุ่งรักษาเฉพาะอาการป่วยไปตามวิชาชีพที่ร่ำเรียนมา แต่สำหรับหมอที่กำลังจะเดินทางมาถึง
ถือได้ว่าเป็นหมอที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ผู้ป่วยคนนี้ต้องการ
เนื่องจากเขาสามารถที่จะรักษาอาการทั้งสองด้านนี้ควบคู่ไปด้วยกัน
ทั้งในด้านการรักษาโรคและการเยียวยาสภาพจิตใจ วัดได้จากช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา
คุณหมอท่านนี้ ไม่มีพฤติกรรมที่หวังจะเกาะกระแสความดังของผู้ป่วย
และนับว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีความครบเครื่องทั้งทางบู๊และทางบุ๋น
จากจุดเด่นที่น่าประทับใจเหล่านี้นี่เอง
ที่ทำให้ผมเกิดความเชื่อมั่นในฝีไม้ลายมือของคุณหมอท่านนี้เป็นอย่างยิ่ง ประกอบกับการที่คุณหมอ
ได้เคยต่อกรกับเชื้อโรคตัวแสบมาก่อนหน้านั้น
ทำให้ผมเกิดความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งเลยครับว่า
“นับจากนี้ คนไข้ที่ชื่อลุงพล
จะอยู่ในความดูแลของคุณหมอผู้เชี่ยวชาญที่ถูกคนแล้ว”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น