[ย้อนรอยประวัติศาสตร์] แหล่งเตาเมืองน่าน....บ้านบ่อสวก


 ในอดีตเมืองน่านเป็นเมืองลูกหลวงของอาณาจักรสุโขทัย จึงได้รับวิทยาการด้านเครื่องปั้นดินเผาจากสุโขทัย ศรีสัชนาลัย สังคโลก หากว่าชิ้นงาน สีของชิ้นงานแตกต่างกัน

แหล่งเตาเมืองน่าน....บ้านบ่อสวก
แหล่งเตาโบราณบ้านบ่อสวก นับเป็นแหล่งอุตสาหกรรมผลิตเครื่องถ้วยชามสมัยโบราณ สันนิษฐานว่าน่านจะมีอายุประมาณ 550-750 ปี โดยพบหลักฐานเตาเผาและเศษเครื่องถ้วยชามอย่างหนาแน่นตามบริเวณเนินดินริมห้วยปวนและลำน้ำสวกในเขตบ้านบ่อสวก
ในปี พ.ศ.2527 โครงการโบราณคดีประเทศไทย (ภาคเหนือ) หน่วยศิลปากรที่ 4 เชียงใหม่ ได้เข้ามาดำเนินการสำรวจแหล่งเตาเผาเมืองน่านที่บ้านบ่อสวก จนกระทั่งในปี พ.ศ.2542 โครงการวิจัยเครื่องถ้วยล้านนา โดย อ.สายันต์ ไพรชาญจิตร์ อาจารย์ประจำภาควิชาการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจากรองศาสตราจารย์สุมิตร ปิติพัฒน์ และสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ดำเนินการสำรวจและขุดค้นเตาเผาในที่ดินของครอบครัวพ่ออุ้ยแสนแม่อุ้ยชื่น ธิเสนา บริเวณบ้านบ่อสวก ต.สวก อ.เมือง จ.น่าน





แม่อุ้ยชื่น ธิเสนา เจ้าของที่ดินซึ่งจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์เฮือนบ้านสวกแสนชื่นและเตาเผาโบราณ เล่าให้ฟังว่า ได้มาปลูกบ้านในที่ดินนี้เมื่อประมาณปี 2526 ก่อนที่จะปลูกบ้านบริเวณที่พบเตาเผานั้นเมื่ก่อนเป็นจอมปลวกขนาดใหญ่ เมื่อให้รถไถมาเกรดจอมปลวกก็ไม่สามารถทำได้เพราะเป็นดินแข็งมาก ต่อมาจึงได้นำพวกผักสวนครัว ผลไม้มาปลูกในบริเวณใกล้ ๆ กัน ปลูกเท่าไหร่ก็ปลูกไม่ขึ้นเป็นโรคใบหงิกงอ พอดีลูกเขยได้ให้คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านมาดูก็บอกว่าเป็นบ่อน้ำเก่าก็เลยไม่ได้ทำอะไร


จนกระทั่งปี 2542 อ.สายันต์ ไพรชาญจิตร์ พร้อมกับ อ.สมเจตน์ วิมลเกษม จากโรงเรียนสตรีศรีน่านได้เข้ามาสำรวจบริเวณที่ชาวบ้านพบพระพุทธรูปบ้านบ่อสวก ซึ่งได้นำไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน โดยอาจารย์ทั้งสองท่านได้แวะเข้ามาในบริเวณบ้านของแม่อุ้ยชื่นและนั่งพูดคุยกับจ่ามนัสซึ่งเป็นลูกเขยเกี่ยวกับเครื่องถ้วยโบราณบ้านบ่อสวก และเดินสำรวจรอบ ๆ บ้านจนพบว่าบริเวณจอมปลวกขนาดใหญ่นั้นคือปล่องของเตาเผาโบราณ หลังจากนั้นจึงได้นำนักศึกษาโบราณคดีเข้ามาค้นสำรวจก็พบเตาเผาโบราณพร้อมกับเศษภาชนะดินเผาประเภทถ้วย หม้อ ไห ภายในเตา




จากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากคัมภีร์ใบลานล้านนา แหล่งเตาเผาที่นี่น่าจะเรียกว่า บ้านเตาไหเชลียง ซึ่งอาจารย์สายันต์ค้นพบชื่อของหมู่บ้านนี้ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ใบลานเรื่องตำนานพระธาตุแช่แห้งอยู่ที่วัดนาซาวภายหลังการขุดพบเตาเผาโบราณบ้านบ่อสวกขยายวงกว้างออกไป มีประชาชนผู้สนใจเดินทางมาชมแหล่งเตาเผาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก คณะสำรวจและครอบครัวของแม่อุ้ยชื่น ธิเสนาจึงมีความคิดที่จะจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เพื่อนำถ้วยไหและเศษภาชนะดินเผาที่พบขึ้นมา จัดแสดงให้กับผู้สนใจได้ชม จึงได้ตั้งพิพิธภัณฑ์เฮือนบ้านสวกแสนชื่นขึ้น โดยจำลองตัวอย่างของเรือนพื้นถิ่นบ้านบ่อสวก ตามรูปแบบคติความเชื่อและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวบ้าน ภายในจัดแสดงลักษณะวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านบ่อสวกสมัยโบราณ รวมทั้งแสดงโบราณ


วัตถุทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต การทำมาหากิน การอยู่อาศัยและเครื่องมือหินสมัยก่อนประวัติศาสตร์และเครื่องถ้วยชามสมัยโบราณอายุกว่า 700 ปีที่พบในแหล่งเตาเผาเมืองน่านบ้านบ่อสวก
ปัจจุบันแหล่งเตาเผาเมืองน่านบ้านสวกและพิพิธภัณฑ์เฮือนบ้านสวกแสนชื่น กลายเป็นแหล่งความรู้ทางโบราณคดีที่มีผู้สนใจเข้ามาเยี่ยมชมปีหนึ่งไม่น้อยกว่าหมื่นคน ในขณะเดียวกันชาวบ้านในชุมชนก็ได้มีส่วนสำคัญต่อการจัดการทรัพยากรและแหล่งท่องเที่ยวของตนเอง




ในกระบวนการจัดการนั้นก็ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นปราศจากปัญหา หากแต่มีทั้งส่วนที่ประสบความสำเร็จด้วยมิตรไมตรีและส่วนที่ล้มเหลวเพราะความขัดแย้งแย่งชิง “ทุกวันนี้พิพิธภัณฑ์เตาโบราณบ้านบ่อสวกและพิพิธภัณฑ์เฮือนบ้านสวกแสนชื่นจะเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ทางราชการก็ขึ้นป้ายแนะนำและชี้บอกทางว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีคนมาเที่ยวชมมากขึ้น แต่ครอบครัวของยายก็อยู่แบบเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะไม่ได้ทำเชิงพาณิชย์ ใครมาก็ต้อนรับ วันไหนไม่มีใครมาก็เป็นปกติ ก็คงจะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะทำแล้วสบายใจดี” ทว่าเหนือสิ่งอื่นใดจุดมุ่งหมายของการพัฒนาแหล่งโบราณคดีก็เพื่อก่อประโยชน์ทั้งต่อคนและชุมชนท้องถิ่นให้มากที่สุด
หากมีโอกาสได้แวะไปเมืองน่าน อย่าลืมไปเที่ยวชมแหล่งอารยะโบราณ เจ็ดชั่วอายุคนแห่งนี้ได้




Cr.Chaingmainews

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดินแดนล้านนา เมืองเชียงใหม่

(ชาติพันธุ์) ลาวทรงดํา ไทยทรงดํา ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง

มาชู ปิกชู ประเทศเปรู เมืองสาบสูญแห่งอินคา