[อมตะธรรม] หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ


 #ศรัทธาต้องมีปัญญาด้วย


มนุษย์ปุถุชนทุกคนย่อมมีศรัทธา(ความเชื่อ)ต่อบางสิ่งบางอย่างในหัวใจเสมอ 

บางคนก็ศรัทธาต่อตัวบุคคล บางคนก็ศรัทธาต่อหลักการหรืออุดมการณ์บางอย่าง

คนที่ไม่มีศรัทธามีอยู่เพียงสองประเภทเท่านั้นในโลกนี้ 

หนึ่ง คือ คนวิกลจริต

สอง คือ พระอรหันต์ ซึ่งมีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาบริสุทธิ์ ไม่จำเป็นต้องใช้ศรัทธาในการดำรงชีวิตอีกต่อไป


ในทางพุทธศาสนา เมื่อพระพุทธทรงตรัสถึงศรัทธาไว้ในหมวดใด พระองค์ก็มักตรัสเรื่องปัญญาให้เข้าคู่กับศรัทธาด้วยเสมอไป การที่ทรงกำกับศรัทธาด้วยปัญญา เป็นการแสดงให้เห็นว่า ศรัทธาที่ปราศจากปัญญานั้นเป็นอันตราย และปัญญาที่ขาดศรัทธาก็น่ากลัว จะนำไปสู่ความแข็งกร้าวจนไม่ยอมลงให้กับใครหรืออะไรทั้งสิ้น 

ดังนั้น ศรัทธาและปัญญาจึงต้องอิงอาศัยกัน กำกับกัน เช่น ในเบื้องแรกศรัทธาอาจนำไปสู่ปัญญา ในท่ามกลางปัญญาทำนห้าที่ตรวจสอบศรัทธา และในที่สุดปัญญานำไปสู่ภาวะเป็นอิสระจากศรัทธา ศรัทธามีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของปัจเจกบุคคลแต่ละคนเป็นอันมาก เพราะเราศรัทธา(เชื่อ)อย่างไร ชีวิตก็จะดำเนินไปในทิศทางนั้น จนเราอาจกล่าวได้ว่า "เราเป็นอย่างที่เราเชื่อ"


เมื่อศรัทธามีความสำคัญต่อชีวิตถึงเพียงนี้ เราแต่ละคนจึงควรทบทวนตัวเองว่า ระบบความเชื่อที่ตัวเราสมาทานอยู่นั้น เป็นระบบความเชื่อที่มีเหตุผลรองรับหรือไม่ หากเราเอาแต่เชื่อโดยที่ไม่เคยตั้งคำถามกับระบบความเชื่อที่ตัวเองสังกัด อย่างที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมขู่กันว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" เสียแล้ว วันหนึ่งเราอาจต้องสังเวยชีวิตให้กับระบบความเชื่อที่ผิดๆก็ได้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดินแดนล้านนา เมืองเชียงใหม่

(ชาติพันธุ์) ลาวทรงดํา ไทยทรงดํา ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง

มาชู ปิกชู ประเทศเปรู เมืองสาบสูญแห่งอินคา