[ข่าวลุงพล] จดหมายเปิดผนึกถึง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ที่เคารพ
จดหมายเปิดผนึกถึง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ที่เคารพ
ยังคงเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันได้ไม่หยุดหย่อน สำหรับกรณีการสร้างองค์ปู่พญานาคปาริจิตรนาคา ที่ตอนนี้ทางการ มีคำสั่งให้หยุดพักการก่อสร้าง เนื่องจากมีการสร้างทับบริเวณพื้นที่ของป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งคำถามที่ตามมา ยังคงเป็นเรื่องของการที่ว่า จะมีการทุบองค์ปู่พญานาคปาริจิตรนาคาหรือไม่ หลายคน ก็ได้แสดงความคิดเห็นต่างๆ นานากันออกไป ทุบหรือไม่ทุบ บางคนถึงขั้นอาสาจะมาทุบให้
ก่อนหน้านี้ ท่านทนายนิทัศน์ ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊คแฟนเพจว่า
จะลงไปบ้านกกกอก ปกป้องพญานาคดีไหม ใครไม่นับถือก็ไม่ควรมาทำลายจิตใจคนอีสาน และด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ท่านก็ได้ออกมาบอกแล้วว่า คงลงไปที่บ้านกกกอกในช่วงนี้ไม่ได้ แต่อยากช่วยปกป้ององค์ปู่พญานาคปาริจิตรนาคา วันนี้ท่านจึงเขียนจดหมายเปิดผนึกขึ้นมาฉบับหนึ่ง
จดหมายเปิดผนึกถึง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ที่เคารพ
ข้าพเจ้านายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล อาชีพทนายความ ขอเรียนมายังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารที่เคารพว่า
กรณีที่มีการก่อสร้างองค์พญานาคที่ หมู่บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร แต่ต่อมามีการร้องเรียน กล่าวโทษ ว่าที่ดินที่ใช้ก่อสร้างองค์พญานาค เป็นที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์(โฉนดที่ดิน) ให้กับราษฎรได้ ให้ใช้เพื่อการอยู่อาศัย และการทำเกษตรกรรมเท่านั้น การนำที่ดินดังกล่าว ไปทำการก่อสร้างองค์พญานาคเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย
ผลจากการร้องเรียนกล่าวโทษดังกล่าว เป็นผลให้มีการดำเนินคดีกับบุคคลบางคนไปแล้ว และจะมีการดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งถ้าพิจารณาตามหลักกฎหมาย ก็อาจขยายข้อกล่าวหาไปยังบุคคลอื่นได้ ถ้าเห็นว่าเข้าข่ายที่กฎหมายกำหนด
แต่การใช้กฎหมายนั้น ต้องตีความหรือขยายความอันเป็นคุณแก่ผู้ถูกกล่าวหา มิใช่การตีความหรือขยายความไปในทางที่เป็นผลร้าย ดังนั้น เมื่อเรื่องบานปลายออกไป อันอาจทำให้สังคมเล็กๆ สังคมหนึ่ง เกิดความไม่สงบขึ้น ประกอบกับสิ่งที่ก่อสร้าง คือองค์พญานาค เป็นที่นับถือของประชาชนชาวอีสานส่วนใหญ่ เป็นศูนย์รวมด้านจิตใจ เป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้าน ยังทำให้มีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและอื่นๆตามมา อันเป็นผลดีต่อชุมชน
ข้าพเจ้าในนามชาวพุทธ แม้มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าวโดยตรง แต่ก็ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจไปด้วย โดยมีประชาชนทุกภูมิภาค ได้แสดงความคิดเห็น ผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจของข้าพเจ้า และยูทูปเบอร์ที่ได้นำไปเผยแพร่ต่อ ไม่เห็นด้วยที่จะให้ทำการทุบทำลายองค์พญานาคเสีย เพราะนั้นเท่ากับทำลายจิตใจชาวพุทธที่นับถือองค์พญานาค โดยเฉพาะจังหวัดมุกดาหารและอีสานส่วนใหญ่
ข้าพเจ้าจึงทำหนังสือเปิดผนึก มาถึงท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้โปรดเข้าไปแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยใช้อำนาจทางการปกครอง ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป่าไม้ กรมทางหลวง ให้ใช้มาตรการทางการปกครองแทนการใช้กฎหมาย เพื่อให้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ยุติลง
ประชาชนที่ถูกร้องเรียนกล่าวโทษ ส่วนมากเป็นชาวบ้านธรรมดา หาเลี้ยงครอบครัวไปวันๆ มิได้มีผลประโยชน์อะไรมากมาย และสิ่งที่เกิดขึ้น ก็เห็นชัดเจนว่าไม่ใช่การทำลายป่า เพราะสภาพพื้นที่ดังกล่าวมิใช่ป่าแล้ว แต่เป็นที่ครอบครองต่อเนื่องกันมา แม้จะมีต้นไม้หวงห้ามหลงเหลืออยู่ ๔ ต้น นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทำให้พื้นที่นั้นเป็นป่า แต่เป็นที่ครอบครองของชาวบ้าน ก่อนที่จะได้ประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ
การบุกรุก ตัดไม้ทำลายป่านั้น ต้องเป็นการบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่มีการครอบครองมาก่อน และพื้นที่บุกรุก ต้องมีลักษณะเป็นป่ารกทึบมีต้นไม้ป่าเกิดขึ้นเกือบเต็มพื้นที่ หาใช่อยู่ในเขตพื้นที่ที่ประกาศเป็นป่าแล้ว ทุกพื้นที่ต้องเป็นป่าไปทั้งหมด การประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ เป็นการประกาศตามรูปแผนที่ จึงเป็นเพียงข้อสันนิษ ฐานว่า ที่ดินที่อยู่ในเขตแนวประกาศเป็นเขตป่า แท้จริงแล้วอาจไม่ได้เป็นป่าก็ได้
ดังนั้น การดำเนินคดีกับบุคคลจำนวนมากในที่ดินเพียงเล็กน้อย นอกจากจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมา ชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดี อาจไม่มีเงินทองเพียงพอ ที่จะไปว่าจ้างทนายความ หรือประกันตัวหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งไม่ก่อผลดีต่อความสงบสุขของชุมชนแต่อย่างใด
ความจริงแล้ว ที่ดินที่สร้างองค์พญานาค ต้องนำประมวลกฎหมายที่ดินมาใช้บังคับ ไม่ใช่นำกฎหมายป่าสงวนแห่งชาติมาใช้ เพราะที่ดินบริเวณหมู่บ้านกกกอก เชื่อได้ว่ามีประชาชนชาวภูไทมาอาศัยอยู่ก่อน พ.ศ. ๒๔๙๗ อันเป็นปีที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ และชาวบ้านน่าจะมีการแจ้งการครอบครองทำประโยชน์ ( ส.ค ๑ ) ในปี ๒๔๙๘ แต่กฎหมายป่าสงวนแห่งชาติ เพิ่งมาใช้เมื่อปี ๒๕๐๗ อันเป็นการแย่งการครอบครองจากชาวบ้าน แต่กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้ให้ความคุ้มครองไว้ ดังนั้น ประชาชนที่แจ้งการครอบครอง ( ส.ค.๑ ) มีสิทธิ์ในที่ดินดีกว่ารัฐ หรือดีกว่ากฎหมายป่าสงวนแห่งชาติแน่นอน
ด้วยเหตุผลดังที่ได้กราบเรียนมาข้างต้น ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เร่งมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยใช้หลักรัฐศาสตร์แทนหลักกฎหมาย ใช้อำนาจหน้าที่ หรือประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป่าไม้ กรมทางหลวง อนุญาตให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ผ่อนผันให้ก่อสร้างองค์พญานาคได้ โดยมิให้ทำลาย ขนย้าย หรืออื่นๆ เพื่อความสงบของชุมชน และส่งเสริมจิตใจของชาวพุทธ ที่นับถือองค์พญานาคไม่ให้ถูกทำร้าย หรือบันทอน อันไม่ก่อผลดีแต่ประการใด โดยใช้ตัวอย่างการแก้ปัญหา สร้างศาสนสถานบุกรุกป่าในจังหวัดภูเก็ตเป็นแบบอย่าง
ท้ายนี้หวังว่าหนังสือเปิดผนึกของข้าพเจ้าดังกล่าว คงส่งผ่านไปถึงท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และเร่งรีบเข้ามาแก้ไขปัญหาในทันที่ แต่ถ้าข้าพเจ้าเห็นว่า ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ทราบข้อความตามหนังสือนี้แล้วก็ยังเพิกเฉย ข้าพเจ้าก็จำต้องดำเนินการต่อไปตามที่เห็นควร
จึงกราบเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล
๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น