จักรี แบ่งปันรอยเศร้า ในดวงใจ

 

จักรี แบ่งปันรอยเศร้า ในดวงใจ

 

ชื่อจักรีเป็นชื่อของสูง แต่หนุ่มน้อยคนหนึ่งนำมาใช้เป็นชื่อ  ดังนั้น  จึงอาจเป็นอาถรรพ์ที่ทำให้ คนที่ชื่อนี้ป่วยเป็นโรครักษายาก   แต่มูลเหตุที่มาของชื่อนี้ เพราะหนุ่มน้อยเกิดในวันที่ ๖ เมษายน ณ คลินิกหมอจักรี อ.หนองหาน จ.อุดรธานี จึงถูกหมอที่ทำคลอดนามว่าจักรีตั้งชื่อให้

 

ด้วยวัยยังหนุ่มน้อย แต่ใจรักความยุติธรรม เป็นคนตรงไปตรงมา ทำให้ชอบช่วยเหลือผู้ถูกรังแก แต่ไม่ชอบรังแกคนอื่น

เมื่อจบ มศ.๓ เกิดป่วยเป็นโรคที่รักษายาก ต้องมารักษาที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ  ทำให้ต้องหยุดเรียน แต่ไม่หยุดต่อสู้ชีวิต  จนเมื่อกลางปี ๒๕๖๓ เกิดคดีน้องชมพู่ จึงได้เฝ้าติดตามทำให้มีข้อมูลหลากหลายอยู่ในสมอง และมองเห็นว่า ลุงพล ไม่น่าจะใช่คนร้าย  ดังนั้นเมื่อมีข่าวจะมีการจับกุมลุงพล จึงได้ออกตัวมาปกป้อง ด้วยใจบริสุทธิ์ ทำให้ชื่อของ จักรี แบ่งปันรอยยิ้มคนพเนจร เป็นที่รู้จักของสื่อโซเชียลอย่างแพร่หลาย

 

ใครที่เป็นศัตรูกับลุงพล ก็คือศัตรูของจักรี ใครที่เป็นเพื่อนลุงพลจักรีเป็นเพื่อนด้วย   แต่จักรีหารู้ไม่ว่า ในโลกกลมๆ ใบนี้ บางคนอาจจะดูเป็นมิตร แต่อาจไม่เป็นมิตร บางคนอาจดูเป็นศัตรูแต่อาจดีกว่ามิตร

 

ท่าน อ. คือศัตรูของลุงพล ดังนั้น จักรีจึงถือว่าเป็นศัตรูของจักรีด้วย แต่ด้วยวุฒิภาวะและวัยที่ยังอ่อนต่อโลก จึงทำให้ทำอะไร ไม่ทันคิดระวัง ด้วยใจใสซื่อ  ข้อมูลอะไรที่ทำให้ท่าน อ.เสียหาย จะถูกส่งเสริมและยุยงให้จักรีนำมาเผยแพร่ โดยจักรีหารู้ไม่ว่า อะไรจะตามมา

วันหนึ่งท่าน อ.เปิดสงครามด้านกฎหมายกับ ลุงพล  จึงทำให้จักรีมีความขุ่นข้องหมองใจท่าน อ.มาก แต่ด้วยความเป็นหนุ่มน้อย จึงไม่สามารถต่อกรกับพญาราชสีห์ได้  แต่อาจจะด้วยการส่งเสริมให้ต่อกรจากคนรอบข้าง ทำให้จักรีเขียนบทความหลายอย่างที่ทำให้ท่าน อ. เสียหาย   ทำให้ท่าน อ.ทนไม่ได้ ที่จะให้เด็กตัวน้อยๆ มาดูถูกเหยียดหยาม จึงใช้กฎหมายจัดการเพื่อสั่งสอน ทำให้หนุ่มน้อยจักรีต้องตกที่นั่งลำบาก กลายเป็นผู้ต้องหา

แต่เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น จักรีใจเกินร้อยไม่เคยโทษใคร ไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใคร ก้มหน้ามองดิน ยอมรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น  ตัดสินใจเดินทางมากรุงเทพ เพื่อมาพบเจ้าพนักงานตำรวจด้วยตนเอง หวังตายเอาดาบหน้า แต่ก็ยังคิดถึงเชฟยัน  ซึ่งครั้งหนึ่งเคยพบเจอกันที่กกกอก ให้มาเป็นเพื่อนนำทางไปสถานีตำรวจ

 

ความทราบถึงทนาย เกิดความสงสารหนุ่มน้อยนามว่าจักรี จึงอาสาเดินทางไปเป็นเพื่อนด้วย   หลังจากเสร็จกิจธุระกับทางเจ้าพนักงานตำรวจแล้ว  จักรีจึงถูกเชิญไปทานอาหาร ชมทะเลกรุงเทพฯ ทำให้ความทุกข์ที่สะสมอยู่ในใจค่อยผ่อนคลายลง

 

เมื่อความทุกข์เริ่มลดลง จักรีก็เริ่มเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปให้ทนายฟัง ว่าทำไมถึงต้องออกตัวท้าชนท่าน อ. หรือเรียกง่ายๆ ว่าไปท้ารบท่าน อ. ซึ่งนับตั้งแต่รู้ว่าจักรีถูกดำเนินคดี และต้องมาพบเจ้าพนักงานตำรวจ  ไม่เคยมีใครสอบถาม ไม่เคยมีใครยื่นมือเข้าช่วยเหลือ คือไม่สนใจทุกอย่าง นอกจากส่งเสียงเย้วๆ สนับสนุนตอนที่ยังไม่เกิดเรื่อง  จักรีต้องหาทุน หาเงิน หาเพื่อนมาโรงพักเอง ด้วยความห่วงใยจากพ่อแม่ ที่อยู่ทางบ้านพร้อมเงินที่มีติดตัวน้อยนิด

 

สิ่งที่เกิดกับจักรี ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่าหุ่นเชิด บทความนี้ถ้าใครเคยส่งเสียงสนับสนุน ให้จักรีต้องตกที่นั่งลำบาก อยากให้ยื่นมือเข้ามาช่วยจักรีบ้าง ไม่มากก็น้อย ดีกว่าแกล้งปล่อยไม่รู้ไม่ชี้  มันจะเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิตได้ 

 

ส่วนพญาราชสีห์ถ้าได้อ่านเจอ ทนายอยากขอความกรุณาให้อภัยจักรีสักครั้งนะครับ การที่เด็กกล้าเปิดหน้าท้ารบกับท่าน บางทีเขาอาจจะมองในมุมที่เด็กเขามองกัน ทำให้ท่าน อ.ต้องมาเป็นศัตรูกับเด็ก   ซึ่งเป็นการรบที่ไม่สมศักดิ์ศรี เหมือนราชสีห์ทะเลาะกับลูกแกะ ชนะไปก็ไม่มีประโยชน์ มันเป็นการทำลายภาพพจน์พญาราชสีห์ครับ

เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ มีเพียง ๓ คนที่รู้ คือตัวน้องจักรี เซฟยัน และทนายเท่านั้นครับ ที่จะเก็บความลับนี้ตลอดไป ถ้าเราเป็นปัจเจกชน เราจะใช้เหตุผลคุยกันครับ

ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล  ๑๗ กพ ๖๔ กทม.