[ข่าวลุงพล] คำโกหก ที่ปกปิดบางสิ่ง อาจซ่อนความจริง คดีน้องชมพู่ไว้
คำโกหก ที่ปกปิดบางสิ่ง อาจซ่อนความจริง คดีน้องชมพู่ไว้
เรายังคงจำกันได้นะครับว่า
เมื่อตอนที่เกิดเรื่องขึ้นใหม่ๆ แม่น้องชมพู่ห่วงน้องสะดิ้ง
กลัวถูกคนทำร้าย จำใจให้ลูกโกหก ขนาดแม่ยังสอนให้ลูกโกหก
นับประสาอะไรกับแม่ที่จะยอมพูดความจริง คุณให้ลูกโกหก เพราะกลัวลูกมีภัย ก็แสดงว่าคุณรู้สิ ว่าใครทำ
ถ้างันก็ไม่มีเหตุผลที่จะให้ลูกพูดโกหก
เราทุกคนล้วนเคยโกหก ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่
ผมเองก็เคยโกหก ผมคิดว่าคุณทุกท่านก็น่าจะเคยโกหก การโกหกคือทางเลือกหนึ่ง
ที่หลายคนหยิบมาใช้ เราทุกคนไม่ได้สมบูรณ์แบบ บางทีคำโกหก คือ ส่วนที่ช่วยเติมเต็มหรือปกปิดความไม่สมบูรณ์นั้นๆ
เพื่อหลีกเลี่ยง ไม่ให้มันทำร้ายตัวเรา หรือ ใครบางคน การโกหกตัวเอง การโกหกผู้อื่น
การโกหกคนที่เรารัก ซึ่งหมายรวมถึงเพื่อน ศัตรู
หรือคนสนิทชิดใกล้ เป้าหมายอันที่จริงมีหลากหลายมากกว่านี้ คงไม่ต้องยกตัวอย่างทั้งหมด
โกหก คือ ดาบ แต่ตัวคำนั้นโดยปกติเราจะดูว่ามันไม่ดีอยู่แล้ว
อย่างเช่น โกหกตัวเอง บางทีเป็นเทคนิค การโกหกที่ใครหลายคนใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพ
หรือความมั่นใจของตัวเอง โกหกมีตั้งแต่เรื่องที่ดูเหมือนเล็ก เช่น ตำแหน่งที่อยู่ เวลานัดใครแล้วเจอถามว่าอยู่ไหน
สมัยนี้การติดต่อมันง่ายกว่าแต่ก่อนที่ ไม่มีมือถือส่วนตัวอย่างแพร่หลาย
เหมือนเช่นในสมัยนี้ สมัยก่อนนัดกันต้องเจอตามเวลา ถ้าไม่เจอก็คือไม่เจอ
ติดต่อไม่ได้ อย่างมากได้แต่โทรหาเข้าบ้าน
การโกหกเพื่อปกปิดความจริงที่อาจทำให้รู้สึกแย่
เช่น เราพึ่งตื่น กำลังจะออกไป จนถึงใช้การโกหกในเชิงของการทหาร
เพื่อบิดเบือนข้อมูล ที่ผมเอ่ยเรื่องนี้ ไม่ใช่ให้มองว่าอันไหนถูกอันไหนผิด
ผมคงฟันธงให้ไม่ได้ ประเด็นคือ การโกหกที่จำเป็นต้องทำ ในปริมาณมาก เช่น
ในโลกสมบูรณ์ คือ ตลอดไป เช่นการพยายามเป็นในสิ่งที่ตัวเราไม่ได้เป็น
ไม่ได้รู้สึกจริงๆ ซึ่งในเรื่องนี้ มีทั้งในเชิงที่ดีและที่ไม่ดี
บางคนอาจสามารถทำได้
แต่โดยมากจะเปลี่ยนจากการโกหก เข้าสู่โหมด " สันดานโกหก " คือ
โกหกกับทุกคน ทุกเรื่องโดยเป็นเหมือนธรรมชาติ หลายคนผสมโกหกตัวเอง เพื่อให้ตัวเองเชื่อ
แต่สุดท้ายบ่อยครั้งก็ยังมีคนรู้ความจริงในที่สุด
ไม่ว่าจะโกหกเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่
สิ่งที่น่ากังวล คงเป็นการที่ เราเอามันไปใช้ในทิศทางไหน และ กับใคร และควบคุมไม่ให้หลงใหล
กับความรู้สึกมีอำนาจของการโกหก ที่ทำให้ได้อะไรมาง่ายๆ
ที่สุดท้ายก็อาจสูญเสียมันไป หรืออาจต้องแลกกับการเปลี่ยนตัวเองครั้งใหญ่ ให้กลายเป็นคนที่โกหกได้จนเป็นปกติ
จนบ่อยครั้ง คนเหล่านี้ไม่สามารถแยกได้ว่า จะพูดความจริงกับใคร
ผิดไม่ผิดผมไม่ใช่คนตัดสิน ผมรู้ว่าทุกวันนี้
บางทีเราก็จำเป็นที่จะต้องโกหก หรือไม่ก็พูดไม่หมด แต่ที่สำคัญกว่าคือ เพื่ออะไร เพื่อใคร
และผลลัพธ์คืออะไร ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ทุกสิ่งล้วนเชื่อมเกี่ยวกันและกัน
ในกรณีของแม่น้องชมพู่
ที่ให้ลูกสาวพูดโกหกว่านอนหลับตั้งแต่ตอนแรก ด้วยเหตุผลที่ว่า
เป็นห่วงความปลอดภัยของลูกสาว บ่งบอกถึงนัยยะบางอย่างได้เป็นอย่างดีว่า ถ้าคุณไม่โกหก
เพื่อปกปิดความจริง เรื่องราวบางสิ่ง อาจใช้อ้างอิงคดีน้องชมพู่ ก็เป็นได้

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น