[ข่าวลุงพล] ทนายสมเกียรติ โรจนวรกมล เตือนให้ระวัง อย่าปล่อยให้กาย วาจา ใจ ของตัวเอง สร้าง วจีทุจริต
อ่านโพสต์ในเชิงคติธรรม ของท่านทนายสมเกียรติ
โรจนวรกมล ที่ท่านได้โพสต์ลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัวของท่าน มีเนื้อหาใจความว่า
ระวัง อย่าปล่อยให้กาย วาจา ใจ ของตนเอง ต้องดำดิ่งถลำลึกลงไป
ในสิ่งที่ไม่ถูกต้องมากไปกว่านี้เลยนะครับ มันจะถอนตัวไม่ขึ้น และอาจต้องจมอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์
ของใจตนเองอย่างเดียวดาย ไปจนตราบชั่วกัลปาวสาน
อนึ่ง กฎหมายมิได้มีไว้ใช้เป็นอาวุธ ในการทำลายคนอื่น
แต่มีไว้เพื่อช่วยคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่านั้น ปล.จิตถ้าระลึกชอบได้ แม้เพียงเสี้ยววินาทีแล้วสามารถแก้ไขจิตของตนเองได้
หลวงปู่ดู่เคยให้คติธรรมคำสอน
คนที่พูดไม่ดี ชอบใส่ร้ายคนอื่น ผลกรรมจะรุนแรงมาก
เรื่องของวาจา ใช่ว่าไม่สำคัญ
เพราะคำพูดทำให้คนรักกันได้ และทำให้คนเกลียดกันได้ ฉะนั้นก่อนจะพูดสิ่งใดออกไป
ควรมีสติคิดก่อนพูดอยู่เสมอๆ หากพูดดี ย่อมนำพาแต่สิ่งที่ดีๆ มาให้กับตนและผู้อื่น
หากพูดไม่ดี ย่อมนำความเดือดเนื้อร้อนใจมาสู่ผู้อื่น
และกรรมนั้นก็ย่อมตกถึงตัวผู้พูดด้วย
ในทางพระพุทธศาสนา การพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ เรียกว่า “วจีทุจริต” คือ การทำชั่วด้วยวาจา เป็นการกระทำบาปอย่างหนึ่ง
ส่งผลให้เกิดกรรมตามมา ต่อผู้กระทำหลากหลายประการ แต่จะหนักเบาไปตามเจตนา
หลวงปู่ท่านมักกล่าวถึงมงคลที่สำคัญ ที่ท่านอยากให้ลูกศิษย์ได้นำไปปฏิบัติคือ
มงคล 38 ประการ
มงคลที่ท่านพูดถึงบ่อยนั่นคือ
สัมมาวาจาชอบ คือ พูดแต่สิ่งที่เป็นมงคล ท่านว่าคนส่วนมาก มักสร้างกรรมทางวาจา
เพราะกรรมนี้สร้างได้ง่าย แต่เขาไม่รู้หรอกว่าผลของกรรม
เมื่อส่งผลจะร้ายแรงเพียงไรคำพูดนั้นสำคัญมาก บางคนพูดไม่ดีกับผู้อื่น
จนเป็นเหตุถึงโกรธเกลียดกันชั่วชีวิตก็มี บางรายคำพูดเพียงไม่กี่คำ
ก็ทำให้ไม่พูดกันไปหลายปี คนส่วนมากที่ขึ้นโรงขึ้นศาล
หรือทะเลาะกันจนไปถึงฆ่ากันตาย ก็เพราะคำพูดที่ไม่ดีนี่แหละ
หลวงปู่ท่านสอนอยู่เสมอว่า
อย่าไปพูดไม่ดีกับใครเขา ถ้ามีคนมาว่าหรือด่าเราแต่เราไม่ว่าหรือด่าเขาตอบ
มันก็จะไม่มีเรื่องกัน แต่ถ้าไปด่าเขาเมื่อไรนั่นแหละ เรื่องใหญ่
ท่านสอนศิษย์เสมอว่า อย่าไปพูดทำลายความหวังของใครเขา เพราะนั้นอาจจะเป็นความหวังเดียวที่เขามีอยู่
ถ้าไปพูดเข้าเมื่อไหร่
กรรมใหญ่จะตกแก่ตนเอง ท่านบอกไว้อีกว่า คนที่ชอบด่าหรือใส่ร้ายผู้อื่น รวมไปถึงการพูดไม่ดีกับคนอื่นนั้น
กรรมจะมาเร็วมาก เขาผู้นั้น จะเป็นคนที่มีศัตรูทั้งภายนอกและภายใน
ไม่เป็นที่รักของคนทั่วไป ตรงกันข้ามกับเป็นคนที่น่ารังเกียจแก่คนทั้งหลาย
กรรมนี้จะทำให้เขามีเรื่อง และเดือดร้อนอยู่เสมอ ทั้งทางกายและทางใจ
บางคนทำกรรมนี้ไปเรื่อย อย่างไม่รู้ตัว
พอกรรมดีที่ตนเคยสร้างมาแต่ปางก่อนหมดหรือเหลือน้อยลง
กรรมชั่วที่สร้างนี้ ก็จะสนองเขาอย่างหนัก
ทั้งในภพนี้และภพหน้า ในภพนี้เวลาที่กรรมดีแต่ปางก่อน จะส่งผลให้มีความสุขหรือมีโชคลาภ
กรรมชั่วก็จะเข้ามาตัดรอนกรรมดี เหมือนอย่างเขาผู้นั้นซื้อหวยเลข 56
หวยก็จะออกเลข 55 หรือ 57 บางทีก็ติดต่อการค้าหรืองานต่างๆ
มองเห็นอยู่ว่า งานนี้ได้แน่นอน แต่พอถึงเวลาก็ไปไม่ทันบ้าง
ไปแล้วไม่เจอหรือมีเหตุต่างๆ มาทำให้มีอุปสรรคอยู่เสมอ
ซึ่งที่จริงแล้ว ผู้นั้นจะมีโชคที่ควรได้ประมาณเป็นล้าน
เขาก็จะได้แค่หมื่นสองหมื่น หรือโชคครั้งนี้จะได้หลายหมื่น แต่เขากับได้เพียงไม่กี่พันบาท
หรือเพียงได้ไม่กี่ร้อยเท่านั้นเอง นี้เป็นเพราะกรรมชั่ว เข้ามาตัดรอนกรรมดี และรวมถึงญาติพี่น้องลูกหลาน
เขาเหล่านั้นก็จะทำความเดือดร้อนเสียหายมาให้ มีพี่น้องหรือญาติไปจนถึงเพื่อนฝูง
ก็จะโกงทรัพย์สินเงินทองของเราบ้าง บางครั้งก็พูดใส่ร้ายให้โทษ ด่าว่าทะเลาะวิวาท ทำให้เราไม่สบายกายและสบายใจเป็นอย่างมาก
มีเรื่องเดือดร้อนต่างๆ อยู่ตลอดเวลาอย่างไม่จบสิ้น
มีลูกหลานก็จะดื้อด้าน ว่านอนสอนยาก
ทำความเดือดร้อนให้เสียเงินทองอยู่มิได้ขาด ว่ากล่าวลูกหลานก็ไม่เชื่อฟัง
ไม่เคารพนับถือ ลูกหลานบางคน ก็จะอกตัญญูตนเอง มักจะเดือดร้อนด้วยการเป็นโรคร้ายที่รักษายาก
หรือรักษาไม่หาย เช่น อัมพฤต อัมพาต มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคร้ายต่างๆ อีกมากมายหลายชนิด
หลวงปู่ท่านบอกไว้ว่า กรรมทางวาจามีผลร้ายแรงมาก
การที่เราพูดใส่ร้ายหรือพูดไม่ดี จนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและเสียใจ
หรือไปพูดทำลายความหวังต่างๆ ของเขา ถ้ารู้ตัวให้หยุดเสีย ถ้าไม่หยุดหรือเลิกทำเสีย
กรรมไม่สนองแต่ในชาตินี้ พอตายลงไป ยังต้องไปใช้กรรมยังนรก ตามขุมต่างๆ อีก ท่านจะพูดและสอนศิษย์อยู่เสมอว่า
“คนดีเขาไม่ตีใคร” ความหมายว่าคนดีไม่ตีใคร
ไม่ใช่เอาไม้หรือของแข็ง ไปตีเขา แต่ท่านไม่ให้พูดจาไม่ดี ด่าว่าใส่ร้าย
ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสียหายและ “ทุกข์ใจ”
เช่นเดียวกัน กับคนที่คอยดุด่าว่าร้ายให้ลุงพล
โดยอารมณ์เกลียดชังส่วนตัว หรืออารมณ์ร่วมกับคนอื่น แล้วผรุทสวาทถ้อยคำต่ำตม
ผสมอารมณ์ครื้นเครงสนุกสนาน ท่านก็จงพึงระลึกไว้ก็แล้วกันว่า
ท่านได้สร้างวจีทุจริตขึ้น โดยที่คุณรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว อันนั้นขึ้นอยู่กับอารมณ์ร่วมของคุณในช่วงเวลานั้น
แต่คุณจงรับรู้ไว้เลยว่า คุณได้สร้างกรรมทางวาจาโดยสุจริตใจแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น