[ข่าวลุงพล] ข่าวรั่ว ข่าวหลุด ข่าวเป็นไปได้ ไม่ใช่ข่าวปล่อยข่าวลวง
เรื่องราวปรัมปรา แค่อยากเล่าให้ฟัง สุนัขจิ้งจอกกับลาเป็นเพื่อนกัน
พวกมันสัญญากันว่าจะคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันยามมีภัย วันหนึ่ง ขณะที่สัตว์ทั้งสองตัวออกไปล่าเหยื่อด้วยกัน
สุนัขจิ้งจอกเหลือบไปเห็นสิงโตตัวหนึ่งกำลังเดินตรงมา มันรีบบอกลา “ลาเพื่อนรัก
ท่านรออยู่ที่นี่ก่อนนะ ข้าจะอาสาเดินไปเจรจาผูกมิตร กับสิงโตตัวนั้นเสียก่อน
พวกเราจะได้ปลอดภัย” ว่าแล้วสุนัขจิ้งจอกก็เดินตรงเข้าไปหาสิงโต
มันบอกกับสิงโตว่า ถ้าสิงโตปล่อยมันไป มันจะล่อลวงลามาให้กินอย่างสะดวกสบาย
ไม่ต้องวิ่งไล่จับให้เหนื่อย ในที่สุดลาก็ตกเป็นเหยื่อของสิงโต พอกินลาเสร็จ
สิงโตก็หันมาตะปบสุนัขจิ้งจอกกินเป็นอาหาร
ก่อนตายสุนัขจิ้งจอกก็พูดเป็นเชิงตัดพ้อว่า “ท่านไม่น่าทรยศกับข้าเลย” สิงโตหัวเราะก่อนจะตอบว่า
“ทีเจ้ายังทรยศกับลา ที่เป็นเพื่อนของเจ้าได้
ทำไมข้าจะทรยศต่อเจ้าไม่ได้”
มิตรที่ตีสองหน้า คือ นิสัยที่เขาเป็น จนกลายเป็นปกติ
หรือที่เรียกว่า สันดาน ไม่ใช่แค่กับคุณหรอกนะ
แต่เขาเป็นเช่นนี้กับทุกคน แม้แต่คนที่ไม่เคย “ร้าย” กับเขาก็ตาม
เพราะเขาไม่ได้ต้องการ ให้ใครมา ดีกับเขา เขาแค่ต้องการไม่ให้ใคร
“ดีไปมากกว่าเขา” เท่านั้นเอง ดังนั้น ทุกคนที่ “ดีกว่าเขา” เหนือกว่าเขา
เก่งกว่าเขา จะต้องถูกความรู้สึก ความต้องการเป็นที่หนึ่งของเขา “นินทา” และ
“ว่าร้าย” ในสักวัน ความสุขของเขาคือ การกดให้คนอื่นดู “ต่ำลง” เพื่อดึงตัวเองให้
“สูงขึ้น” แต่ช่างหน้าเสียดาย เขาทำได้แค่
“รู้สึกสูงขึ้น” แต่เขา “ไม่ได้เป็น” เช่นนั้น เพราะการกระทำที่
“ไร้ระดับ” มัน “ยกระดับคน” ไม่ได้
การอยู่เฉยๆของคุณ
จะทำให้เขายิ่งร้อนรุ่ม ภายในใจ ขอให้ “เห็นใจ” และ “ให้อภัย” เขา แล้วอยู่สูงๆ เปล่งประกาย “ความสุข” ของคุณต่อไป เพราะเมื่อเขาทำกับคุณไม่ได้ผล
เขาก็จะ “เหนื่อย”
และ “ท้อ” ไปเอง เราไม่จำเป็นต้อง “ตอบโต้” ทุกคนที่เข้ามาว่าเราหรอก
มันเสียเวลาเปล่า ถ้าเราต้องเถียงกับคนอื่นทุกครั้งที่เห็นต่าง
วันๆ ก็คงไม่ต้องทำอะไร หมดเวลาที่จะเดินไปให้ถึงเป้าหมาย แทนที่จะ
“เสียเวลา” ไปเอาชนะ หาทางไปให้ถึง “เป้าหมาย” ของเราจะดีกว่า จงจำไว้ว่า
ไม่มีใครเก่งขึ้นจากการ “นินทาว่าร้ายหรือหักหลังเพื่อน” แต่จะเก่งขึ้นได้คือ
โฟกัสที่ “เป้าหมายข้องตัวเอง” ไม่มีใครร่างกายแข็งแรงขึ้น จากการ “สอนคนอื่นออกกำลังกาย” แต่ร่างกายจะแข็งแรงขึ้นได้
จากการ “ออกกำลังกายให้ตัวเอง”
ข่าวรั่ว ข่าวหลุด
ข่าวเป็นไปได้ ไม่ใช่ข่าวปล่อยข่าวลวง มีข่าวหลุดออกมาว่าจะมีการออกหมายจับ
คดีน้องชมพู่ ถึง 6-7 คน ภายในเร็วๆ วันนี้ ข่าวดังกล่าวทนายฟังธงว่า
น่าจะเป็นไปได้มาก เพราะว่าบ้าน 4 หลัง แบ่ง 2 กลุ่ม กลุ่มแรก3 หลัง กลุ่ม 2 หนึ่ง 1 หลัง
เมื่อเกิดเหตุน้องชมพู่ตาย อันเกิดจากความประมาท เพราะน่าจะมีคนหนึ่งคนใดในกลุ่ม นำตัวน้องชมพู่ไปซ่อนไว้ เพื่อเจรจาตกลงกันบางอย่าง แต่เมื่อเกิดความวุ่นวาย กลายเป็นข่าวใหญ่โต
มีการระดมคนเข้ามาช่วยค้นหา เป็นเหตุให้ต้องปล่อยน้องชมพู่ไว้เดียวดาย ไม่สามารถไปดูแลได้ ทำให้น้องชมพู่ถึงแก่ความตาย
เมื่อสื่อติดตาม ประชาชนสนใจ ต้องการทราบว่าใครเป็นคนฆ่าน้องชมพู่ หรือเพราะปัญหาใด ทำให้ต้องมาลักพาตัวน้องชมพู่ไป
ทำให้น้องชมพู่ตาย ใครบ้างที่เกี่ยวข้องรู้เห็น ใครบ้างช่วยกันปิดบัง ใครบ้างช่วยกันโกหกเป็นต้น
มีการคาดการณ์ไปต่างๆ นานา ว่าใครเป็นผู้กระทำความผิดดังกล่าวบ้าง
ซึ่งความสงสัยของประชาชน แบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มหนึ่ง โทษทางครอบครัวน้องชมพู่และคนใกล้ตัว
ส่วนหนึ่งโทษมาทางลุงพลเมื่อมีข่าวปล่อยออกมา ทำนองโยนหินถามทางมาทางลุงพล ทำให้ผู้ที่คิดว่า
ลุงพลไม่ได้กระทำความผิด อย่างเช่นทนาย และประชาชนส่วนหนึ่งที่เฝ้าติดตามเรื่องมาตลอด
ก็ออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ ในทำนองไม่เห็นด้วย ไม่เชื่อว่าลุงพลจะเป็นคนร้าย เป็นข่าวโด่งดังสร้างเรตติ้งออกมาอีกครั้งหนึ่ง
เจ้าพนักงานตำรวจที่ทำงานยากอยู่แล้ว ก็เลยยากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะออกหมายจับใครก็ต้องอธิบายให้ประชาชนหายสงสัยให้ได้
เมื่อหลายกระแสเห็นว่าลุงพลไม่ใช่คนร้าย แต่ลุงพลอาจให้การปิดบังอะไรบางอย่าง หรือบางอย่างไม่สามารถพูดออกไปได้
เพราะจำต้องให้การช่วยเหลือคนเป็น หรือพูดออกไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถูกด่าถูกว่า
เป็นการโยนความผิดหรือเอาตัวรอด หวานอมขมกลืน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก บอกไม่ถูก พูดไม่ได้ ก็น่าเห็นใจอยู่นะ
ความเป็นไปได้ คดีนี้น่าจะมีผู้ต้องหาเป็นกลุ่มๆ ไป
เช่นกลุ่มแรก ตัวการหรือผู้ใช้ให้กระทำความผิดในข้อหา พรากผู้เยาว์ หน่วงเหนี่ยวกักขัง
ประมาททำให้ถึงแก่ความตาย ซ่อนเร้นปิดบังอำพรางศพ กลุ่ม 2 สนับสนุนให้มีการกระทำความผิดในกลุ่มแรก กลุ่ม 3
ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน
เมื่อนับรวม 3 กลุ่มจะเห็นว่า มีตัวการหรือผู้ใช้ มีผู้สนับสนุนกระทำความผิดและให้การเท็จ
รวมบ้าน 4 หลัง 8 คน ถ้าผลออกมาในลักษณะนี้ เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่รับได้
แต่จะมีเหลือรอดไม่ถูกดำเนินคดีน่าจะประมาณ
1-2 คนเป็นอย่างมาก
ใครจะรับบทหนักสุด อันนี้คาดเดาไม่ยาก แต่ไม่น่าจะใช่ลุงพล
ใครที่เงียบที่สุดก็อาจจะอยู่เบื้องหลังมากที่สุด
ซึ่งเป็นไปตามหลัก ผู้กระทำ
ผู้ใช้ หรือผู้จ้างวาน มันไม่แสดงตนให้คนเห็น ถ้าลุงพลไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่เริ่มแรก
พลัดหลงเข้ามารู้เห็นในภายหลัง แต่พูดไม่ได้ แถมช่วยปิดบังบางอย่าง ถ้าเป็นไปตามนี้จริง แฟนคลับลุงพลจะรับได้หรือไม่ครับ
ส่วนทนายเห็นใจทุกฝ่าย เมื่อสูญเสียคนหนึ่งไปแล้ว
จะช่วยคนเป็นหรือช่วยคนตาย จะช่วยกันแก้ปัญหาหรือเป็นศัตรู มันคิดยากจริงๆครับ
หันซ้ายนี้ก็ญาติ หันขวานี้ก็ญาติ แต่เมื่อท้ายสุดจำใจต้องลงที่ใครคนใดคนหนึ่ง ลุงพลเข้าทางที่สุด ทำให้เกิดกระแสคัดค้านวุ่นวายกันมาจนทุกวันนี้
เมื่อปัญหาเกิดจากการไม่พูดความจริง หรือจำเป็นต้องปกปิด อันนี้โทษใครไม่ได้นอกจากโทษตัวเอง
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามนี้ คดีอื่นๆ
ที่ชาวบ้านตาดำๆ หาเช้าไม่พอกินตอนค่ำ
ปล่อยเขาไปเถอะครับ เพราะคดีที่ถูกกล่าวโทษ ใครๆ ก็เห็นว่ามันไม่ควรเป็นคดี มันเป็นการโยนคดีให้มากกว่า
เพราะอะไรก็เห็นๆกันอยู่ เวลานี้ไม้หวงห้ามถ้าปลูกในที่มีเอกสารสิทธิ์ ( โฉนด หรือ สปก
น่าจะรวม น.ส. ๓ ก. ) เจ้าของที่ดินสามารถตัดได้ ไม่ผิดกฎหมาย ส่วนการทำลายป่านั้น
ต้องมีเจตนาทำลาย และต้องดูว่ามีสภาพเป็นป่าหรือไม่ด้วย ที่ดินที่มีการสร้างองค์พญานาค
ไม่หลงเหลือความเป็นป่าแล้ว อยู่ข้างถนน แถมข้างบ้านคน มีแค่ต้นกระถินป่า มีการครอบครอง
ทำประโยชน์อย่างต่อเนื่องมาก่อนประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ แถมมีเนื้อที่ไม่ถึงไร่
จะเอากันเป็นเอากันตายกับชาวบ้านเลยหรือ อย่าอาศัยช่องว่างทางกฎหมายทำร้ายชาวบ้านเลยครับ มันรับไม่ได้จริงๆ
ส่วนคดีฟอกเงิน หรือฉ้อโกงประชาชนอย่าตกใจครับ มันไม่เข้าองค์ประกอบทางกฎหมายถึงขั้นเอาผิดได้
แต่ไม่เข้าใจว่าเขาทำอย่างนั้นไปทำไม กับชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร จะโกรธใครเกลียดใคร
ก็น่าจะไปว่ากล่าวกันเอาเอง แต่เอาชาวบ้านมารับกรรมด้วย คิดอย่างไรก็เศร้าใจ
เห็นใจสงสารชาวบ้านมากครับ
คดีที่ไปเล่นงานชาวบ้าน ขอให้ชาวบ้านอย่าตกใจเกินไป
จับมือกันไว้อย่าขัดแย้ง อย่าโทษกันไปมา ช่วยกันปกป้อง อย่าลืมครับคนบ้านกกกอกเป็นชาวภูไท
ที่จะให้ใครมารังแกง่ายๆ รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย ปกป้องตัวท่านเอง
และองค์พญานาคไว้ ขอเป็นกำลังใจจากทนายครับ
ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล ๓
กพ ๖๔ กรุงเทพฯ

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น