[ย้อนรอยประวัติศาตร์] การอภิเษกสมรสและพระชายาในสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช


 การอภิเษกสมรสและพระชายาในสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช


สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชเป็นพระมหากษัตริย์ของอาณาจักรล้านช้าง ที่เปี่ยมล้นไปด้วยบุญบารมีทศพิธราชธรรม ถือว่าเป็นวีรกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่อีกพระองค์ พระองค์มีพระปรีชาสามารถใด้านก่อกุศลกรรมในพระศาสนา


เช่นเดียวกันการอภิเษกสมรสของพระองค์ก็ต้องยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันและพระองค์ก็มีพระชายาหลายเชื้อชาติอีกด้วย พระองค์อภิเษกสมรส พร้อมกับการราชาภิเษกที่เรียกว่า อุสสาราชภิเษก ขึ้นครองแผ่นดินเชียงใหม่ในสถานะเขยแห่งล้านนา พระองค์ได้ลูกสาวของพระนางจิรประภามหาเทวี ๒ พระองค์ซึ่งเป็นพี่น้องกัน
" จึงเอานางผู้ ๑ ชื่อว่า ตนทิพย์ เป็นเอกมเหสีขวา ผู้ ๑ ชื่อว่า ตนคำ เป็น อัครมเหสีซ้าย แล้วจึงราชภิเษกใส่ชื่อว่าพระไชยเชษฐาธิราชเจ้า อยู่เป็นเจ้าแผ่นดินเชียงใหม่หั้นแล "
( ขุนบรมราชาธิราช ฉบับหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง)
" เถิงวันเดือน ๑๑ ออก ๔ ค่ำ วัน ๔ ไทเมิงไค้ ฤกษ์ ๒๖ ตัว ยามเที่ยงวัน เสนาอามาจจ์พร้อมกันกะทำมังคละอุสสราชภิเษกพระอุปปโย เป็นพระญาเมืองพิงเชียงใหม่ ยังสวนแหร่ นั่งแท่นแก้วโรงหลวงกับพระราชธิดาทั้งสอง คือพระตนทิพเป็นอัคคมเหสี กับพระตนคำตนเป็นน้องหั้นแล "
(พื้นเชียงใหม่ ฉบับ ๗๐๐ ปี)



ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าลูกของพระนางจิรประภานั้นมีชื่อว่า ยอดคำทิพย์ และได้อภิเษกกับพระโพธิสาราชผู้เป็นพระราชบิดาของสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช ผู้ศึกษาจึงตรวจสอบเอกสารในช่วงที่พระเทวีขึ้นครองราช กลับพบว่า พระเทวีมีลูก ๒ พระองค์ ในครั้งที่พระไชยราชายกทัพขึ้นมากู้พระนครเชียงใหม่ ดังคำเอกสารว่า
" เดือน ๕ ออกค่ำ ๑ วัน ๖ พระญาใต้หื้อหมื่นศรีมหาเทส ๑ พันเทพมนเทียร ๑ เอาปัณณาการมาถวายพระเป็นเจ้า แม่ ลูกทั้ง ๒ "
(พื้นเชียงใหม่ ฉบับ ๗๐๐ ปี )



ดังนั้นผู้ศึกษาจึงมีความเห็นว่า พระนางยอดคำทิพย์ อาจจะเกิดจากการเข้าใจผิดจากพระนางตนคำ กับพระนางตนทิพย์ ผู้เป็นลูกสาวทั้ง ๒ ของพระเทวีจิรประภาเป็นแน่ และทั้งสอง เป็นมเหสีของพระไชยเชษฐาไม่ใช่พระโพธิสาราช


เมื่อครั้ง พระเมกุฏิ ผู้มีเชื้อสายมังราย จากเมืองเมืองนาย อุสสราชภิเษกขึ้นเป็นพระยาเมืองเชียงใหม่ ก็ได้อภิเษกมเหสีอีกพระองค์ของพระไชยเชษฐาอีกด้วย
" ชาวล้านนาทั้งมวลก็เอาผู้ ๑ ชื่อว่า ทิดเเม่กุ เป็นเจ้า เขาจึงเอา นางคำแดง อันเป็น มเหสี พระไชยเจ้า นั้นให้เป็นเมีย ทิดเมกุ เขาจึงราชภิเษกให้เป็นเจ้าล้านนาแห่งเขาหั้นแล "
( ขุนบรมราชาธิราช)


พระองค์ก็ได้มีการทำสงครามเพื่อชิงตัวเอาเจ้าหญิงของเมืองนั้นมาเป็นบาทบริจาริกาอีกด้วย เมืองเขมในที่นี้หมายถึงเมืองเขมรัฐเชียงตุงนั้นเอง
" แล้วจึงให้ เสนาผู้ ๑ ชื่อ กองนาง ถือพลเวียงจันทน์ ผู้ ๑ ชื่อ พระยาขวาดอกหมาก ๒ ขานี้ ถือพล แสน ๑ ช้าง พัน ๑ เมือม้างเมืองเข็มเอานางหั้นแล . . . แต่นั้น เจ้าแผ่นดิน ก็คืนมาอยู่เวียงจันทน์หั้นแล พระยาจันทน์กองนาง พระยาขวาดอกหมาก พระยาราชวัตร พระยายศเสถียร ๔ พระยานี้เมือรบเมืองเข็ม เราแพ้ได้แสนเมืองเข็ม ผู้ ๑ ชื่อว่า พระยาเหล็ก ได้ช้าง ๒๐ ตัว ตัว ๑ ชื่อว่า ฆ้องทอง ๗ ศอกปลาย ได้ม้า ๔ ร้อย ตัว ได้เงินคำข้าวของสมบัติมากนัก ทั้งได้นางพระยาเข็ม ผู้ ๑ ชื่อว่า นางคำ มาถวายเจ้าแผ่นดินเราหั้นแล "
( ขุนบรมราชา ฉบับวัดหมื่นนา)


พระองค์ยังมีสัมพันธไมตรีต่อสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งอาณาจักรอยุธยาและยังได้ลูกสาวของพระมหาจักรพรรดิถึง ๒ พระองค์
" ล่องมาอยู่เมืองจันทน์น้อย ๑ พระยาศรียทธิยา มอบลูกสาวให้ผู้ ๑ แก่ พระไชยเชฐาธิราชเจ้า เจ้าก็ไปรับเอามา แล้วบ่มักให้เอาไปคืนเสีย เขาซ้ำให้ผู้พี่มา เจ้าแผ่นดินก็ไปรับเอาที่แดนเมืองหั้นแล "
( ขุนบรมราชา ฉบับวัดหมื่นนา)


ทีนี้จักกล่าวถึงพระมเหสีทั้งหลายของพระไชยเชษฐา ที่ปรากฏในเอกสาร
" ก็ได้ลูกสาว พระยาเชียงใหม่ มาเป็นนางอัคคมเหสี แลได้ลูกสาวเจ้าเมืองชน มาเป็นบริจา ได้ลูกสาวเจ้าเมืองเขมรัฐ ๓ คน ได้ลูกสาวเจ้าเมืองเชียงรุ่ง ๒ คน ได้ลูกสาวองค์จั่วกลางลาน(เวียดนาม) ผู้ ๑ ได้สาวแก้วองค์แสน แสนเมืองผู้ ๑ ได้ลูกสาวเจ้าบัวดึก (เวียดนาม) ผู้ ๑ ได้ลูกสาวพระยาศรีอโยธิยา ๒ คน มาเป็นบริจา "
(ขุนบรมราชา ฉบับหอสมุดแห่งชาติลาว)





" บุตรมเหษีพระสนมของเจ้าเลียงเชียงนั้นได้ตกค้างอยู่ในเมืองคือ มเหษีใหญ่นาม พระนางสี มเหษีที่ได้จากพระราชบุตรอยุทธยานั้นนาม มนุรามาหสีที่ ๓ นั้นเป็นราชบุตรของพระเจ้าเชียงตุงนามศิริมาราชนัดดา นามเจ้าหญิงศิริกับสนมอีก ๒๐ กว่า "
(พงศาวดารพม่า ฉบับหอแก้ว)

จะเห็นได้ว่า สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช พระองค์ได้พระชายาหลายเชื้อชาติมากและหลายเมือง มีทั้ง อยุธยา เชียงใหม่ เชียงตุง เวียดนาม และล้านช้างด้วยกันเอง สมกับพระบารมีอันเปี่ยมล้นของพระองค์
........................................
อ้างอิง
- พงศาวดารล้านช้าง ตามถ้อยคำในฉบับเดิม หนังสือประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม ๙
- ขุนบูลมลาซาทิลาด ฉบับ วัดหมื่นนา
- ขุนบูลมลาซาทิลาด ฉบับ หอสมุดแห่งซาดลาว
- พื้นเชียงใหม่ ฉบับ ๗๐๐ ปี

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดินแดนล้านนา เมืองเชียงใหม่

บอกใจไว้รอเจ็บ แท้งก่อนเกิด หลังพับเก็บความคิดฝันเข้าแฟ้มไปแล้ว

ศาลาการเปรียญไม้ทรงโบราณ ที่อำเภอเสาไห้