[ข่าวลุงพล] สางเขียว ไดอารี่ ความรู้สอนให้คนถ่อมตน แต่ความโง่เขลา สอนให้คนเย่อหยิ่ง

 

ความรู้สอนให้คนถ่อมตน แต่ความโง่เขลา สอนให้คนเย่อหยิ่ง

 

          ผมมีโอกาสได้กลับมาดูคลิปคลิปหนึ่ง เป็นคลิปที่สางเขียว เกิดกระแสดราม่าบนโลกโซเชียล เกี่ยวกับเรื่อง การถอยตัวออกห่างจากลุงพล ซึ่งแทบจะไม่มีเหตุผลใดมาอ้างอิง เอาเรื่องเท็จมาสร้างประเด็นเป็นเรื่องจริง ออกอาการเย่อหยิ่ง ก่อนตีชิ่งลุงพล ลิ้นคนนั้น ตัดคอคนเสียมากต่อมากแล้ว

          ผมมีนิทานเรื่องหนึ่งจะมาเล่าให้ฟัง

ม้าตัวหนึ่ง ประดับเครื่องครบด้วยอานสำหรับสงคราม และเกราะสวยงามเป็นมันวาว วิ่งควบฝุ่นฟุ้งตลบไปตามถนน ทำให้มีเสียงกึกก้อง สะท้อนในภูเขาเหมือนเสียงฟ้าผ่าเพราะกีบของมัน ม้าควบไปไม่ไกลนักก็ทันลา ซึ่งเดินโซเซ โงนเงน ไปตามถนน เพราะบรรทุกของหนักมาก “หลีกทางข้านะ” ม้าตะโกนเชิงบังคับ “หลีกทางข้านะ มิฉะนั้นข้าจะเหยียบแกลงไปนอนคลุกฝุ่น”

 เจ้าลาที่น่าสงสาร ไม่กล้าโต้แย้ง และรีบถอยลงข้างทาง ต่อมาไม่นาน ม้าตัวนั้นก็ได้เข้าสงคราม มันเคราะห์ร้าย บังเอิญถูกลูกธนูที่นัยน์ตา ทำให้ไม่มีประโยชน์ในการรบต่อไปอีก เครื่องประดับต่างๆ ก็ถูกเอาออกหมด และปลดระวาง ขายไปเป็นม้าขนสัมภาระธรรมดา มันได้พบกับลาอีกครั้งหนึ่ง “สวัสดี เพื่อนรักของฉัน” ลาพูด “อย่างไรล่ะถึงได้กลับมานี่ ฉันรู้เสมอว่า ความหยิ่งยโสที่โง่เขลาของท่าน จะทำให้ความยิ่งใหญ่ของท่านสลาย ลงในวันหนึ่ง”

          “คนเราต่างไม่ชอบให้ใครมาแสดงความอวดดี  เย่อหยิ่งจองหอง  และดูถูกเหยียดหยามด้วยกันทั้งนั้น  ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะดีวิเศษมาจากไหน เพราะต่างก็มีความทะนงถือดีในตัวเอง ว่าตนก็เป็นคนหนึ่งเหมือนกัน  ถึงจะไม่มีในทางใดก็ต้องมีดีในทางหนึ่ง  ยิ่งสมัยนี้เป็นสมัยประชาธิปไตย  ทุกคน ต้องอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของกฎหมายอย่างเดียวกัน และเท่าเทียมกันด้วยแล้ว  ตำแหน่งฐานะ  หรือความยากดีมีจน จึงไม่ก่อให้เกิดขึ้นซึ่งเอกสิทธิ์แต่อย่างใด  ฉะนั้น  เมื่อต่างมีความเสมอภาคเช่นนี้  การยกตนข่มท่าน หรือการเย่อหยิ่งจองหอง ดูถูกเหยียดหยามคนอื่น เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

ผู้ที่มีนิสัยเย่อหยิ่งจองหอง และชอบดูถูกเหยียดหยามคนนั้น  ได้ชื่อว่าเป็นคนโง่  และตั้งตนอยู่ในความประมาท  เพราะทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นอนิจจัง  คือความไม่เที่ยง  คนมีอาจกลายเป็นคนจน  และคนจนอาจกลับมาเป็นคนมีก็ได้ คนที่เรานึกว่าไม่มีความสำคัญอะไร แต่วันหนึ่ง เราอาจต้องไปขอความช่วยเหลือพึ่งพาจากเขาก็ได้ จะไปเอาอะไรแน่กับโลกมนุษย์นี้  มันก็เท่ากับละครโรงใหญ่นี่เอง  มนุษย์ก็เปรียบเหมือนตัวละคร  ต่างแสดงไปตามบทบาทของเรื่อง ซึ่งกรรมหรือบางคนเรียกว่าพรหมลิขิต  ได้กำหนดให้ไว้  บางคนก็เล่นเป็นตัวสำคัญ  บางคนก็เล่นเป็นเพียงตัวเลว  หรือตัวเลวต้องกลับมาเล่นเป็นตัวดีก็ได้ แต่ความจริงแล้วทุกคนก็คือตัวละคร  และในที่สุดก็จบฉากของตนด้วยการตาย  มาตัวเปล่า  ไปตัวเปล่าด้วยกันทั้งนั้น ปล่อยให้คนอื่นที่ยังมีชีวิตอยู่ เล่นต่อไปจนกว่าจะถึงวาระสุดท้ายของตนบ้าง   หมุนเวียนเปลี่ยนกันไปไม่รู้จักจบสิ้น 

การเย่อหยิ่งจองหองอวดดี และการดูถูกเหยียดหยามคนอื่นนั้น  นอกจากจะเป็นนิสัยที่เลวแล้ว  ยังทำให้คนเกลียดชัง และจะยังให้เกิดศัตรูขึ้นอีกด้วย  ผู้ที่มีนิสัยเช่นนี้เป็นคนเห็นแก่ตัว  มัวเมาหลงระเริงในความไม่เที่ยง นึกว่าตนดีวิเศษเหนือคนอื่น และถ้าเขาได้รับการดูถูกเหยียดหยามเข้าบ้าง ก็คงไม่ชอบเป็นแน่  และนี่ก็คือความเห็นแก่ตัวของเขานั่นเอง

อย่าทำตัว ให้สูงเกินกว่าฐานะที่เป็นจริงด้วย  เพราะการเจียมตัวนั้นจะทำให้คนรักใคร่และสงสาร   เท่ากับเป็นการลดตัวของเราลง ซึ่งตรงกันข้ามกับการอวดดีและเย่อหยิ่งจองหอง ถ้าใครเขาดีต่อเรา  จะต้องดีต่อเขาให้มากยิ่งขึ้นไปอีก  แต่ถ้าใครเขาเลวต่อเราแล้ว  เราก็ควรปลีกตัวออกห่าง  จะทำเลวต่อเขาไม่ได้  ถ้าเรามีฐานะสูงต้องอย่าแสดงตัวให้สูงตามฐานะ  แต่จะต้องแสดงตัวลดลง  ถ้าเรามีอำนาจก็ต้องอย่าแสดงความมีอำนาจ  ถ้าเรามีเงินต้องอย่าแสดงความร่ำรวย การแสดงตัวลดลงนี้ เรียกว่าถ่อมตัวหรือเจียมตัว  ซึ่งนอกจากจะทำให้คนรักและสงสารแล้ว ยังไม่มีใครกล้ามาดูถูกเหยียดหยามได้

ส่วนการทำตัวสูงเกินกว่าฐานะที่เป็นจริงนั้น เท่ากับเป็นการหลอกลวง  เช่น  เราไม่รวย  แต่แสดงตัวว่าเป็นคนรวย เราโง่แต่แสดงตัวว่าเป็นคนฉลาด  เราเป็นคนธรรมดา  แต่แสดงว่าเป็นคนมีเกียรติสูง คือแทนที่จะแสดงตัวลดลง  กลับแสดงตัวให้สูงขึ้น ผิดจากความเป็นจริง  การแสดงตนเช่นนี้ ไม่มีประโยชน์อย่างใดเลยแม้แต่น้อย  คนที่เขารู้ความจริง เขาจะหัวเราะเยาะและดูถูกเหยียดหยามเราได้  ฉะนั้น เราเจียมตัวไว้  ทำตัวให้น้อยไว้  นอกจากคนเขาจะสงสารแล้ว  เขายังไม่กล้าดูถูกเหยียดหยามอีกด้วย

ถ้าเราไปแสดงตัวว่า เราดีกว่าหรือเด่นกว่าเขาแล้ว เขาก็จะไม่พอใจ เท่ากับเป็นการกดเขาให้ต่ำลง  ถ้าเรายอมเป็นคนโง่กว่า  จนกว่า  คือยอมเขาเสียแล้ว  เขาก็จะชอบ  เป็นการยังไว้ซึ่งมิตรภาพ  และซ้ำยังจะได้ชื่อว่าเป็นคนฉลาดอีกด้วย

          สางเขียว กำลังขับเคี่ยวกับชะตากรรมแห่งตน หากวันใดหลุดพ้น หรือก้าวข้ามวังวนแห่งความอิจฉาริษยาไปได้ แล้วใช้ลิควิดใจลบรอยหม่นไหม้ ที่เผาผลาญใจในอดีต ขูดขีดคำว่าสางเขียวให้จางหายไป แล้วเริ่มต้นใหม่ที่สดใสกว่า ด้วยคำว่า รุ่งสาง