[ข่าวลุงพล] ช่วยเติมเต็มให้ตำนาน โดยที่เหล่าหมู่มารไม่รู้ตัว


 

ช่วยเติมเต็มให้ตำนาน โดยที่เหล่าหมู่มารไม่รู้ตัว

 

ชีวิตคนเรามีสองด้าน คือ ด้านบางคนและด้านไม่มีใคร บางคนมีสิ่งต่างๆ เช่น ลักษณะทางกายภาพบุคลิกภาพภาพ ในสายตาผู้อื่น ชอบและไม่ชอบคุณธรรมและไม่คุณธรรม คนข้างกายของเรามีปัญหามากมายที่ต้องจัดการ


ไม่มีใคร ในด้านการเปิดเผยตัวตนของเรา โดยธรรมชาติ เมื่อจิตใจได้รับการฝึก ให้ปล่อยการเสพติดความคิดของตน เมื่อไม่มีใครอยู่เคียงข้าง ทุกๆ อย่างปักหลักและทุกๆ วิธีที่เราเป็น บางคนในโลกดูไร้ความสามารถ หรือเหมือนเรื่องราวที่เด็กเล่า


เวลาที่เรารู้สึกโลภ อิจฉา โกรธ หลงเข้าใจผิด กระวนกระวาย หรือสับสน เป็นการดี ที่จะเตือนตัวเองว่าเป็นเพียงบางคน การปรากฏตัวของชีวิตเรามิติเดียว ไม่ใช่การจัดการของมนุษย์ทั้งหมด


ผมหยิบบทความดีดี ของพี่โซดา น้ำ มาถ่ายทอดมุมมองที่เกี่ยวกับลุงพล ในอีกมิติหนึ่ง ที่บ่มเพาะเหตุการณ์ จากจุดเริ่มต้น จนก้าวล่วงมาถึงทุกวันนี้ เรื่อง ช่วยเติมเต็มให้ตำนาน โดยที่เหล่าหมู่มารไม่รู้ตัว


นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าผลลัพธ์ทางคดี จะปิดฉากลงในรูปแบบใด ลุงพลแห่งหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่าบ้านกกกอก ก็จะถูกประวัติศาสตร์จารึก ให้กลายเป็นบุคคลในตำนาน ที่ผู้คนจะต้องร่ำลือกล่าวขานไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว


เรื่องมหัศจรรย์เช่นนี้ ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ และยังไม่แน่ใจว่า จะเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกหรือไม่ เมื่อมีชาวบ้าน ผู้ที่อาจจะกล่าวได้ว่าสุดแสนจะธรรมดาคนหนึ่ง ที่ขณะนี้ ได้กลายมาเป็นตำนานบทใหม่ ของยุคโซเชียลไปเสียแล้ว จนเชื่อว่า แม้แต่นักเขียนนวนิยาย ระดับมือรางวัลที่เลื่องชื่อ ยังอาจต้องเผลอเอามือ มาปิดที่ปากตัวเองอย่างลืมตัว เมื่อได้อ่านพล็อตเรื่อง ของนวนิยาย ที่สุดแสนมหัศจรรย์เรื่องนี้


ผมเดาเอาว่า บรรดานักเขียนนวนิยายสมองเพชรเหล่านั้น อาจจะถึงกับทุบโต๊ะเปรี้ยง และฟันธงไปเลยว่า นี่คือนวนิยาย ที่มีพล็อตเรื่องที่ลึกล้ำ เหนือจินตนาการเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะ ที่มุ่งเดินหน้า ไปบนเส้นทางของสายบุญ โดยได้ถือเอาความอดทนอดกลั้น มาเป็นอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพ ในการต่อกรกับเหล่าหมู่มาร ที่ได้แฝงตัวมาในคราบของนักบุญ


ไม่ว่าจะมาในรูปลักษณ์ ของผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเมตตา ที่ได้ให้การรักษาผู้ป่วยทางจิตจำนวนหนึ่ง โดยที่ผู้คนเหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แต่ถ้าเราจะมองในอีกแง่มุมหนึ่ง เขาผู้นี้ ก็ได้สิทธิประโยชน์ จากการบันทึกภาพชีวิตของผู้คนเหล่านั้น เพื่อนำมาอัพโหลด หารายได้จากยอดวิวของช่องยูทูปเช่นเดียวกัน


มารบางตน ถึงกับตั้งชมรมเพื่อสร้างมูลค่าให้ตัวเอง โดยประกาศว่า ตนคือผู้ที่พร้อมจะปกป้องใครก็ตามที่ตกเป็นเหยื่อ แต่สิ่งที่ท่านประธาน ได้กระทำกับลุงพลในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการฟ้องแหลกแจกคดี จนตำรวจยังส่ายหน้า ทั้งๆ ที่หลายคดี ที่ดำเนินการยื่นฟ้องลุงไปนั้น ไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็ไม่น่าจะกลายเป็นคดีขึ้นมาได้ ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะต้องการล้างแค้นในเรื่องส่วนตัว ดังนั้นจึงเห็นสมควร ที่จะดำเนินการเปลี่ยนชื่อชมรมให้ใหม่ว่า ชมรมเพื่อร่วมผสมโรง รุมสกรัมเหยื่อผู้บริสุทธิ์เสียมากกว่า


หรือแม้แต่ ผู้ที่มักจะกล่าวอ้างตัวเองอยู่เสมอว่า เป็นผู้ที่รัก และให้ความเมตตาต่อหมู่มวลสรรพสัตว์ ทว่าครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้เอง เขากลับกระทำในสิ่งที่ผู้คนในสังคมต้องสาปส่ง เพราะดันไปแสดงความชื่นชม นักฆ่าบ้าเลือดคนหนึ่ง ราวกับเป็นฮีโร่ ซึ่งมันขัดกับภาพลักษณ์ ของผู้ที่มีจิตเมตตาต่อสัตว์อย่างสิ้นเชิง ถึงตรงนี้ ก็นึกอยากจะตั้งคำถามกับเขาผู้นี้สักประโยคหนึ่งว่า ถ้าหนึ่งในจำนวนผู้ที่เสียชีวิต เป็นญาติพี่น้องของเขาเอง เขายังจะกล้าไปออกรายการ เพื่อชื่นชมฆาตกรใจโหดอยู่อีกหรือไม่


ส่วนช่องข่าวบางช่องของบางสำนัก ก็แสดงพฤติกรรม ที่ไร้ซึ่งความเป็นมืออาชีพโดยสิ้นเชิง จนถึงขั้นพาตัวเอง เข้าไปร่วมผสมโรงกับหมู่มารกลุ่มนี้ โดยการประณามหยามหยัน บุคคลที่ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย ซึ่งหากจะว่ากันตามหลักสิทธิมนุษยชนแล้วล่ะก็ ไม่ว่าใคร ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะกล่าวประณามหยามหยันบุคคลอื่น แม้ว่าเขาผู้นั้น จะเป็นนักโทษที่ถูกศาลพิพากษาตัดสินไปแล้วก็ตาม เพราะถือว่า เป็นการกระทำ ที่ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง


ยังไม่นับรวมกับเพจ และช่องยูทูปที่ร้อนเงินอีกจำนวนหนึ่ง ที่รวมตัวกัน เพื่อสร้างความบรรลัยให้กับลุงพลในทุกวิถีทาง โดยมีเป้าหมาย ที่จะสกัดเส้นทางสายตำนาน ของลุงพลให้จงได้ ซึ่งตรงนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะแรงอิจฉาหรืออย่างไร ก็สุดจะคาดเดา แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่อาจทำในสิ่งที่พวกเขามุ่งหวังได้สำเร็จ มิหนำซ้ำ เรื่องหลอกเด็ก ที่ได้ใช้เซลสมองอันน้อยนิดจัดฉากขึ้นมานั้น ก็ยังถูกผู้คนจับได้ไล่ทัน แบบคาหนังคาเขาอยู่หลายครั้ง แต่หมู่มารเหล่านี้ กลับไม่เคยมีความคิดที่จะนึกละอายใจ ยังคงเดินหน้าปั้นเรื่อง และสร้างประเด็นอื่นๆ ขึ้นมาใหม่ สำหรับวีรกรรม ที่ต้องถือว่าแสบสันต์จัญไรอย่างที่สุดก็คือ กล้าแม้กระทั่งจะหลอกลวงกลุ่มคน ที่เป็นสมาชิกแฟนเพจของตัวเอง


แม้ว่าเรื่องราว จะดำเนินเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ เหล่าหมู่มาร ก็ยังพยายามที่จะโชว์ความปัญญาอ่อนให้เห็นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เหมือนกับการขว้างก้อนหิน อัดกำแพงอย่างเต็มเหนี่ยว แล้วหินเจ้ากรรม ก็กระเด้งกระดอนกลับมา โดนกะบาลคนที่ขว้าง ซึ่งมันเป็นภาพที่สร้างความอเนจอนาถหดหู่ใจ และสร้างความตลกขบขัน ให้กับผู้คนในสังคมไปพร้อมกัน


กล่าวได้ว่า บทบาทของเหล่าหมู่มารในตำนานบทนี้ ได้ทำหน้าที่ของตนอย่างโจ่งแจ้ง และชัดเจนที่สุด เรียกได้ว่า ถ้าใครยังอ่านเกมที่บ้องตื้น และปัญญาอ่อนแบบนี้ไม่ออก ก็คงต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจเช็คระบบสมองอย่างเร่งด่วน แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่อพบว่า ยังมีกลุ่มคนที่ยังคงหลงเชื่อ เรื่องปั้นแต่งเหล่านี้อยู่อีกมาก และไม่ใช่เป็นการหลงเชื่อแบบปกติธรรมดาเสียด้วย เพราะต่างก็พากันตระเวนไปตามช่องตามเพจ ที่เกี่ยวข้องกับลุงพล จากนั้นพวกเขา ก็บรรจงร่ายนิ้วมือไปบนแป้นพิมพ์ แล้วผสมตัวอักษรเป็นคำด่าทอเท่าที่พวกเขาจะนึกขึ้นมาได้


แต่หากจะมองในอีกแง่มุมหนึ่ง คนเหล่านี้ ก็นับว่าเป็นสีสันที่จะขาดเสียมิได้ มิเช่นนั้น ตำนานบทนี้ ก็คงจะไร้ซึ่งอุปสรรค ที่จะทำให้ฝ่ายธรรมะ ได้ฝ่าฟันไปสู่การเป็นตำนานที่สมบูรณ์ แต่ก็อาจจะมีข้อติดขัดอยู่นิดหนึ่งตรงที่ว่า แต่ละเรื่องที่กลุ่มหมู่มารได้สรรหามากลั่นแกล้งนั้น ล้วนเป็นเรื่องที่น่าจะใช้ได้ผล เฉพาะกับกลุ่มคนที่ไร้สติ ส่วนคนที่สติดีๆ ต่างก็เบือนหน้าหนี ด้วยความขบขันกึ่งสมเพช เมื่อได้เห็นคนบ้า ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาหลอกคนบ้าด้วยกันได้ลงคอ


เนื่องจากเป็นการกลั่นแกล้ง ที่ดูจะโฉ่งฉ่างและไร้ซึ่งรสนิยม ซึ่งมันขัดกับภาพโดยรวมของตำนาน ที่สุดแสนจะคลาสสิคนี้ ก็เลยอยากจะแนะนำ ให้กลุ่มคนที่เลือกแล้วที่จะเป็นหมู่มาร ให้เร่งกลับไปฝึกซ้อม และทำการบ้านมาให้มากกว่านี้ เพราะอย่างน้อยๆ ก็ควรจะร้ายให้มันดูแนบเนียนและมีรสนิยม ให้มันดูยิ่งใหญ่ และสมเกียรติของลุงพลแห่งบ้านกกกอก ผู้ที่ขณะนี้ได้กลายเป็นตำนานไปเรียบร้อยแล้ว



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดินแดนล้านนา เมืองเชียงใหม่

(ชาติพันธุ์) ลาวทรงดํา ไทยทรงดํา ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง

มาชู ปิกชู ประเทศเปรู เมืองสาบสูญแห่งอินคา