[ข่าวลุงพล] สาง ไดอารี่ เราทำงาน ไม่งอมือขอทานใครกิน


 

เราทำงาน ไม่งอมือขอทานใครกิน

           ด้วยใจจริง หลังจากที่มีการถ่ายทำ มิวสิควิดีโอเพลงที่บ้านกกกอก ด้วยอยากดูความสวยงามและบรรยากาศ จึงรีบเข้าไปดูยูทูปช่องหนึ่ง สมใจอยาก ภาพ วิว โลเคชั่นสวยงามมาก ตื่นตาไปพักหนึ่ง ในส่วนของเพลงผมไม่ของวิจารณ์ หรือก้าวล่วง ในฐานะที่ผมเป็นคนทำเพลงเหมือนกัน ฟังแป๊บเดียว ผมรู้เลยว่า ดนตรีเป็นลายมือของอาจารย์สวัสดิ์ สารคาม ก็ได้แต่อวยพรในใจว่า ขอให้ประสบความสำเร็จ แม้เส้นสายลายเพลง จะอิงลายเส้นเพลงเต่างอยของพี่จินตหรา แต่ก็ให้คลายสงสัย เพราะคนแต่งเพลงเป็นคนๆ เดียวกัน กับที่แต่งเพลงเต่างอย 


            กำลังเคลิ้มกับวิวทิวทัศน์ในคลิป ความเคลิบเคลิ้มหายวับไปกับตา เมื่อภาพเจ๊ที่อยู่ในคลิป ดันเปล่งวาจา ออกอาการกระมิดกระเมี้ยนเงี่ยนงั่ง  ซึ่งผมฟัง ผมก็รู้ได้เลยว่า จุดประสงค์ของคนที่เจ๊เขาพูดถึงคือใคร เราทำงาน ไม่งอมือขอทานใครกิน แล้วยังมีเสียงเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินอีกว่า ขอทานออนไลน์ ผสานเสียงหัวเราะชอบใจ สนุกสนานกันอย่างครื้นเครง


          แม้จะเป็นเพียงประเด็นเล็กๆ ที่บุคคลในคลิปอาจจะไม่ใส่ใจ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ผมก็ไม่ควรจะไปใส่ใจเสียด้วยซ้ำ แต่เห็นการกระทำของพวกเขาแล้ว มันบ่งบอกอะไรได้หลายๆ อย่าง คำถามบวกข้อสงสัย เกิดขึ้นในใจของผมอย่างเงียบๆ เราทำงาน ไม่งอมือขอทานใครกิน


นี่หรือ คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักทำกัน คือการ เหยียบหัวคนอื่นเพื่อทำให้ตัวเองสูงขึ้น คนส่วนใหญ่คิดจะยกตนเองให้สูงขึ้น โดยการทำร้ายคู่แข่ง หรือ ตัดกำลังฝ่ายตรงข้าม ถ้าคนส่วนใหญ่เลือกใช้แต่วิธีนี้  ต่างฝ่ายต่างลบเส้นของกันและกัน ชีวิตทั้งเราและคู่แข่ง ก็จะมีแต่ไม่พัฒนา เพราะมามัวลบจุดเด่นข้อดีกันเอง แทนที่จะเอาเวลาไปพัฒนาตัวเองเพิ่ม


คนที่พยายามจะเลื่อนตัวเองขึ้นไป โดยการกำจัดน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน ถึงแม้จะทำให้สำเร็จ แต่นั่นก็เป็นความสำเร็จที่ปราศจากความยั่งยืน เพราะในท้ายที่สุด เราจะไม่เหลือใคร กลายเป็นผู้ชนะที่โดดเดี่ยว บนยอดเขาอันเหน็บหนาวและเงียบเหงา เพราะไม่ได้รับการยอมรับจากใครๆ การเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยวิธีที่ไม่ชอบธรรม มันต่างกันนะ กับการเลื่อนตัวเองขึ้นไป โดยได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง ย่อมมีผลลัพธ์ที่ต่างกัน การเลื่อนตัวเองขึ้น พร้อมกับลดคนอื่นลงเราอาจจะชนะ แต่ก็มีศัตรูเป็นของแถม


แต่การเลื่อนตัวเองขึ้นโดยไม่ลดคนอื่นลง เราจะเป็นผู้ชนะ พร้อมกับมีเพื่อนแท้เพิ่มขึ้นมากมาย และหนึ่งในนั้น อาจเป็นคู่แข่งหรืออดีตศัตรูของเราเองด้วย เป็นสังคมแห่งความสำเร็จ บนพื้นฐานของมิตรภาพโดยแท้


ผู้ที่มีศีลมีธรรมแล้ว ต้องเป็นผู้สงบ ต้องเถียงใครไม่เป็น ปลงตก สุดแล้วแต่กรรม ใครจะทำอย่างไรก็ช่างเขา ใครจะเอาเปรียบอย่างไรก็ช่างเขา ใครจะรบกวนอย่างไรก็ช่างเขา เขาบาปเอง เราเอาตัวรอดไว้ก่อน พวกฉลาดแกมโกง เลยได้โอกาส ไม่เกรงใจ เพราะคนมีศีลธรรมไม่มีปากไม่มีเสียง พอมีปากมีเสียงเข้า เขาก็ค่อนขอดได้ ถ้าเรากลัวอย่างนี้อยู่ เราจะถูกเอารัดเอาเปรียบตลอดไป และเขาจะเห็นเราโง่เขลาอีกด้วย


ย้อนกลับไปครั้งหนึ่ง ที่มีคลิปของลุงพล เดินออกกิริยาท่าทางอ้อนแอ้น แล้วยูทูปเบอร์คนหนึ่งพูดออกมาว่า อย่าทำเหมือนคนนั้น แล้วก็กลายเป็นประเด็นกระแสดราม่า บนโลกออนไลน์ เจ๊แกออกอาการกระฟึดกระฟัด ตัดขาดญาติมิตรกับลุงพลในทันที


ถ้าเทียบสองเหตุการณ์นี้ ก็แทบจะไม่มีอะไรต่างกัน ต่างเพียงสถานที่ วันเวลา ในเมื่อคุณตัดขาดเขาไปแล้ว ทำไมยังต้องมาพูดจีบปากจีบคอล้อลมเขา กลับกัน ถ้าเหตุการณ์นี้เป็นลุงพลที่เป็นฝ่ายพูด ดราม่าบนโลกออนไลน์สนั่นลั่นเลื่อนแน่นอน


คนทุกคนต่างล้วนก็มีงานทำกันทั้งนั้น ใครขอทาน ขอทานออนไลน์คือใคร ทุกคนที่ใช้สื่อโซเซียลทำมาหากิน นั่นคือผู้ที่มีความสามารถ คุณก็ทำยูทูป ใครหลายคนก็ทำยูทูป คนที่ทำมาหากินบนโลกออนไลน์ เขาเรียกบุคคลเหล่านี้ว่า ผู้ที่หาเงินในอากาศ นั่นแสดงว่า เขาทำมาหากินเช่นกัน เป็นงานของเขา จงเกลียดจงชังเขา บอกตัดขาดญาติมิตรถึงขั้นไม่เผาผี แต่จิกกัดเขาไม่เลิกรา


จริงๆ การพูดจาดูถูกหรือเหยียดหยามคนอื่นนั้น ถือเป็นสิ่งที่ไม่ดี และไม่ควรปฏิบัติเอาเสียเลย  เพราะเป็นนิสัย ที่ผู้ที่มีการศึกษาหรือปัญญาชนเขาไม่นิยมทำกัน  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ในสังคมปัจจุบัน ที่ ยังคงมีการดูถูกเหยียดหยามกันให้เห็นอยู่บ่อยๆ ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การล้อเลียน การพูดจาถากถาง ดูถูกดูแคลนคนที่ด้อยกว่า เพียงเพราะความสนุก สะใจ  ได้สนองกิเลสตัณหา ที่ตัวเองกักเก็บมานาน จนล้นออกมาให้ใครๆ ได้เห็นทางการกระทำภายนอก


            รู้ไหมว่า การดูถูก เหยียดหยามคนอื่นบ่อยๆ มันจะกลายเป็นนิสัย ที่เรายากจะสลัดออก หรือบางคนทำไปด้วยความเคยชินก็มี  โดยการล้อเลียนหรือเรียกชื่อคนอื่นตามปมด้อยของเขา เช่น บางคนมีรูปร่างเตี้ยก็เรียกเขาว่า  ไอ้เตี้ย บางคนแคระแกรนก็เรียกไอ้แคระ ไปสารพัด ยิ่งไปกว่านั้น บางคนมีความพิการทางเพศ ก็เรียกเขาไปต่างต่างนานา สิ่งเหล่านี้ แม้ว่าผู้พูดเอง จะคิดว่าเป็นเพียงแค่การหยอกล้อ หรือแค่พูดเล่นๆ พอสนุกปาก  แต่เชื่อสิ ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครชอบหรอก เพราะเขาล้วนเป็นผู้ถูกกระทำ และถูกข่มเหงทางจิตใจอย่างมาก ที่กล้ำกลืนฝืนทน และบ่อยครั้งที่คนเหล่านี้ มีความรู้สึกท้อแท้ทั้งชีวิตและจิตใจ ในความต่ำต้อยและความไม่เท่าเทียมกัน ของความเป็นคนในสังคม


มาถึงตรงนี้  อยากให้รู้ว่าการดูถูกคนอื่นนั้น มันไม่ได้เป็นการทำให้ตัวผู้พูดดูสูงส่งขึ้น หรือได้รับการยอมรับจากสังคมหรอก  ในทางกลับกัน คนที่พูดนั่นแหละ จะยิ่งดูตกต่ำลงอย่างมาก และถูกสังคมประณาม ถึงพฤติกรรมที่แสดงออกมา เพราะสิ่งเหล่านี้ มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานของจิตใจ  การอบรมเลี้ยงดู  สภาพแวดล้อม  การศึกษา  ของคนคนนั้นมากเพียงใด


          จะว่าไปแล้ว คนที่ชอบด่าว่า พูดจาดูถูก หรือเหยียดหยามคนอื่น ก็น่าสงสารและน่าสังเวชอยู่เป็นนัยๆ เพราะพวกเขาไม่เคยได้มองเห็นตัวเอง หรือไม่เคยคิดเลยว่า คนเราทุกคนที่เกิดมา ก็ล้วนมีค่าด้วยกันทั้งนั้น  อาจไม่มีค่ากับคนพูด แต่ก็มีค่ากับพ่อ  แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหายของเขาเอง หรือเขาอาจมีความสามารถที่แตกต่างกัน นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุกคนล้วนมีความสามารถที่ต่างกัน


นั่นคือเรื่องจริง และมีอีกหนึ่งเรื่องจริง ที่คนที่ชอบดูถูกคนอื่น คงอาจจะยังไม่รู้สินะว่า คนเราทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ ล้วนต้อง เจ็บ ต้องแก่ ต้องตาย ด้วยกันทั้งนั้น แทนที่จะพูดจาดูถูกเหยียดหยามให้เจ็บช้ำน้ำใจกัน แต่หันมาพูดจากันดีๆ  พูดในสิ่งที่เป็นมงคล ให้เกิดความรักความเมตตาต่อกัน จะดีกว่าไหม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสร้างความจงเกลียดจงชัง และการโกรธแค้นกันไปตลอดชีวิต เพราะคนเราทุกคน ก็อยากอยู่บนโลกนี้ด้วยความสงบสุขกันทั้งนั้น



         

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดินแดนล้านนา เมืองเชียงใหม่

(ชาติพันธุ์) ลาวทรงดํา ไทยทรงดํา ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง

มาชู ปิกชู ประเทศเปรู เมืองสาบสูญแห่งอินคา