[ข่าวลุงพล] ป้าจำรอง สหายลุงพล ผู้ที่เป็นมากกว่า กัลยาณมิตร
เพื่อนแท้ ต้องไม่ทิ้งกันในยามที่ยากลำบาก
ผมมีนิทานปรัมปรามาเล่าให้ฟัง เรื่องมันมีอยู่ว่า
กาลครั้งหนึ่ง มีสัตว์สามตัว เป็นเพื่อนที่รักกันมาก คือช้าง ยีราฟ และนกฮูก วันหนึ่งขณะที่ทั้งสามกำลังเดินเล่นกันอยู่
ระหว่างทางนั้น พวกเขาได้เจอกับหมีหิวโซตัวหนึ่ง กำลังเดินตรงมายังพวกเขา
ทันใดนั้นยีราฟและนกฮูก ได้รีบวิ่งหนีขึ้นต้นไม้ ส่วนเพื่อนช้าง
วิ่งตามไปไม่ทัน รู้สึกตกใจกลัว ไม่รู้ว่าจะหนีไปทางไหน
จึงได้แกล้งนอนตายอยู่ใต้ต้นไม้ ยีราฟและนกฮูก เห็นเพื่อนวิ่งตามมาไม่ทัน
ก็พยายามปาท่อนไม้ใส่หมี แต่หมีก็ไม่สนใจ เดินตรงเข้าไปหาช้างที่แกล้งตาย พร้อมยื่นจมูกเข้าไปใกล้ๆ
เพื่อดมกลิ่น สักครู่มันก็ร้องคำราม และเดินคอตกกลับเข้าป่าลึกไปตามเดิม
เพราะโดยธรรมชาติของหมีนั้น จะไม่กินเหยื่อที่ตายแล้ว
หลังจากนั้นยีราฟและนกฮูก ที่อยู่บนต้นไม้ จึงปีนลงจากต้นไม้มาข้างล่าง
และถามเพื่อนของพวกเขาที่แกล้งนอนตายอยู่ว่า “เมื่อครู่นี้หมีพูดอะไรกับท่านบ้าง” ช้างที่แกล้งนอนตาย จึงลุกขึ้นแล้วตอบว่า “มันบอกกับข้าว่า
เจ้าโชคดีที่มีเพื่อนแท้”
ลักษณะมิตรที่ดี ย่อมบำรุงเพื่อนโดยฐานะ
5 ประการ คือ ด้วยการให้ปัน การเจรจาถ้อยความเป็นที่รัก
การประพฤติประโยชน์เกื้อกูล ความเป็นผู้มีตนเสมอ และไม่แกล้งกล่าวให้คลาดจากความจริง
ลักษณะของคนไม่ใช่มิตร หรือการสวมหน้ากากในสังคมเข้าหากัน
นอกจากจะไม่เป็นมิตรแล้ว ยังชื่อว่าเป็นศัตรูอีกด้วย
การนำหลักมิตรแท้ไปใช้ในการคบเพื่อน
สามารถชักนำไปสู่ชีวิตอันดีงาม การดำเนินชีวิตที่ดี
คือการเลือกคบกับมิตรดี เพราะอาศัยมิตรดี จึงนำเข้าสู่เป้าหมายของชีวิตตามเป้าหมาย 3
อย่าง คือ คนที่คบกับมิตรดี ย่อมได้รับประโยชน์สุขในปัจจุบัน ประโยชน์สุขในภายหน้า
และประโยชน์สุขอันสูงสุด
ทำให้ผมย้อนนึกถึงป้าจำรอง กัลยาณมิตรผู้อยู่เคียงข้างลุงพลมาตั้งแต่ต้น
ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา กอบเก็บความเจ็บปวดรวดร้าวมาด้วยกัน ต่างจากใครบางคน
ที่ทำตัวให้หลุดพ้น หวังออกไปจากวังวนของคำว่าเพื่อน เพียงเพื่ออยากล่องลอย ไปในเวิ้งว้างอันสวยงาม
กัลยาณมิตร
หมายถึง เพื่อนที่ดีหรือผู้ที่คอยแนะนำ ให้คำปรึกษา ชักจูงเราไปสู่สิ่งที่ดี
เป็นบุคคลที่คอยช่วยเหลือ สนับสนุน รวมทั้งคอยเกื้อหนุนจุนเจือ ให้ชีวิตของเราดำเนินไปได้ด้วยดี
โดยปราศจากความอิจฉาริษยา ความเบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ หรือความเห็นแก่ตัว
มีหลายคนที่คบเพื่อนดี ชีวิตก็พบเจอแต่ความสุขความเจริญ
แต่ก็มีอีกหลายคนที่คบเพื่อนไม่ดี ก็มีชีวิตที่ตกต่ำ เพราะเลือกที่จะอยู่หรือคลุกคลีกับคนไม่ดี
อยู่ในสังคมที่ไม่ดี หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นแหล่งอโคจรนั่นเอง
กัลยาณมิตรธรรม 7 องค์ หรือคุณสมบัติของมิตรแท้ มีดังต่อไปนี้
1.ปิโย แปลว่า น่ารัก หมายถึง
เป็นที่สบายใจเมื่อเข้าใกล้ คือเมื่อได้พบเจอครั้งใดก็มีความสุข มีแต่ความสดชื่น
แจ่มใส ร่าเริงเบิกบานใจอยู่เป็นนิจ ยิ่งได้เข้าใกล้ได้สนทนาพูดคุยด้วยแล้ว
ยิ่งสบายใจ ชวนให้ปรึกษาไต่ถาม
2.ครุ แปลว่า น่าเคารพ หมายถึง
เป็นผู้ที่อุดมไปด้วยคุณธรรมความดี จนเป็นที่ทราบโดยทั่วไป เมื่อหมู่ญาติได้พบเห็น
ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความเคารพด้วยความชื่นชม นอกจากนี้แล้ว กัลยาณมิตรยังเป็นผู้วางตนได้อย่างเหมาะสม
ตลอดเส้นทางการทำหน้าที่กัลยาณมิตร จนทำให้หมู่ญาติทั้งหลาย เกิดความมั่นใจ
อบอุ่นใจ เชื่อมั่นอย่างสนิทใจว่า กัลยาณมิตรจะเป็นที่พึ่ง ที่ปรึกษาได้อย่างแน่นอน
3.ภาวนีโย แปลว่า น่าเทิดทูน หมายถึง
ความรู้สึกชื่นชมที่เกิดขึ้นภายใน และอดไม่ได้ที่จะเอาคุณธรรมความดี ของกัลยาณมิตรมากล่าวเล่าขาน
ให้หมู่ญาติทั้งหลายได้รับฟังอย่างไม่รู้เบื่อ อยากจะชักชวนหมู่ญาติทั้งหลาย ให้ได้ไปพบเจอ
ได้ไปฟังเรื่องราวดีดีจากกัลยาณมิตร เพราะเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าหมู่ญาติจะมีปัญหายุ่งยาก
หนักหนาเพียงใด กัลยาณมิตรย่อมแก้ไขให้ได้หมดทั้งสิ้น
4.วัตตาจะ แปลว่า ฉลาดพร่ำสอนให้ได้ผล หมายถึง
มีความสามารถพูดโน้มน้าวให้หมู่ญาติหรือคนรอบข้าง ทำตามในสิ่งที่ดีงาม
ชี้แจงพร่ำสอน ด้วยความกรุณาปรารถนาดีอย่างจริงใจและต่อเนื่อง
5.วจนักขโม แปลว่า
อดทนต่อถ้อยคำของหมู่ญาติหรือคนรอบข้าง หมายถึง
พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษาซักถามอยู่เสมอ อดทนฟังได้แม้เรื่องการระบายความทุกข์
ความคับแค้นใจจากสภาพครอบครัว การทำงาน หรือการดำเนินชีวิต หรือคำก้าวร้าวหยาบคาย ของคนที่ไม่เข้าใจความปรารถนาดี
โดยไม่ตอบโต้กลับด้วยความฉุนเฉียวโกรธ
6.คัมภีรัญจะ กะถัง กัตตา แปลว่า
สามารถแถลงเรื่องที่ลึกล้ำ หมายถึง สามารถนำเรื่องที่ยาก มาอธิบายให้เห็นภาพพจน์เข้าใจได้ง่าย
ทำให้หมู่ญาติทั้งหลาย สิ้นความเคลือบแคลงสงสัย ในปัญหาเรื่องโลกและชีวิต มีความเข้าใจ
จนสามารถนำไปแก้ไขปัญหาที่ประสบอยู่ให้คลายทุกข์ ความกังวลไปสู่ความสุขได้โดยง่าย
7.โน จัฏฐาเน นิโยชะเย แปลว่า
ไม่ชักนำไปในทางเสื่อม หมายถึง ประพฤติตนอยู่ในทำนองคลองธรรม
ไม่ยอมทำเรื่องที่เป็นความเสื่อม ทั้งในเรื่องการงานครอบครัว
และการทำหน้าที่กัลยาณมิตร มีภูมิปัญญาที่จะแยกแยะออกได้ว่า สิ่งใดถูก-ผิด
สิ่งใดชั่ว-ดี สิ่งใดควร-ไม่ควร และเต็มเปี่ยมไปด้วยหิริโอตตัปปะ คือความละอายบาป
กลัวบาป ไม่ยอมกระทำความชั่ว แม้มีโอกาสหรือในที่ลับตาคน
นอกจากนี้ มิตรแท้อีก 7 ประการ ประกอบด้วยองค์
7
ประการ คือ
1. มิตรผู้ให้ของที่ให้ได้ยาก
2. รับทำกิจที่ทำได้ยาก
3. อดทนถ้อยคำที่อดใจได้ยาก
4. บอกความลับของตนแก่เพื่อน
5. ปิดความลับของเพื่อน
6. ไม่ละทิ้งในยามวิบัติ
7. เมื่อเพื่อนสิ้นทรัพย์สมบัติก็ไม่ดูหมิ่น
ส่วนมิตรปฏิรูปก์ หรือ มิตรเทียม 4 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรูในร่างของมิตร
ก็มีดังนี้
1.คนปอกลอก ของเพื่อน มีลักษณะ 4 ประการ คือ
คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ยอมเสียน้อย โดยหวังจะเอาให้มาก ตัวมีภัย
จึงมาช่วยทำกิจของเพื่อน คบเพื่อน เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์
2.คนดีแต่พูด มีลักษณะ 4 ประการ คือ
ดีแต่ยกของหมดแล้วมาปราศรัย ดีแต่อ้างของยังไม่มีมาปราศรัย สงเคราะห์ด้วยสิ่งหาประโยชน์มิได้ เมื่อเพื่อนมีกิจ
อ้างแต่เหตุขัดข้อง
3.คนหัวประจบ มีลักษณะ 4 ประการ คือ
จะทำชั่วก็เห็นด้วย จะทำดีก็เห็นด้วย ต่อหน้าสรรเสริญ ลับหลังนินทา
4.คนชวนฉิบหาย มีลักษณะ 4 ประการ คือ
คอยเป็นเพื่อนดื่มน้ำเมา คอยเป็นเพื่อนเที่ยวกลางคืน คอยเป็นเพื่อนเที่ยวดูการเล่น
คอยเป็นเพื่อนไปเล่นการพนัน
การเลือกคบกัลยาณมิตร
เพื่อจะได้เป็นเครื่องเตือนใจตนเอง ว่าเวลาจะไปคบหาสมาคมกับใคร
ก็ควรดูให้ดีเสียก่อนว่าคน คนนั้นเป็นคนดีหรือไม่ เพราะการคบเพื่อนที่ดี จะทำให้เราได้รับการถ่ายทอดทั้งความรู้และคุณธรรม
ทำให้เราพลอยได้รับอานิสงค์ เป็นคนดีตามเพื่อนที่ดีไปด้วย ดำรงชีวิตอยู่ด้วยศีล
สมาธิ ปัญญา ฉะนั้นอย่าลืมว่า การคบเพื่อนที่ดีถือเป็นมงคลอย่างยิ่ง
ที่จะทำให้ชีวิตของเราประสบแต่ความสุขความเจริญตลอดไป เฉกเช่นกับป้าจำรอง
ที่อยู่เคียงข้างกับลุงพลตลอดมา

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น