[ข่าวลุงพล] สาง ไดอารี่ Ep12 ผู้ใหญ่ ที่ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่


 

สาง ไดอารี่ ผู้ใหญ่ที่ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่

 

หลังจากที่ได้ดูคลิปคลิปหนึ่ง ที่บุคคลกลายพันธุ์ท่านหนึ่ง ท้าต่อยตีลุงพล ผมก็เลยสนใจ และตั้งข้อสงสัยว่า ทำไม คุณเป็นผู้ใหญ่ ที่ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย


เคยได้ยินไหม บางคนยังเป็นเด็ก แต่มีความคิดแบบผู้ใหญ่ แต่ผู้ใหญ่บางคน ยังมีความคิดแบบเด็กๆ วิธีคิดแบบไหนที่เรียกว่ายังไม่โต แบบไหนที่เรียกว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมได้รวบรวม 5 วิธีคิด ที่จะช่วยให้คุณ กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ และมีความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ลองดูว่าแต่ละวิธีคิด คุณอยู่ใน Level ไหน ถ้าคุณมี Level 1 ก็มีโอกาสพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไปได้


1. มองไกล

Level 1 อดทนได้ เมื่อเรามองไกล มองเห็นถึงอนาคตของปัจจุบันที่กำลังทำอยู่ รู้ว่าถ้าอดทนแล้วจะได้ดี รู้ว่าอดกลั้นแล้วจะผ่านไปได้ด้วยดี เช่น อดทนกับความเหนื่อยยาก เพราะรู้ว่าถึงจะลำบาก สุดท้ายก็สบายทีหลัง  หรืออดกลั้นกับความสะดวกสบายชั่วคราว เพื่อให้ได้รับความสุขระยะยาวในภายหลัง เช่น อดทนประหยัดเงิน หารายได้พิเศษ เพื่อจะได้ชำระหนี้ได้หมดเร็วๆ อดกลั้นที่จะไม่ทำร้ายจิตใจคนอื่น ไม่ใช่เห่าหอน ดุด่าว่าร้ายคนอื่นไปวันๆ เหมือนกรณีของเจ๊คนหนึ่งที่ท้าตีต่อยกับลุงพล หวังผลอะไรหรือเปล่า เพราะรู้ว่า สุดท้ายแล้วฟีดแบ็คจะตอบกลับมาอย่างไร แค่มีแรงหายใจไปวันๆ ก็บุญแล้ว


Level 2 คิดยาวได้ เวลาที่เราคิดสั้น มักจะหุนหันพลันแล่น ทำอะไรไปโดยไม่คิด หงุดหงิดง่าย แต่ถ้าเราคิดยาวเมื่อไหร่  จะได้ความเข้าใจชีวิตที่มากขึ้น เช่น เรารู้ว่าที่ตั้งใจอ่านหนังสือเรียนเพื่ออะไร ออกกำลังกายไปเพื่ออะไร มีระเบียบวินัยไปทำไม ขยันทำงาน รับผิดชอบในหน้าที่ไปเพื่ออะไร และเราจะเสียโอกาสอะไร หากเราไม่ลงมือทำทันที รวมทั้งเข้าใจธรรมชาติของชีวิตที่เหมือนฤดูกาล มีทุกข์ มีสุข หมุนเวียนกันไป ไม่มีอะไรอยู่ได้นานหรือยั่งยืน เมื่อเข้าใจชีวิตมากขึ้น เราก็จะปล่อยวางได้ง่ายขึ้น และยอมรับสถานการณ์ ที่ผ่านเข้ามาได้มากขึ้น ไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งใดนานๆ เพราะรู้ว่าอีกเดี๋ยวเดียวก็ผ่านไป


Level 3 ตั้งเป้าได้ เมื่อเราเริ่มคิดถึงอนาคต และถามใจตัวเองว่า เราจะอยู่เพื่ออะไร ถ้าเราไม่มีเป้าหมายอะไรเลย เราจะกล้าตัดสินเพื่อตัวเองง่ายขึ้น เริ่มตั้งเป้าหมายในชีวิต ออกมาจากเขตความสะดวกสบาย เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง พัฒนาตัวเอง ทำสิ่งที่อยากทำ และทำฝันให้เป็นจริง ไม่ใช่ใครมีกระแสดราม่าอะไร กระโดดใส่ทันที  

2. ใจกว้าง

Level 1 เรียนรู้ได้ ถ้าเราเปิดใจออกให้กว้าง เราจะมีพื้นที่เปิดรับสิ่งใหม่ๆ ได้อีกมาก เพราะเข้าใจว่าความรู้ในตัวเรานั้นมีน้อยนิด เหมือนเป็นน้ำครึ่งแก้วที่มีวันเติมได้อีกเรื่อยๆ พร้อมที่จะเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ด้วยใจที่ปราศจากอคติ เปิดใจรับฟัง สนใจอ่านมากขึ้น ชอบพัฒนาตนเอง และเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนพฤติกรรม หรือปรับวิธีคิดของเรา เพื่อชีวิตที่สงบและพบความสุขมากขึ้น เพราะมีความเชื่อว่า คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้ เพียงแค่ให้โอกาสตัวเองได้เปลี่ยนแปลงเท่านั้น คุณมีงานอะไรของคุณก็ทำไป ไม่ใช่มาจมอยู่กับเรื่องของคนอื่น ไม่ใช่ฟาดมาฟาดกลับ ไม่มีใครเขาไปฟาดคุณหรอก ปล่อยให้ตายเอง

 

Level 2 ยอมรับได้ การยอมรับความจริง ทำให้เราเป็นอิสระและไปต่อได้ สามารถยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง เป็นตัวของตัวเองได้ และยอมรับในความแตกต่างของกันและกัน ยอมรับในความคิดเห็นของคนอื่น ไม่ตัดสินคนอื่นถ้ายังไม่รู้จักเขาดีพอ จะทำให้เราพอใจในชีวิตของตัวเอง และเข้าใจคนอื่นมากขึ้น


Level 3 ให้อภัยได้ การให้อภัยตัวเอง ทำให้เราเป็นอิสระจากความรู้สึกผิด และพร้อมที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นได้ และการให้อภัยคนอื่น จะทำให้เรายอมรับในสิ่งที่เขาเป็นมากขึ้น และเป็นอิสระจากความไม่พอใจหรือคิดแค้นโทษคนอื่น แถมยังเป็นแรงผลักดัน ให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้อีกด้วย แม้ว่าความสัมพันธ์อาจจะไม่เหมือนเดิม แต่อย่างน้อย ก็ไม่ทำให้เรายึดติดอยู่กับอดีตอีกต่อไป


3. คิดบวก

Level 1 ขอบคุณได้ เมื่อเราคิดบวก จะรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่เรามี ขอบคุณโอกาสที่ได้รับ ขอบคุณสิ่งดีๆ ที่คนอื่นหยิบยื่นให้ โลกภายในใจเปลี่ยนไป มองว่าโชคดีมากขึ้น และเมื่อขอบคุณบ่อยๆ จนเป็นนิสัย จะรู้สึกถึงความพอเพียง พอใจ ภูมิใจในตัวเอง เชื่อมั่นและมั่นใจในตัวเอง และมีความสุขมากขึ้น


Level 2 โฟกัสได้ เมื่อเรารู้ว่าอะไรดี ไม่ดี เราจะเลือกโฟกัสในด้านดีๆ เห็นด้านดีๆ ในตัวเองมากขึ้น เผยด้านดีๆ ในตัวเองออกมา พร้อมทั้งโฟกัสด้านบวกในตัวคนอื่นได้ดีขึ้น มองเห็นจุดเด่นของคนอื่น มองข้ามข้อเสียของคนอื่น หรือถ้าเป็นเรื่องงาน มีปัญหาความท้าทายเข้ามา ก็สามารถมุ่งความสนใจไปที่การทำงาน ให้ผ่านไปได้ด้วยดี มากกว่าที่จะโฟกัสในด้านลบของคนอื่น จนลืมไปว่า มันไม่ได้เกี่ยวพันกับงานของตัวเองเลยแม้แต่น้อย


Level 3 พลิกกลับได้ ในสถานการณ์ที่ไม่ดี สามารถมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ในนั้น เชื่อว่า ความท้าทาย จะทำให้เราเป็นคนเก่งและแกร่งขึ้น รับมือกับปัญหาและอุปสรรคได้เร็วขึ้น เพราะใจที่พร้อมเสมอกับการเปลี่ยนแปลง แม้จะมีความทุกข์ผ่านเข้ามา ก็ไม่ทุกข์นาน เพราะรู้ว่ามันเหมือนฤดูกาลที่สุดท้ายก็พัดผ่านไป


4. ยืดหยุ่น

Level 1 ปรับแผนได้ มีแผนสอง แผนสาม หรืออย่างน้อย ก็สามารถปรับเปลี่ยนแผนที่กำหนดไว้ได้ ไม่ใช่ตึงเปรี๊ยะ จนไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้อีก เพราะการวางแผนเป็นการคิดล่วงหน้า สามารถคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคตได้ว่า ถ้าเราทำสิ่งนี้ ผลลัพธ์มันน่าจะเป็นอะไร แต่เราไม่สามารถฟันธงได้ว่า มันจะเกิดขึ้นแน่นอน และทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่ใจต้องการทั้งหมด จึงไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้


Level 2 ปรับตัวได้ ทำตัวให้เหมือนกับน้ำ ที่สามารถปรับไปตามสภาพของภาชนะ คือ เข้าได้ในทุกสถานการณ์ แต่ไม่สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง เป็นเหมือนต้นไม้ที่ลู่ไปตามแรงลมได้ แต่ก็กลับมาตั้งตรงได้เหมือนเดิม ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำ เมื่อได้วางแผนไปแล้วก็คือ เชื่อมั่นว่า เราจะสามารถรับมือได้ จัดการได้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าทำตัวเป็นน้ำล้นแก้วแบบคุณ พอเถอะ

 

5. ปล่อยวาง

Level 1 รอคอยได้ ถ้าเราได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ที่เหลือก็แค่ปล่อยวาง เราไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่สามารถจัดการได้ เด็กส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจคำว่าปล่อยวาง เพราะมักจะมีอารมณ์ร้อน อยากเห็นผลลัพธ์ในทันที แต่ต้นไม้ไม่สามารถงอกแล้วโตได้ในวันเดียว คอนโดมิเนียมไม่สามารถสร้างเสร็จในวันเดียว จึงต้องรู้จักการรอคอย และมีความสุขในระหว่างทาง แต่อารมณ์ทางเพศของคุณ เหมือนโอนเอนตามยอดวิวเป็นประจำเลย


Level 2 สม่ำเสมอได้ เช่น ถ้าเราอยากมีหุ่นดี ก็ต้องขยันออกกำลังกาย เพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้ฟิตและแข็งแรง ซึ่งไม่สามารถทำได้ในวันเดียว ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ หรือถ้าเราอยากจะเก่งในเรื่องอะไร มันไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์ แต่เป็นเรื่องของความสม่ำเสมอในการฝึกซ้ำๆ จนชำนาญ ซึ่งก็ควรจะฝึกด้วยความรู้สึกดี มีความสุข ไม่ใช่เร่งวันเร่งคืน เพื่อให้ถึงวันที่ต้องการ ข้อนี้จึงไม่แปลกใจเลยว่า การเดินตูดบิด ทำไมต้องฝึกซ้อมบ่อยๆ อนุญาตให้ฮาเบาๆ


Level 3 เชื่อใจได้ เชื่อว่าสุดท้ายมันจะเป็นไปได้จริง เชื่อว่าแต่ละคน มีจังหวะเวลาชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเราปล่อยวางเป็น เราจะมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน และมั่นใจว่า ผลลัพธ์ที่เกิด ไม่ว่าจะเป็นอะไร มีแต่ดีกับดี เช่น ถ้าผลลัพธ์ออกมาดี ก็สุขใจ แต่ถ้ามีความท้าทายเกิดขึ้น แสดงว่าความท้าทายนั้น จะมาฝึกให้เราปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีได้อย่างแท้จริง แต่ถ้ามาท้าทายต่อยตีคนอื่น โดยไม่ดูอายุไขร่างกายของตัวเอง หยุดเถอะ เก็บแรงเอาไว้ต้มน้ำกินเองดีกว่า อย่าให้ถึงขั้นต้องหยอดน้ำข้าวต้มเลย


แม้เด็กๆ จะรู้สึกว่า ไม่อยากโตมาเป็นผู้ใหญ่ ต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆ อย่าง แต่การเป็นผู้ใหญ่ทำให้เรามีอิสระทางความคิด สามารถเลือกทำในสิ่งที่อยากทำ แต่จะต้องไม่ลืมว่า จะต้องรับผิดชอบในการกระทำที่เราเลือกด้วย ถ้าเราคิดแบบผู้ใหญ่ ต่อให้เราอยู่ในสถานการณ์ไหน ก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี แล้วจะกลัวอะไรกับการเป็นผู้ใหญ่ ถ้าเรามีวิธีคิดที่ดี ไม่ใช่เป็นผู้ใหญ่แค่ตัว แต่สมองอนุบาล แถวบ้านผมเขาเรียกว่า เฒ่าทารกนะครับ



 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาลาการเปรียญไม้ทรงโบราณ ที่อำเภอเสาไห้

ตำนาน และประวัติความเป็นมา ของอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง

[คติธรรม] คมธรรมของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ