[ข่าวลุงพล] 11 พฤษภาคม 2564 วันวัดใจตำรวจ ไม่มีหมายจับ

 

๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ วันวัดใจตำรวจ

 

๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เป็นวันครบรอบหนึ่งปี วันหายตัวไปของน้องชมพู่  ดังนั้น จึงเป็นวันวัดใจตำรวจว่า จะแขวนคดีงดสอบสวน หรือจะทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป ซึ่งเป็นระเบียบของสำนักงานตำรวจ ไม่ใช่ตัวบทกฎหมาย

ตัวบทกฎหมาย มีเพียงวิธีพิจารณาความอาญา ม.๑๔๐ ที่ให้อำนาจพนักงานสอบสวน มีอำนาจส่งสำนวน ไปยังพนักงานอัยการ พร้อมความเห็นให้งดการสอบสวน ซึ่งจะงดหรือไม่งด ก็เป็นอำนาจของพนักงานอัยการอีกชั้นหนึ่ง แต่ตามมาตรา ๑๔๐ มิได้กำหนดกรอบเวลาไว้ว่า พนักงานสอบสวนจะต้องส่งความเห็น ไปยังพนักงานอัยการเมื่อใด  มีเพียงระเบียบปฏิบัติ ของทางตำรวจเท่านั้นที่กำหนดไว้ว่า คดีอุกฉกรรจ์ ที่จะงดการสอบสวน ต้องสืบสวนสอบสวนติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี จึงจะงดการสอบสวนได้ โดยพนักงานสอบสวน ต้องเสนองดการสอบสวนไปตามลำดับชั้น เพื่อพิจารณาก่อนเสนอไปยังพนักงานอัยการ

ดังนั้น คดีน้องชมพู่ ผู้มีอำนาจสั่งให้งดการสอบสวน จึงต้องเป็นระดับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับ ผู้บังคับการ หรือผู้บัญชาการ หรืออาจเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็เป็นได้ และเมื่อมีคำสั่งแล้ว ต้องส่งสำนวนที่งดการสอบสวน ไปยังพนักงานอัยการ โดยพนักงานอัยการจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ได้  ถ้าพนักงานอัยการไม่เห็นด้วย ก็อาจตีกลับให้สอบสวนต่อไป เรียกว่าลากกันยาวเลยครับ

แต่เท่าที่ทนายทราบมา  คดีนี้คงลากไปเรื่อยๆ เพราะเป็นซีรี่ย์ที่ปิดไม่ลง คนกันเองทั้งนั้น ไล่เรียงมาตั้งแต่บ้านสี่หลัง ไปยังตำรวจท้องที่  จึงหาทางลงยาก น้องชมพู่ไม่ได้ตายเพราะถูกทำร้าย ตามผลชันสูตรของแพทย์ แถมหาสาเหตุการตายไม่ได้ ที่น้องตาย เพราะร่างกายเสียน้ำเนื่องจากอากาศร้อนจัด ขนาดในที่โล่งวันนั้นยัง ๔๐ องศา แต่ถ้าอยู่ในรถล่อเข้าไปเกือบ ๑๐๐ องศา มีหรือน้องชมพู่จะทนได้ 

รู้กันเท่านี้ก็พอครับ นอกนั้นไปเดาๆ กันเอง พอเดาได้นะครับ น้องตายที่ไหน เพราะเหตุใด   งานนี้ FC ลุงพลสบายใจได้นะครับ  ลุงพลมีทุกขลาภ คือมีทั้งทุกข์และลาภ แต่ลาภนั้นเห็นชัดเจน แต่ทุกข์นั้นคงผ่านพ้นไปได้  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คงไม่ยอมให้ออกหมายจับคนที่ไม่ได้ทำผิดแน่นอน

 

ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล  เสาร์ ๓ เมย ๖๔ กรุงเทพฯ