[ข่าวลุงพล] กลุ่ม Fc ผู้กระหายเรื่องโกหก #โซดา_น้ำ​ #ลุงพลป้าแต๋นแฟมิลี่


 

กลุ่ม เอฟ.ซี.ผู้กระหายเรื่องโกหก

 

            อีกหนึ่งบทความ ที่ผมอ่านแล้วรู้สึกประทับใจ ในมุมมองของพี่โซดา น้ำ ซึ่งผมได้หยิบบทความของพี่เขา มาถ่ายทอดอยู่เป็นประจำ นี่คืออีกหนึ่งเรื่องราว ที่พี่เขาได้ถ่ายทอดออกมา เรื่อง กลุ่ม เอฟ.ซี.ผู้กระหายเรื่องโกหก


 ผมเคยลองพยายาม คิดหาคำตอบที่สมเหตุสมผล ถึงสาเหตุการแตกแยกทางความคิด ของแฟนคลับทั้งสองกลุ่มว่า เพราะเหตุใด พวกเขาจึงได้มีความคิด ที่สวนทางกันอย่างสุดขั้วขนาดนี้ ก็ต้องยอมรับว่า มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากจริงๆ และเป็นการยาก ที่จะหาเหตุผลมาอธิบาย จนชี้ชัดลงไปได้  เนื่องจากกลุ่มคนที่เป็นแฟนคลับของแต่ละฝ่ายนั้น ต่างก็เชื่อมั่นในความดีงาม ของบุคคลที่พวกเขาชื่นชอบ และพร้อมที่จะปะทะคารม กับฝ่ายตรงข้ามแบบไม่ยอมลดละ โดยเชื่อมั่นว่า ตนเองได้เลือกยืนอยู่กับฝ่ายที่ถูกต้องแล้ว และมองว่าฝ่ายตรงข้าม เป็นพวกที่โง่เง่าเต่าตุ่นไปเลยก็มี


นับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ที่คนทั้งสองกลุ่มจะคิดเช่นนั้น เพราะต่างฝ่ายต่างก็เทใจ ให้กับบุคคลที่พวกเขาชื่นชม ซึ่งบุคคลที่เป็นต้นทางของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้ ผมแน่ใจว่า พวกเขาเอง ต่างก็น่าจะรู้อยู่เต็มอกว่า ตนเองกำลังอยู่ในสถานะของฝ่ายเทพหรือฝ่ายมาร เพราะฝ่ายมาร มักจะเลือกทำแต่เรื่องที่ขัดกับหลักของความดีงามอยู่เสมอ ส่วนฝ่ายเทพ ก็ย่อมจะทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับฝ่ายมารอย่างสิ้นเชิง


ในขณะที่คนต้นเรื่อง ต่างก็ล่วงรู้สถานะของตัวเอง คือรู้อยู่แก่ใจว่าฝ่ายตนนั้น เลือกที่จะขึ้นสวรรค์หรือลงนรก ถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็อยากจะขออนุญาตชี้ชัดไปเลยว่า ฝ่ายมารในที่นี้ จะเป็นใครอื่นไปเสียมิได้  นอกเสียจากกลุ่มคน ที่กำลังจองล้างจองผลาญลุงพลอยู่ในขณะนี้ โดยที่พวกเขาพยายามคิดหาวิธี ที่สวนทางกับหลักศีลธรรมทุกรูปแบบ เพื่อใส่ร้ายป้ายสีและกลั่นแกล้งลุงพลในทุกวิถีทาง ส่วนฝ่ายเทพก็ตั้งรับโดยการนำข้อเท็จจริงมาหักล้าง แต่ก็ไม่อาจที่จะสร้างความกระจ่าง ให้กับแฟนคลับของฝ่ายตรงข้าม ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะบรรดาสาวกของฝ่ายที่เกลียดลุงพล ได้ถูกฝังไมโครชิพแห่งความเกลียดชัง ลงไปในสมอง  จนถึงขั้นไม่อาจจะแยกแยะถูกผิดได้ เฉกเช่นผู้คนปกติทั่วๆ ไป


อุปมา ก็คล้ายกับการกระทำบางอย่างที่คุ้นตา โดยเชื่อว่าทุกท่าน น่าจะเคยผ่านตากับความเชื่ออยู่อย่างหนึ่ง ที่มีผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์บางคน ได้นำสติ๊กเกอร์ข้อความ ที่ตรงกันข้ามกับสีของรถมาติดไว้ โดยเชื่อว่า ถ้าทำเช่นนี้ ก็จะเหมือนเป็นการแก้เคล็ด เพื่อต้องการให้สีของรถ ถูกโฉลกกับดวงชะตาของตนเอง  เช่นรถคันที่จะกล่าวถึงนี้เป็นรถสีดำ แต่เจ้าของรถอาจจะทราบภายหลังว่าเป็นสีที่ไม่เป็นมงคล เพราะมีหมอดูทักมาว่า สีที่ถูกโฉลกกับเขาคือสีชมพู เขาจึงได้นำสติ๊กเกอร์ที่มีข้อความว่า รถคันนี้สีชมพูมาติดไว้ที่รถเพื่อเป็นการแก้เคล็ด


ก็ถือว่า เป็นการแก้ปัญหา ที่ค่อนข้างจะน่ารักน่าชังดีเหมือนกัน แต่ประเด็นที่สำคัญของเรื่องนี้ก็คือ  ตัวเจ้าของรถเอง ก็ไม่มีทางที่จะเชื่อหรอกว่า เมื่อเขาได้ติดสติ๊กเกอร์ที่ระบุข้อความเช่นนี้แล้ว รถสีดำของเขา มันจะกลายเป็นรถสีชมพูขึ้นมาได้ ถึงตรงนี้ หากมีใครสักคน เมื่อได้อ่านข้อความจากสติ๊กเกอร์ดังกล่า วแล้ว เกิดนึกอุตริ เข้ามาพูดกับเขาในทำนองที่ว่า รถของเขาเป็นรถสีชมพู ที่สวยสดใสเสียจริงๆ เขาคนนั้น ก็อาจจะถูกเจ้าของรถ ระเบิดเสียงหัวเราะใส่หน้าเสียก็ได้


การแก้ปัญหา โดยการติดสติ๊กเกอร์แบบนี้ ก็นับว่าเป็นวิธีที่จะสร้างความสบายใจให้กับเจ้าของรถวิธีหนึ่ง เนื่องจากไม่ต้องเปลืองเงินทอง เพื่อจะนำรถเข้าอู่ไปเปลี่ยนสี แต่เมื่อเรื่องที่ถือว่าเล็กน้อย และไม่ทำให้ใครเดือดร้อนนี้ ได้ถูกบรรจุเข้าสู่โหมดของการแตกแยกทางความคิด ประเด็นที่ว่า รถคันนี้เป็นรถสีดำหรือสีชมพู ก็อาจจะไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่เล็กน้อยอีกต่อไป เพราะถ้าเจ้าของรถคันนี้ เกิดจับพลัดจับผลู ได้เป็นหัวหอกของฝ่ายที่เกลียดลุงพล แล้วได้นำมุกสติ๊กเกอร์นี้ ไปใช้กับบรรดาแฟนคลับของเขา ก็ขอให้ทุกท่านจงมั่นใจได้เลยว่า แฟนคลับสายมารเหล่านี้ ก็จะพร้อมใจกันหลงเชื่อ โดยจะพากันกล่าวชื่นชมไม่ขาดปากว่า รถคันนี้เป็นรถสีชมพูที่สวยงามจับตาเสียจริงๆ


แม้ว่าตัวอย่างที่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมานี้ จะเป็นเพียงแค่เรื่องที่สมมติขึ้นมาให้เห็นภาพ โดยคำตอบที่ถูกต้องก็ปรากฎให้เห็นอยู่ทนโท่ ว่าในโลกของความจริงนั้น รถคันนี้เป็นรถสีดำอย่างไม่ต้องสงสัย แต่บรรดาสาวกของกลุ่มคนที่เกลียดลุงพล กลับเลือกที่จะเชื่อเรื่องสมมติ มากกว่าที่จะเชื่อเรื่องจริง ถ้าแค่เชื่อเท่านั้นก็คงจะไม่เท่าไหร่ แต่พวกเขา กลับนำเรื่องที่มีคำตอบชัดเจนแน่นอนอยู่แล้วนี้ มาถกเถียงอย่างเอาเป็นเอาตาย กับบรรดาแฟนคลับของลุงพล ครั้นพอได้ฟังเหตุผล ที่ฝ่ายลุงพลพยายามหยิบยกขึ้นมาอธิบาย โดยหวังว่า อาจจะดึงพวกเขาให้กลับคืนสู่โลกของความจริง ก็กลับถูกคนกลุ่มนี้ ชี้หน้าด่าทอว่า เป็นพวกที่โง่เง่า  ว่าพลาง ก็ชี้ให้แฟนคลับฝ่ายลุงพลอ่านข้อความที่สติ๊กเกอร์ ว่านี่ไง ตัวหนังสือพิมพ์ ว่ารถคันนี้สีชมพูตัวเท่าหม้อแกง หลังจากนั้น พวกเขาก็พากันหัวเราะ ราวกับผู้ที่ได้รับชัยชนะ


หากจะว่ากันตามจริงแล้ว เรื่องสัพเพเหระ ที่เหล่าแกนนำฝ่ายมารได้หยิบยกมากล่าวอ้าง หลายต่อหลายเรื่อง แทบจะไม่แตกต่างกับเรื่องสติ๊กเกอร์เปลี่ยนสีรถ มิหนำซ้ำบางเรื่อง ยังออกแนวแฟนตาซีกว่าเรื่องนี้เสียด้วยซ้ำ เช่น เรื่องที่กล่าวหาว่าลุงพล แอบนำเงินไปซื้อบ้านราคาหลายล้าน หรือเรื่องที่แอบย่องไปเจรจากับช่างที่โรงหล่อพระ เพื่อที่จะว่าจ้างให้หล่อพระพุทธชินราชขึ้นมาเอง และยังมีอีกมากมายหลายประเด็น ที่เขาได้ถูกฝ่ายตรงข้าม นั่งเทียนตั้งข้อกล่าวหาอย่างเลื่อนลอย


แต่ก็ขอให้เชื่อเถอะครับว่า เพราะแม้ว่าแต่ละข้อกล่าวหา จะออกแนวหลุดโลกสักแค่ไหน บรรดาแฟนคลับ ของกลุ่มคนที่เกลียดลุงพล ก็พร้อมที่จะเชื่อ และที่น่าอเนจอนาถใจมากที่สุดก็คือ พวกเขาไม่เคยจะฉุกคิด หรือนึกเอะใจเลยแม้แต่น้อย เมื่อวันหนึ่งเรื่องเหล่านั้น ได้ถูกหักล้างโดยข้อมูลที่เป็นความจริง ก็มิได้เกิดความกระจ่าง หรือนึกตำหนิแกนนำของตนที่กุเรื่องขึ้น มิหนำซ้ำ ยังตั้งหน้าตั้งตา รอข้อมูลที่บิดเบือนเรื่องต่อไป โดยตั้งความหวังลมๆ แล้งๆ เอาไว้ว่า


มันน่าจะมีสักเรื่องหนึ่งสิน่า ที่บรรดาไอดอลของพวกเรา ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มบุคคล สื่อมวลชนบางช่อง เพจบางเพจ และนักวิเคราะห์สายเกลียดลุงพลตามช่องยูทูป จะสร้างเรื่องโกหกชั้นยอดขึ้นมา แหกตาพวกเราอีก โดยที่เรื่องโกหกเรื่องนั้นอาจจะเป็นหมัดเด็ด ที่จะกำจัดบุคคล ที่พวกเราเกลียดชังลงได้ในที่สุด

 

บทความดีๆ โดย พี่โซดา น้ำ




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดินแดนล้านนา เมืองเชียงใหม่

(ชาติพันธุ์) ลาวทรงดํา ไทยทรงดํา ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง

มาชู ปิกชู ประเทศเปรู เมืองสาบสูญแห่งอินคา