[ข่าวลุงพล] ทำไมต้องเปลี่ยน ปู่ปาริจิต เป็นพลังวิจิตร
ปู่ปาริจิตเปลี่ยนเป็นปู่พลังวิจิตร
คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ
แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่ต่างกัน จึงควรสวดเพื่อขอขมา ต่อเจ้ากรรมนายเวร
ทั้งอดีตชาติที่ผ่านมา หรือเคยล่วงเกินแก่เทพยดา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน หรือเคยสาบาน บนบาน
ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมทั้งสิ่งที่มองไม่เห็นทุกประการ การขอขมากรรมมิใช้การลดกรรม
แต่อย่างใด แต่เป็นการขอขมาต่อสิ่งที่เคยล้วนเกินมา ทุกภพ
ทุกชาติของตัวเราโดยไม่รู้หรือไม่ตั้งใจ เพื่อให้เขาเหล่านั้น อโหสิกรรมให้แก่เรา
ประเด็นของการเปลี่ยน ในส่วนของชื่อบุคคล คนเรามีชื่อเป็นนามเรียก
ที่เป็นชื่อเฉพาะของตนเอง และหลายคนที่เชื่อในเรื่องของนามมงคล ชื่อดีหรือร้าย
หากรู้ดวงชื่อของเราไม่ดี ก็นิยมเปลี่ยนชื่อกัน ซึ่งในปัจจุบันนี้
มีคนเปลี่ยนชื่อเดิมของตนเองเป็นชื่อใหม่ที่มีความเป็นมงคล ตรงกับศาสตร์การตั้งชื่อจำนวนมากมาย
บางคนชีวิตดีขึ้นหลังจากเปลี่ยนชื่อ
บางคนชีวิตยังเหมือนเดิม แต่สิ่งหนึ่งที่คนที่เปลี่ยนชื่อจะต้องพบเจอตามมา
ไมว่าชื่อตัวเองจะดีหรือร้าย แต่ต้องพบเจอกับสิ่งนี้ก็คือ ผู้ที่เปลี่ยนชื่อ
มักจะพบกับความสับสนในตนเอง คือไม่เข้าใจในตนเอง เช่น คิดอย่างหนึ่งแต่เปลี่ยนใจทำอีกอย่าง หรือ เป็นคนมีความลังเลเอาแน่นอนไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่เปลี่ยนชื่อบ่อยๆ
มากกว่า 2 ครั้งจะเห็นชัดเจนที่สุด
สาเหตุเป็นเพราะว่าเมื่อเราทำการเปลี่ยนชื่อใหม่
แต่เรายังไม่ได้ถอนชื่อเดิมออก ด้วยการบอกกล่าวกับเทวดาประจำตัว
หรือไม่ได้จุดธูปบอกเทพเทวาทั้ง 16 ชั้น ฟ้า 15 ชั้นดิน ให้ได้รับทราบว่า เราในชื่อนี้ได้เปลี่ยนชื่อแล้ว
และขอถอนชื่อนี้ออกจาก
นามบัญญัติแทนรูปนามในอัตภาพนี้ของเรา ขอให้ท่านเป็นทิพย์พยานว่าชื่อใหม่ของเราเป็น
ชื่อ นี้ๆ เหมือนจะตั้งศาลเจ้าที่ใหม่ ต้องทำพิธีถอนศาลเก่าออกก่อน ไม่ใช่อยู่ๆ ไปทำพิธีตั้งศาลใหม่เอาเองเลย
และรื้อถอนศาลเก่าเอาดื้อๆ โดยไม่มีการทำพิธี แบบนี้ก็จบเห่
เฉกเช่นกับข่าวการเปลี่ยนชื่อของ
องค์ปู่ปาริจิตนาคราชเจ้า ซึ่งพี่วีระ หลงสมบุญ ได้โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว มีเนื้อหาค่อนข้างน่าสนใจเลยที กับบทความที่มีชื่อว่า ปู่ปาริจิตเปลี่ยนเป็นปู่พลังวิจิตร โดยเนื้อหามีใจความว่า
ชื่อปู่ปาริจิตเริ่มใช้ก่อนก่อสร้าง มีการทำพิธีโดยพระ หลวงพ่อและท่านอื่นๆ
เป็นพลังศรัทธาของลุงพลกับผู้ร่วมบริจาคทรัพย์ การก่อสร้างรากฐานดำเนินไปด้วยดี จนสำเร็จเป็นปู่ปาริจิตนาคราช มีมารผจญจึงยังไม่ได้ตกแต่ง ไม่เป็นไรพญามารต่างๆ จะแพ้ไปเอง มีการทำพิธีและรำถวาย มีชาวอีสานและภาคอื่นมาไหว้ เยี่ยมชมมากในนาม"ปู่ปาริจิต"
การตั้งชื่อสิ่งที่จะเป็นโบราณสถานต่อไปในอนาคต
ไม่นิยมเปลี่ยนชื่อใหม่ เพราะถือว่าไม่เคารพองค์ปู่ดั้งเดิม มีภาพบนฟ้าเกิดขึ้นสวยงามกับปู่ แล้วใครหนอกล้าเปลี่ยนชื่อให้ปู่ปาริจิตมัวหมอง
ให้ใจคนภาคอีสานที่ศรัทธาปู่มากมายเศร้าหมอง
อีกอย่างตอนนี้พญานาคสร้างเสร็จแล้ว
อย่าแตะต้องตัดหัวหาง
หรือเปลี่ยนหันหัวหางไปทางอื่นตามที่ใครแนะนำ ให้คงไว้เช่นเดิม
ปู่ปาริจิต
ปู่กับปาคล้องจองกัน
ปาเสียงยาวผันได้ 5 เสียง ปา ป่า ป้า ป๊า ป๋า
จึงเหมาะสมกับปู่พญานาคอยู่แล้ว
เหมือนบทสวด "พาหุงสหัส.." ซึ่งธรรมะจะใช้คำเรียบๆ ปู่พลังวิจิตร พลังคือพลังงานที่แข็งแรง วิจิตรคือสวยงามตระการตา ความแข็งแกร่งสวยงามไม่ใช่ธรรมะในใจ ปู่เมื่อผ่านไปร้อยปี พันปี จะหวังให้สวยงามไม่ได้ มีแต่ความเก่าขลังตามอายุ การใช้คำว่าพลังวิจิตรจึงไม่ดี พลังเป็นคำผสม จึงเป็นคำตาย ผันไม่ได้ ใช้เป็นคำประธานไม่ได้ แต่ปาริจิตเป็นคำประธานในตัว
วันนี้มีภาษาไทยบ้าง ถ้าผมพูดผิด
ขอเชิญอาจารย์ภาษาไทยช่วยชี้แนะ
สำหรับป้ายชื่อปู่ใหม่
ลุงพลควรส่งคืนเจ้าของ
อย่าเก็บไว้ที่บ้าน
อย่าเกรงใจเจ้าของป้าย
เพราะจะทำให้ตัวเอง คนอื่นๆ ทั่วไปและปู่ปาริจิตมัวหมอง ตั้งชื่อแล้วอย่าเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่ น่ากลัวมากทีเดียวอย่าล้อเล่น
สวัสดีครับ วีระ หลงสมบุญ
ทางด้านทนายยิทัศน์
ประเสริฐเนติกุล ก็ได้โพสต์บทความ ลงบนเฟซบุ๊คแฟนเพจของท่าน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564
มีเนื้อหาใจความว่า
หวยพลิกล็อก เช้านี้ทนายได้รับข้อมูลล่าสุด
จากสายลับสองหน้า แห่งหมู่บ้านกกกอก มีข่าวปิดกันให้แซด
ใครเป็นคนอุ้มน้องส่งต่อไป ให้คนที่ขี่มอเตอร์ไซด์มารับไป สาเหตุที่มีข่าวหลุดมา
เพราะเกิดศึกสองพี่น้อง
ทำให้เกิดการระบายอารมณ์ เผลอพูดสิ่งที่อัดอั้นตันใจออกมา ก่อนวันนี้ การข่าวเองเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า
คนสุดท้ายที่อยู่กับน้อง คือชายข้างบ้าน
ผู้ไม่ค่อยมีข่าว อันอาจจะหลงลืมน้องในรถ ทำให้น้องทนความร้อนไม่ไหวเสียชีวิต เหตุที่การข่าวยืนยันว่าเป็นชายข้างบ้าน
เพราะมีคนเห็นน้องกับชายข้างบ้านจริง
ก่อนที่น้องจะหายไป
วันนี้ เมื่อมีข่าวหลุดออกมา ทำให้ผู้ถูกสงสัยต้องเปลี่ยนตัวตามไปด้วย จากคนข้างบ้าน กลายมาเป็นคนใกล้ชิดกว่าคนข้างบ้าน แบบที่ใครบางคนพูดเป็นนัยยะ
ถ้าหมายจับออกมาทุกคนคงตะลึง เมื่อหลายวันก่อน มีข่าวมาถึงทนายว่า ผู้ที่จะถูกออกหมายจับ ไล่มาเรื่อยๆ จากคนแบกศพ คนชำนาญป่าหรือพรานป่า ซึ่งเป็นคนช่วยแบกศพ แล้วให้คนที่ถูกจับซักทอดไปยังคนอื่นๆ อีกทอดหนึ่ง
แต่เมื่อเกมส์เปลี่ยน ผู้ต้องสงสัยถูกวนกลับมาที่บ้าน ๓
หลังและอาจเป็นบ้านหลังแรกที่ถูกหวยรวยทรัพย์
ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่า ทั้งคนแบกศพ คนอุ้มน้องส่งต่อไปยังคนที่มารอรับ ขับรถพาน้องออกไปจากหมู่บ้าน อาจถูกหวยเป็นพรวน
เวลาที่รักกันก็ช่วยกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ใครเป็นคนอย่างไร ก็แสดงออกให้คนอื่นเห็น เวลาจึงเป็นทั้งการเยี่ยวยาและการทำลายไปในตัวเอง
เด็กหญิงตัวน้อยๆ ไม่ค่อยมีคนรัก แถมเวลาทะเลาะกันก็มาลงที่เด็ก อันอาจเกิดจากปมใจใครเป็นพ่อมึง ทำให้ลุงป้าต้องยื่นมือเข้ามารักหลาน
เลยกลายเป็นช่องว่าง ดูสภาพบ้านเขาซิ จนๆ
แบบนี้ ทำให้จนกลายเป็นรวย
ขึ้นในพริบตา
เมื่อเวลาเปลี่ยน เกมส์เปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน จากคนข้างบ้าน กลายมาเป็นเจ้าบ้าน
ดังนั้นถ้าเกมส์ลงที่เจ้าบ้าน เป็นไปได้ที่ตำรวจจะไปตะครุบพวก
คนแบบศพ คนนำทาง (พราน ) ไปพูดคุยเค้น หาจากล่างสู่บน ไม่ช้าความจริงก็หลุดออกมา
น่าจะลักษณะนี้ครับ
งานนี้
ลุงป้า ต้องพาทนายไปเลี้ยงฉลองสักมื้อหรือ ถึงไม่เลี้ยงทนายก็ไม่ว่า แต่อย่าลืม นักคิด
นักเขียน นักกฎหมาย แถมนางที่อยู่แดนไกล ที่เขารักความยุติธรรม
เห็นคนเป็นคนไม่ใช่เป็นแพะ
จึงไม่ยอมให้คนเป็นแพะ ทั้งๆ ที่พวกเขาเหล่านี้ ไม่มีใครรู้จักลุงมาก่อน
แถมไม่ได้ผลประโยชน์อะไรจากลุงสักบาทหนึ่ง
แต่ได้ของขวัญคือการถูกฝ่ายตรงข้ามด่า
ถ้าไม่มีพวกนี้ ลุงก็ลุงเถอะ วันนี้ได้ประกันหรือยัง ไม่มีใครตอบได้
ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล เสาร์ ๑๕ พค ๖๔ ป่าตอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น