[ข่าวลุงพล] ผมนั้น ท่านได้แต่ใดมา ด้วยชอบแล้วฤาว่า วานบอก


 

ผมนั้น ท่านได้แต่ใดมา ด้วยชอบแล้วฤาว่า วานบอก

 

๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๓ หลังจากวันที่อรวรรณ วงศ์ศรีชา หายออกจากบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจค้น บ้าน และ รถยนต์ ของนายไชยพล วิภา (ขณะนี้ตกเป็นผู้ต้องหา)​ โดยขณะเข้าทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ในส่วนการค้นรถยนต์ ได้ใส่ชุดป้องกันมิดชิด โดยต้องการให้เห็นการทำงานในภาพรวม ถึงมาตรฐานการตรวจค้นที่โปร่งใส


เพจสถานบันเทิง ขอชื่นชมในการเตรียมชุดป้องกันมาเป็นอย่างดี และเห็นได้ชัดว่า แม้เส้นผมสักเส้นของเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจค้น ก็ไม่สามารถร่วงหล่นปะปนได้ เป็นการทำงานที่พร้อมมาก ในระดับปฏิบัติการตรวจค้น ซึ่งต่างกับการเก็บตรวจพยานหลักฐาน ในเช้าวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓ บนภูเหล็กไฟ เพจสถานบันเทิงยิ้ม มองบนเล็กน้อยด้วยความชื่นชมยิ่ง เบญจางคประดิษฐ์งามๆ


จากบทสัมภาษณ์ภรรยาผู้ต้องหาบางช่วงบางตอน ที่กล่าวถึงการตรวจค้นรถยนต์ ความว่า ".... วันที่เจ้าหน้าที่มาตรวจค้นหลักฐานในรถ ช่วงนั้นพวกเราไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจทันที และเอาเอกสารให้เซ็น ไม่ได้เป็นหมายค้นหรือแจ้งมาก่อนล่วงหน้า..."


โดยการตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำเก็บพยานหลักฐานภายในรถยนต์ (ในที่นี้จะนำแจ้งแต่เพียงพยานหลักฐานที่เก็บภายในรถยนต์เท่านั้น) ​ดังรายการต่อไปนี้ ไปเพื่อทำการตรวจพิสูจน์

๑.ทิชชู

๒.ไม้แคะหู

๓.กางเกงยีนส์ ๑ ตัว

๔.รองเท้าบูท ๑ คู่

๕.เส้นผม จำนวนหนึ่ง


ค้นโดยไม่มีหมาย สามารถทำได้ ข้อเท็จจริงอย่างไร ที่จะเป็นเหตุสนับสนุนให้เจ้าพนักงาน สามารถดําเนินการตรวจค้นในที่รโหฐานได้ โดยไม่มีหมายค้นนั้น ต้องไม่ใช่เป็นเรื่องการใช้ดุลพินิจตามอําเภอใจ ของเจ้าพนักงานแต่ละคน หากแต่ต้องมีกรอบในการใช้ดุลพินิจ หรือมีมาตรฐานในการพิสูจน์ถึงเหตุอันควรเชื่อที่เป็นรูปธรรม โดยเรื่องการใช้ดุลพินิจพิจารณาถึงเหตุอันควรเชื่อ เพื่อค้นในที่รโหฐาน โดยไม่มีหมายค้น เจ้าพนักงานจะต้องพิจารณาจากความร้ายแรงของความผิด จากลักษณะของพยานหลักฐานที่คาดว่าจะพบในที่รโหฐานนั้น


สิทธิของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว สิทธิในทรัพย์สิน หรือสิทธิในเคหสถาน ต่างเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ บุคคลใดจะล่วงละเมิด โดยไม่มีกฎหมายให้อํานาจไว้มิได้ อย่างไรก็ตาม สิทธิดังกล่าว ก็มิใช่สิทธิเด็ดขาด ถึงขนาดที่จะไม่อาจกําหนดข้อยกเว้นได้ ประเทศต่างๆ ล้วนแล้วแต่กําหนดสิทธิ เพื่อให้การคุ้มครอง ความเป็นส่วนตัวของบุคคลในเคหสถานไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือในกฎหมายของตน แต่ก็ได้กําหนดหลักเกณฑ์และข้อยกเว้นไว้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาไว้ ซึ่งความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และเพื่อประโยชน์สาธารณะ


หนึ่งในข้อยกเว้นที่สําคัญ ที่สามารถเข้าไปดําเนินการ อันเป็นการกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนได้ นั่นก็คือการค้นในที่รโหฐาน ซึ่งถือเป็นการล่วงละเมิดต่อสิทธิ ในความเป็นส่วนตัว และสิทธิในเคหสถานของบุคคล ทั้งนี้ก็เพื่อให้เจ้าพนักงาน สามารถเข้าไปแสวงหาพยานหลักฐานจากตัวบุคคล หรือจากเคหสถานของประชาชนได้ โดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น กฎหมายที่ให้อํานาจเจ้าพนักงาน เข้าไปค้นในที่รโหฐานของประชาชนได้ จึงต้องมีการกําหนดหลักเกณฑ์ในการดําเนินการไว้อย่างเคร่งครัด โดยจะต้องมีการขอหมายค้นจากศาลเสียก่อน จึงจะทําการตรวจค้นในที่รโหฐานได้


แต่ในบางกรณีที่มีความจําเป็นเร่งด่วน ๑ เดือนจากวันเกิดเหตุ เร่งด่วนไหมกฎหมายก็ได้กําหนดข้อยกเว้นหลักเกณฑ์ดังกล่าวไว้เช่นเดียวกัน โดยให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ สามารถดําเนินการตรวจค้นได้โดยไม่จําต้องมีหมายค้นจากศาล ก็สามารถทําการตรวจค้นในที่รโหฐานได้ แต่จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกําหนดไว้เท่านั้น ดังเช่นที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งกําหนดหลักเกณฑ์ ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ สามารถทําการค้นในที่รโหฐานได้โดยไม่จําต้องมีหมายค้นจากศาลไว้ถึง ๕ ประการ แต่หลักเกณฑ์ที่สําคัญคือ กรณีที่บัญญัติไว้ โดยกําหนดให้เจ้าพนักงาน สามารถใช้ดุลพินิจในการพิจารณาถึงเหตุ ที่จะดําเนินการตรวจค้นในที่รโหฐาน โดยไม่ต้องมีหมายค้นจากศาล ในกรณีที่มีพยานหลักฐานอันสมควรว่า สิ่งของที่เกี่ยวของกับการกระทําความผิด หรืออาจเป็นพยานหลักฐาน พิสูจน์การกระทําความผิดได้ซ่อน หรืออยู่ในที่รโหฐานนั้นประกอบ  ทั้งต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่า เนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ สิ่งของนั้นจะถูกโยกย้ายหรือถูกทําลายเสียก่อน


๑ เดือนจากวันเกิดเหตุ คงไม่น่าสนใจเท่า ๑ ปีเศษ จากวันเกิดเหตุ รถยนต์คันดังกล่าว ล้างบ้างหรือยัง อันจะเห็นได้ว่า การค้นโดยไม่มีหมายค้นตามบทบัญญัติของกฎหมาย ประกอบด้วยเงื่อนไขที่สําคัญอยู่ ๒ ส่วน คือ


เงื่อนไขในเรื่องพยานหลักฐาน หรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทําความผิด ได้ซ่อนหรืออยู่ในที่รโหฐานนั้น

เงื่อนไขที่เกี่ยวกับความล้าช้า หรือความไม่สะดวกในการนําหมายค้นจากศาลมาได้ในขณะนั้น เพราะหากรอหมายค้นจากศาล อาจจะทําให้สิ่งของหรือพยานหลักฐานนั้น ถูกโยกย้ายหรือถูกทําลายเสียก่อน


เมื่อนำเทียบกรณีทุกท่านจะพบความฮา และความบันเทิงไปพร้อมกัน หากแต่เป็นความบันเทิงบนความไม่บันเทิง


ซึ่งเงื่อนไขข้อที่สองนี้ กฎหมายได้กําหนดให้เจ้าพนักงาน เป็นผู้ใช้ดุลพินิจในการพิจารณาถึงเหตุอันควรเชื่อดังกล่าว จึงมีปัญหาในทางปฏิบัติ กล่าวคือ อาจเป็นช่องว่างให้เจ้าพนักงานใช้ดุลพินิจในการพิจารณา โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายได้ หรือในบางกรณีที่เจ้าพนักงาน ได้ใช้ดุลพินิจของตนในการพิจารณาถึงเหตุอันควรเชื่อดังกล่าวโดยสุจริตแล้ว แต่กลับไม่สอดคล้องกับความเห็นของศาล ทําให้บ่อยครั้ง เมื่อมีปัญหาที่เกี่ยวกับการค้นในที่รโหฐาน ขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาล ศาลได้วินิจฉัยว่า การค้นในที่รโหฐานของเจ้าพนักงาน เป็นการดําเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะมีผลต่อการรับฟังพยานหลักฐานของศาลและอาจทําให้เจ้าพนักงานถูกฟ้องร้องดําเนินคดีต่อศาลได้


ดังนั้น การพิจารณาว่า ข้อเท็จจริงอย่างไร เป็นเหตุสนับสนุนให้เจ้าพนักงาน สามารถทําการตรวจค้นได้โดยไม่มีหมายค้นนั้น จึงไม่ใช่เป็นเรื่องตามอําเภอใจของพนักงานเจ้าหน้าที่แต่ละคน แต่ละชุด หากแต่ต้องมีการกําหนดกรอบ ในการใช้ดุลพินิจ หรือมีมาตรฐานในการพิสูจน์ถึงเหตุอันควรเชื่อ ถึงความจําเป็นเร่งด่วนในการค้นนั้นๆ ด้วย จึงเป็นข้อที่น่าพิจารณาว่า เหตุอันควรเชื่อที่กฎหมายกําหนดไว้นั้น มีหลักเกณฑ์หรือมีบรรทัดฐานในการพิจารณาเพียงใด ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทราบถึงแนวทางที่เหมาะสม เพื่อให้เจ้าพนักงานสามารถนําไปเป็นกรอบ เพื่อยึดถือเป็นแนวทางปฎิบัติ ประกอบการใช้ดุลพินิจในการพิจารณา ถึงเหตุอันควรเชื่อ เพื่อให้สามารถทําการตรวจค้นในที่รโหฐาน โดยไม่มีหมายค้นได้อย่างเหมาะสมถูกต้อง ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และไม่ไปกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเกินสมควร อีกทั้งยังเป็นการป้องกันมิให้เจ้าพนักงาน ได้ใช้ดุลพินิจโดยอิสระมากเกินสมควร ซึ่งหากเจ้าพนักงานฝ่าฝืนใช้อํานาจ ปฏิบัตินอกเหนือขอบเขตที่กําหนดไว้ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานก็จะต้องถูกลงโทษทางกฎหมายต่อไป


การค้นสถานที่โดยไม่มีหมายค้น จะมีได้ในกรณีที่กฎหมายกําหนดยกเว้นไว้เป็นการเฉพาะ โดยกําหนดให้เจ้าพนักงาน สามารถค้นในที่รโหฐาน โดยไม่มีหมายค้นได้ในกรณีดังต่อไปนี้


          ๑. เมื่อมีเสียงร้องให้ช่วยมาจากข้างในที่รโหฐาน หรือมีเสียงหรือพฤติการณ์อื่นใด  อันแสดงได้ว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นในที่รโหฐานนั้น


          ๒. เมื่อปรากฏความผิดซึ่งหน้า กําลังกระทําลงในที่รโหฐาน


          ๓.เมื่อบุคคลที่ได้กระทําความผิดซึ่งหน้า ขณะที่ถูกไล่จับ หนีเข้าไปหรือมีเหตุอันแน่นแฟ้น ควรสงสัยว่า ได้เข้าไปซุกซ่อนตัวอยู่ในที่รโหฐานนั้น


          ๔.เมื่อมีพยานหลักฐานตามสมควรว่า สิ่งของที่มีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยการกระทําความผิดหรือได้ใช้ หรือมีไว้เพื่อจะใช้ในการกระทําความผิด หรืออาจเป็นพยานหลักฐานพิสูจน์การกระทําความผิดได้ซ่อนหรืออยู่ในที่รโหฐานนั้น ประกอบทั้งต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่า เนื่องจากการเนิ่นช้า กว่าจะเอาหมายค้นมาได้ สิ่งของนั้นจะถูกโยกย้ายหรือทําลายเสียก่อน


การค้นโดยไม่มีหมายค้น ในกรณีนี้ เป็นการกําหนดให้อํานาจค้นที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้น เมื่อต้องประกอบด้วยข้อเท็จจริง ที่เป็นเงื่อนไขของอํานาจ ๒ ประการ คือ


          ๑. มีพยานหลักฐานตามสมควรว่า มีสิ่งของที่มีไว้เป็นความผิดหรือได้มา/มีอยู่ โดยการกระทําความผิด หรือได้ใช้หรือมีไว้เพื่อจะใช้ในการกระทําความผิด หรืออาจเป็นพยานหลักฐานพิสูจน์การกระทําความผิด ได้ซ่อนหรืออยู่ในที่รโหฐานนั้น คําว่า เมื่อมีพยานหลักฐานตามสมควรจะต้องปรากฎพยานหลักฐานตามสมควรก่อนว่าสิ่งของที่จะค้นน่าจะอยู่ในที่รโหฐานนั้น ไม่ใช่เพียงแค่สงสัยก็มีอํานาจเข้าค้นได้โดยไม่ต้องมีคําสั่งหรือหมายของศาล


          ๒.มีเหตุอันควรเชื่อว่า เนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้หากเจ้าพนักงานไม่เข้าค้นที่รโหฐานในทันทีจะทําให้สิ่งของนั้นถูกโยกย้ายหรือทําลายเสียก่อน เห็นได้ว่ามีการใช้ถ้อยคํา คําว่า มีเหตุอันควรเชื่อทั้งนี้ เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการค้นในกรณีนี้ เป็นการป้องกันการโยกย้ายทําลายพยานหลักฐาน ซึ่งโดยทั่วไป เหตุได้เกิดขึ้นในที่รโหฐานโดยไม่มีพฤติการณ์ที่ชัดเจน ที่จะทําให้เจ้าพนักงานรู้ว่า เหตุที่ทําให้มีอํานาจค้นได้เกิดขึ้นแล้วหรือไม่ จึงแตกต่างจากกรณีอื่นๆ ที่มักจะมีเสียงให้ได้ยิน เช่นเสียงร้องให้ช่วยหรือเสียงปืน หรือกรณีการตามจับบุคคล ซึ่งเจ้าพนักงานเห็นอยู่ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผูู้กระทําความผิดซึ่งหน้า


การใช้อํานาจตามข้อกฎหมาย กรณีเช่นนี้ จึงมีความจําเป็นที่เจ้าพนักงานจะต้องใช้ดุลพินิจอย่างมาก ซึ่งการกําหนดเพียงแต่ให้เจ้าพนักงานส่งมอบสําเนาบันทึกการตรวจค้นและบัญชีทรัพย์ที่ได้จากการตรวจค้น รวมทั้งจัดทําบันทึกแสดงเหตุที่ทําให้สามารถเข้าค้นได้เป็นหนังสือให้ไว้แก่ผู้ครอบครองสถานที่ที่ถูกตรวจค้น และรีบรายงานเหตุผลและผลการตรวจค้นเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไป ยังไม่เพียงพอที่จะเป็นการปกป้องคุ้มครองบุคคลจากการใช้ดุลพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้


ดังนั้นแล้ว ช่วยตอบแก่เพจสถานบันเทิงด้วยว่า “ผม" อรววรรณ อันลงรายละเอียดไว้ว่า เป็นผมที่มาจากการตัด/สับ ชนิดเดียวกับที่พบในสถานที่เกิดเหตุในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๓ นั้น ชอบด้วยกฎหมายฤๅ ในกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย จะใสสะอาด สำหรับท่านผู้สงสัย ท่านอาจได้คำตอบบางส่วนสำหรับท่านผู้ไม่สงสัย ท่านอาจสงสัยขึ้นมาบ้างก็ได้

ด้วยความเคารพ เพจสถานบันเทิง



 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดินแดนล้านนา เมืองเชียงใหม่

(ชาติพันธุ์) ลาวทรงดํา ไทยทรงดํา ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง

มาชู ปิกชู ประเทศเปรู เมืองสาบสูญแห่งอินคา