พระอาจารย์นำ ชินวโร


 พระอาจารย์นำ ชินวโร

วัดดอนศาลา พระเถราจารย์แดนใต้ ศิษย์สำนักเขาอ้อ ผู้มีพุทธาคมเข้มขลัง
ตามประวัติกล่าวว่า พระอาจารย์นำ เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือนเก้า (สิงหาคม) พ.ศ.2434 ที่บ้านดอนนูด ตำบลปันแต (บ้านดอนนูดมีอาณาเขาติดต่อกับ 3 ตำบล คือ ตำบลปันแต ตำบลควนขนุน ตำบลมะกอกเหนือ) เป็นบุตรของนายเกลี้ยง นางเอียด แก้วจันทร์ มารดาได้เสียชีวิตตั้งแต่ท่านยังเล็กอยู่ (หลังจากคลอดบุตรหญิงคนสุดท้อง) บิดาเป็นอาจารย์ที่เก่งกล้าทางไสยศาสตร์ ดังนั้นพระอาจารย์นำ จึงได้มีโอกาสศึกษาวิชาทางไสยศาสตร์เบื้องต้นแต่เยาว์วัย นอกจากนั้น บิดายังได้นำไปฝากให้ศึกษาวิชาเวทมนตร์คาถากับพระอาจารย์ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงมากสมัยนั้น จนอายุได้ 20 ปี จึงได้อุปสมบทกับพระอาจารย์ทองเฒ่า ที่วัดเขาอ้อ ได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมอยู่ 6 พรรษา จึงลาสิกขา


    แล้วได้สมรสกับนางสาวพุ่ม มีบุตรชาย หญิง ด้วยกัน 4 คนจนกระทั่ง พ.ศ.2506 พระอาจารย์นำ ได้ป่วยหนักจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ได้มีลูกศิษย์ของท่านประทับทรงหลวงพ่อที่วัดเขาอ้อ (บ้างก็ว่าท่านฝันเห็นพระอาจารย์ทองเฒ่า) บอกว่าหากจะให้หายป่วยจะต้องบวช ซึ่งท่านก็รับว่าถ้าหายป่วยแล้วจะบวชทันที ปรากฏว่าอาการป่วยของท่านก็หายเป็นปกติ ดังนั้นพระอาจารย์นำจึงได้อุปสมบทอีกครั้งหนึ่งที่วัดดอนศาลา เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2506 และได้อยู่ในเพศบรรพชิตตลอดมาจนถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2519 รวมอายุได้ 85 ปี ต่อมาในปี 2520 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2520


    พระอาจารย์นำ ชินวโร ได้ทำคุณประโยชน์หลายอย่าง ที่สำคัญได้แก่
    1. การช่วยเหลือราชการปราบปรามโจรผู้ร้าย
ในสมัยที่พระอาจารย์นำ ยังเป็นฆราวาส พ.ศ.2466 ทางมณฑลนครศรีธรรมราช ได้ส่งพระยาวิชัยประชาบาล ผู้บังคับการตำรวจมณฑลนครศรีธรรมราช ไปปราบโจรผู้ร้ายในจังหวัดพัทลุง ไปตั้งกองปราบที่วัดสุวรรณวิชัย ปรากฏว่าพระอาจารย์นำ ได้เป็นกำลังสำคัญในการนำสืบจับโจรผู้ร้าย ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ในการปราบปรามครั้งนั้นมาก จนสามารถปราบปรามโจรผู้ร้ายได้สงบราบคาบ


    2. การสร้างวัตถุมงคล
พระอาจารย์นำ ได้สร้างเครื่องรางของขลังไว้มาก ทั้งที่สร้างด้วยตัวท่านเองและสร้างร่วมกับคณาจารย์ผู้อื่นเช่น พ.ศ.2483 ร่วมมือกับพระครูสิทธิยาภิรัตน์ (เอียด) สร้างพระมหาว่าน ขาว-ดำ และพระมหายันต์ แจกให้ทหารที่ไปรบในสงครามอินโดจีน พ.ศ.2512 ได้สร้างพระเนื้อผงผสมว่าน จำนวน 4 พิมพ์ พ.ศ.2513 สร้างพระปิดตาเนื้อชิน ตะกั่ว พ.ศ.2519 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ได้สร้างเหรียญรูปเหมือนพระอาจารย์นำ และพระกริ่งทักษิณ ชินวโร ซึ่งเป็นวัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายของท่าน นอกจากนี้ท่านยังได้สร้างตะกรุดและผ้ายันต์ไว้มากมาย วัตถุมงคลเหล่านี้เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธา ของประชาชนทั่วไป ในวงการพระเครื่องแสวงหากันมาก จนปัจจุบันกลายเป็นวัตถุมงคลที่หาได้ยากยิ่งอย่างหนึ่ง


    3. การสร้างอุโบสถ
พระอาจารย์นำได้ดำริจะสร้างอุโบสถสำหรับวัดดอนศาลา โดยได้ปรึกษาหารือกับบรรดาศิษย์ และได้รวบรวมเงินจากผู้มีจิตศรัทธา จากการทอดกฐินบ้าง ทอดผ้าป่าบ้าง จึงได้เริ่มสร้างอุโบสถตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๓ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ในการดำเนินการก่อสร้างครั้งนี้ พระอุโบสถวัดดอนศาลาสำเร็จเรียบร้อยเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ ซึ่งเป็นปีที่ท่านถึงแก่มรณภาพ


    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จารึกพระปรมาภิไธยย่อ "ภ.ป.ร." ไว้ที่หน้าบันและขอบประตูหน้าต่างอุโบสถทุกบานภายในพระอุโบสถพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นค่าจ้างให้ช่างเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติและทศชาติชาดก ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พระอาจารย์และชาวจังหวัดพัทลุงเป็นอย่างยิ่ง


    นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ระบุข้อความว่า...พระอาจารย์นำ ชินวโร แห่งวัดดอนศาลา


ผมอยู่ใกล้วัดดอนศาลา และ วัดเขาอ้อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ถ้าจะไม่กล่าวถึงพระอาจารย์นำ ชินวโร เกจิอาจารย์ แห่งวัดดอนศาลา เสียเลยก็ดูจะเกินไป เรื่องที่จะเล่า ก็ได้มาจากคำบอกเล่าของผู้อยู่ในเหตุการณ์ และผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่นำมาเล่าก็ยังมีชีวิตอยู่ ผมเพียงนำมาเล่าต่อ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ขอให้อยู่ในวิจารณญาณของแต่ละคน เพียงแต่จะเล่าไว้ให้คนรุ่นหลังได้ผ่านสายตา


ครั้งหนึ่ง มีผู้นินมต์พระอาจารย์นำ ชินวโร แห่งวัดดอนศาลา จ.พัทลุง ไปทำพิธีเปิดป้ายแห่งหนึ่งในกทม. ในพิธีนั้นมีพระองค์เจ้าภานุพันธ์ยุคล ประทับอยู่ในงานด้วย ผู้ที่ไปกับพระอาจารย์นำ เล่าให้ฟังว่า ขณะที่พระอาจารย์นำกำลังทำพิธีปลุกเสกน้ำมนต์อยู่นั้น ได้มีฝูงผึ้งบินมาเกาะที่ป้าย และเหรียญที่วางหน้าหม้อน้ำมนต์สั่นหมุนเป็นวงกลม หลังทำพิธีเสกน้ำมนต์ฝูงผึ้งก็บินไปหมด พระองค์เจ้าภานุพันธ์ยุคล ทอดพระเนตรเห็นด้วยความอัศจรรย์ แต่ก็ไม่ได้เชื่อ เก็บความสงสัยไว้

    หลังพิธี พระองค์เจ้าฯ ก็เข้าไปนมัสการถามว่า เมื่อสักครู่ ตอนพระคุณเจ้าทำพิธี เห็นเหรียญสั่นและหมุนเป็นวงกลม และมีฝูงผึ้งบินมาเกาะที่ป้าย เป็นเหตุบังเอิญหรือเป็นเพราะอภินิหาริย์ของหลวงพ่อกันแน่ หลวงพ่อลองทำให้ดูอีกหน่อยได้หรือไม่ พระอาจารย์นำตอบว่า ได้ หลังเปิดป้ายเสร็จ พระอาจารย์นำ ก็นำเหรียญมาวางและบริกรรมอีกครั้งหนึ่ง การณ์ก็เป็นเหมือนดั่งที่ผ่านมา เหรียญสั่นและหมุนด้วยการบริกรรมคาถาของพระอาจารย์นำ พระองค์เจ้าภานุพันธ์ เห็นเป็นอัศจรรย์ ก็ฝากตัวเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์นำ วชิโร นับแต่วันนั้น เหตุการณ์หลังจากนั้นผมจะข้ามไป ขอเล่าต่อถึงตอนที่ว่า หลังจากนั้น ประมาณ 7 วัน ก็มีพระกระแสรับสั่งให้พระอาจารย์นำ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน มีรายละเอียดจากเรื่องเล่าของผู้อยู่ในเหตุการณ์ในตอนนั้น แต่มิบังควรที่จะนำมาเล่าด้วยประการทั้งปวง เอาแค่นี้ก็คงจะพอ พระอาจารย์นำ เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 รวม 3 ครั้ง ผมเล่าเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้ตำนานของวัดดอนศาลา และ วัดเขาอ้อ ขาดหายไปตามกาลเวลา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาลาการเปรียญไม้ทรงโบราณ ที่อำเภอเสาไห้

ตำนาน และประวัติความเป็นมา ของอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง

[คติธรรม] คมธรรมของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ