เหตุผลในที่เกิดเหตุ เหตุผลในพฤติการณ์ แห่งการปฏิบัติหน้าที่
เหตุในที่เกิดเหตุ
ในทางกฎหมายอันระบุโดยชัดแจ้ง
"ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานทุกชนิด เท่าที่สามารถจะทำได้
เพื่อประสงค์จะทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่าง ๆ
อันเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา เพื่อจะรู้ตัวผู้กระทำผิดและพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา"
เมื่อพิจารณาจะเห็นได้ว่า
บทบัญญัติที่บัญญัติไว้ดังกล่าวเป็นบทบัญญัติบังคับให้พนักงานสอบสวนมีภาระหน้าที่ที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด
เพื่อทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์เกี่ยวกับความผิดที่กล่าวหา
เพื่อจะรู้ตัวผู้กระทำผิด และพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา
การดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนนั้นจึงต้อง
มิใช่เป็นการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนของการจะเพิ่มน้ำหนักให้สมเหตุสมผลในการจะกล่าวหาผู้ต้องหาแต่เพียงอย่างเดียว
การรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่จะเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ที่ถูกกล่าวหา
พนักงานสอบสวนก็ต้องดำเนินการด้วย
ทั้งนี้เพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำความผิดที่แท้จริงมาลงโทษ แต่หลายครั้งพบว่า
หลายกรณีพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในส่วนของกระบวนการยุติธรรมในชั้นต้น
ยังบกพร่องหรือยังใช้ความพยายามไม่เพียงพอ ทั้ง ๆ
ที่บางกรณีหากมีใช้ความละเอียดรอบคอบหรือความพยายามในการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน
ก็จะสามารถป้องกันมิให้เกิดความผิดพลาดในการทำให้ผู้ที่ไม่ได้ทำความผิดหรือผู้บริสุทธิ์ถูกกล่าวหาทั้ง
ๆ ที่ไม่ได้กระทำความผิดได้
ในกรณีคดีเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา
จะเห็นได้ว่านับแต่วันพบร่าง ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๙.๐๐ นาฬิกา
มีเหตุและปัจจัยหลายประการในการเริ่มต้นการสืบสวนสอบสวนที่ไม่สามารถวางใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ครบ
๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ อาจกล่าวได้บางส่วนตามพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
๑.ในที่เกิดเหตุ การปฏิบัติการภาคสนามของเจ้าหน้าที่ตํารวจ
ในการบริหารจัดการสถานที่เกิดเหตุ โดยต้องมุ่งเน้นถึงการรักษาสถานที่เกิดเหตุ
การตรวจสถานที่เกิดเหตุ และขั้นตอนการตรวจเก็บ หีบห่อ วัตถุพยานต่างๆ
เพื่อส่งไปยังหน่วยตรวจพิสูจน์/ของสํานักงานพิสูจน์/หลักฐานตํารวจ
เพื่อให้ได้มาซึ่งพยานหลักฐานที่สมบูรณ์ที่สุด และนำไปสู่การวางแนวทาง ในการหาตัวผู้กระทำผิดโดยไม่ผิดพลาด
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พิจารณาได้ว่า
ที่เกิดเหตุนั้นมีสองส่วนหรือมากกว่านั้น ในที่นี้จะกล่าวเพียงสองส่วนหลักๆ เท่านั้น
คือ ส่วนแรกสถานที่หายตัวไป และส่วนที่สองคือสถานที่พบศพ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จัดอยู่ในที่เกิดเหตุทั้งสิ้น
หากแต่การจัดการในที่เกิดเหตุทั้งสองแห่ง กระทำอย่างไม่สมบูรณ์
ขาดความละเอียดรอบคอบอย่างเห็นได้ชัด จากแนวทางปฏิบัติพบว่า ไม่มีการจำกัดบริเวณสถานที่เกิดเหตุอย่างรัดกุม
มีบุคคลภายนอกสามารถเข้าออกพื้นที่เกิดเหตุได้โดยง่าย
ทั้งที่การเก็บพยานหลักฐานต่างๆ ยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างสูงว่า พยานหลักฐาน
ส่วนพื้นที่การหายตัวไปในครั้งแรกนั้น ถูกละเลยและมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งพยานหลักฐานที่ได้มาจากสถานที่พบศพ
ก็ยังสามารถมีการปนเปื้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากการจำกัดบริเวณเป็นไปได้ยากและไม่กว้างเพียงพอ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ทราบดีอยู่แล้วถึงสภาพของที่เกิดเหตุว่ามีความยากลำบากในการควบคุมจำกัด
หากแต่ก็มิได้วางแนวทางป้องกันให้จำกัดรัดกุมโดยเด็ดขาดเพียงพอ
รายงานการแถลงข่าวเมื่อ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๓
ทางขึ้นเขามี ๔ ทาง การจักการสถานที่เกิดเหตุปิดกั้นเส้นทางไหนบ้าง? ปิดกั้นอย่างไร? นอกจากนี้ ในสถานที่เกิดเหตุ
ยังไร้ซึ่งพยานหลักฐาน อันปรากฏผู้กระทำผิดได้โดยชัดเจน จึงทำให้การจะเชื่อใจได้ว่า
พยานหลักฐานที่ได้มานั้น จะใสสะอาดและปราศจากการปนเปื้อน หรือถูกละเลยมองข้าม ไม่ว่าจะเกิดจากความตั้งใจ
หรือประมาทขาดความรอบคอบ ตามแนวทางอันควรจะเป็นก็ตาม
ทั้งหมดที่กล่าวมาในส่วนที่เกิดเหตุนี้เป็นเหตุทำให้พยานหลักฐานทางคดีแปรเปลี่ยนได้ทั้งสิ้น
ในการนี้ เพจสถานบันเทิง
ขออนุญาตไม่ระบุรายละเอียดอันเป็นข้อปลีกย่อย ในการมองแต่ละส่วนให้ชัดเจนมากนัก
ด้วยก็เป็นที่ทราบและเห็นกันโดยทั่วหน้า และหากจะเอ่ยอ้างแย้งขึ้นว่า
สถานที่ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องจำกัดควบคุม สถานที่ตรงนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องหาพยานหลักฐานใด
จึงไม่ถูกต้องนัก หรือใครจะเชื่อ
๒.ในพฤติการณ์แห่งการปฏิบัติหน้าที่ การปฏิบัติหน้าที่
อันมีการยื่นคำร้องต่อศาล โดยมีถ้อยความผิดพฤติการณ์
จากกรณีเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๔
ในช่วงเวลาการนำตัวผู้ต้องหา ขออำนาจศาลฝากขัง นายไชย์พล วิภา
อันเป็นไปตามหน้าที่ในวิธีปฏิบัติ ที่กฎหมายมีข้อบัญญัติ ให้เจ้าหน้าที่สามารถคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหาได้
นอกจากนี้ผู้ที่สามารถคัดค้านการประกันตัวนั้นยัง
รวมไปถึงผู้เสียหายและพยานอีกด้วย
(อัยการเป็นอีกผู้หนึ่งที่สามารถยื่นคัดค้านการประกันตัวได้ แต่ในกรณีนี้มิได้เกี่ยวข้อง
จึงไม่ขอกล่าวถึง)
ซึ่งหลักเกณฑ์การคัดค้านการประกันตัว ตามข้อบัญญัติของกฎหมาย
ให้เป็นไปตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้ คือถ้ามีเหตุดังต่อไปนี้ ศาลจะสั่งให้ไม่ประกันตัว
ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนี
ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น
ผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกัน ไม่น่าเชื่อถือ
การอนุญาตให้ประกันตัว จะเป็นอุปสรรค หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน
หรือการดำเนินคดีในศาล กล่าวคือ การยื่นคัดค้านการประกัน ต้องเรียงถ้อยความอันเป็นเหตุ
แสดงให้ศาลเห็นว่า มีเหตุผลอย่างไร ที่จะขอคัดค้านการประกันตัวในคำร้อง
ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจ ได้มีการแนะนำ/นำพาผู้สูญเสีย
พร้อมทั้งพยานเข้ายื่นคัดค้านการประกันตัว อันเป็นเหตุให้ศาล จำต้องมีการไต่สวนทางฝ่ายผู้คัดค้าน
มีพยานทั้งหมด ๓ ปาก เมื่อศาลได้ทำการไต่สวนนั้น ผู้สูญเสียยอมรับว่าตั้งแต่แรกไม่สงสัย
นายไชยพล วิภา และที่เขียนคำร้อง ได้รับการแนะนำตัวจากตำรวจ
เป็นการยอมรับต่อศาลเช่นนี้ และไม่มีการข่มขู่กันมาก่อน
อีกทั้งในการไต่สวนส่วนเจ้าพนักงานตำรวจ ได้มีการยอมรับว่าในวันที่ ๒ มิถุนายน
๒๕๖๔ การที่ผู้ต้องหาเดินทางเข้าไปมอบตัวที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น
เป็นการเข้ามอบตัว รวมตลอดถึงก่อนหน้าที่จะออกหมายจับ นายไชย์พล วิภา
ไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนีมาก่อน แสดงให้เห็นโดยชัดแจ้งต่อศาลได้อีกว่า
ในการเรียงถ้อยความของเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับ
โดยอ้างว่าไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และหลบหนี นั้นเป็นความเท็จ
(ในส่วนถ้อยความเรียงคำร้อง)
โดยพฤติการณ์ดังกล่าวของเจ้าหน้าที่
อันได้มีการเพิ่มเติมประการหนึ่งประการใด
โดยผู้ต้องหามิได้มีพฤติการณ์จริงเช่นนั้น ถือเป็นการใช้ช่องของกฎหมาย อันเปิดให้เจ้าหน้าที่กระทำเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมไปในทางอันไม่ถูกต้องนัก
เมื่อเหตุต้น ก่อนถึงแท่นยุติธรรม ยังนำพาความมิถูกต้องยุติธรรมได้อย่างโปร่งใสสุจริต
แล้ว/ฤๅใครจะเชื่อในพฤติการณ์อันผ่านมา และพฤติการณ์อันจะเป็นไปได้โดยวางใจ ฤๅไม่จริง
ท้วงติงมา
ด้วยความเคารพ เพจสถานบันเทิง

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น