[ย้อนรอยคดีดัง] ฎีกาประหารชีวิต “ไอ้เต่า” ฆ่าข่มขืนชิงทรัพย์ ม.4


 

ฎีกาประหารชีวิต ไอ้เต่าฆ่าข่มขืนชิงทรัพย์ ม.4

 

จากกรณีฆาตกรหื่น ลงมือฆ่าข่มขืนน.ส.วีร์วิมล หรือ "น้องณัฐ" ศิริเวช อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) ทิ้งศพหมกพงหญ้าหลังหมู่บ้านริมสวน-ฟ้าใส ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 มิ.ย.2549 สภาพศพถูกแทงพรุนทั่วร่าง กางเกงในพบคราบอสุจิของคนร้ายติดอยู่ ในที่เกิดเหตุพบเส้นผม ขนเพชรร่วงเกลื่อนเต็มไปหมด หลังเกิดเหตุแม่ผู้ตายให้การว่า หลังเลิกเรียน ลูกสาวขอไปงานศพญาติเพื่อนที่จ.ปทุมธานี ขากลับโทร.มาบอกว่าถึงปากซอยแล้ว กำลังยืนรอมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ จากนั้นก็หายตัวไปอย่างลึกลับ จนกระทั่งรุ่งเช้ามีคนพบศพถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด ตร.พุ่งเป้ากลุ่มวินมอเตอร์ไซค์


ความคืบหน้าเรื่องนี้ เริ่มเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 มิ.ย. 2549 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนบก.น. 2 และชุดสืบสวน สน.ดอนเมือง ประกอบด้วย พ.ต.ท.ธีระเดช ธรรมสุธีร์ สว.สส.บก.น.2 และร.ต.ท.สุรเชษฐ์ เอนกศรี รองสว.สส.สน.ดอนเมือง ร่วมจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ฆ่าข่มขืนน.ส.วีร์วิมลไว้ได้ ขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านญาติในจ.สุรินทร์ ทราบชื่อต่อมาคือ นายศิริมงคล เรือนนาค หรือ "ไอ้เต่า" อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/13 หมู่ 3 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป จึงนำตัวมาสอบสวนขยายผลยังสน.ดอนเมือง


โดยมี พล.ต.ต.อํานวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม ผกก.สส.น.2 พ.ต.อ.จัตุพันธุ์ วรรณภักตร์ ผกก.สน.ดอนเมือง ร่วมสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง


จากการสอบสวนนายศิริมงคล ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าน.ส.วีร์วิมลจริง เพียงต้องการชิงทรัพย์เท่านั้น ไม่ได้ลงมือข่มขืน ที่ฆ่าเพราะผู้ตายขัดขืน จึงใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวแทงไม่ยั้ง โดยก่อนเกิดเหตุช่วง 2 ทุ่ม ตนนั่งกินเหล้าอยู่กับพี่ชาย ซึ่งมีอาชีพขับรถจยย.รับจ้าง และเพื่อนสนิทอีกคนอยู่ที่ห้องเช่าย่านดอนเมือง พอเลิกได้ขอเงินพี่สาวเพื่อไปกินเหล้าต่อ แต่พี่สาวไม่ให้ จึงคว้าเสื้อวินและรถจยย.ของพี่ชายที่จอดอยู่ ไปขับหาเงิน เป็นจังหวะที่เจอผู้ตายยืนรอรถอยู่พอดีจึงจอดรับ ก่อนจะพาผู้ตายเข้าไปในที่เปลี่ยวหลังหมู่บ้านริมสวนฟ้าใส เพื่อชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายขัดขืน จึงใช้มีดแทงจนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไปอาศัยกับญาติที่จ.สุรินทร์ แต่ถูกจับกุมเสียก่อน


พล.ต.ต.อํานวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัตินายศิริมงคล ทราบว่าเคยมีประวัติถูกจับกุม ในคดีข่มขืนน้องภรรยาเมื่อปีที่แล้ว และเพิ่งออกจากร.พ.ศรีธัญญามาได้แค่ 2 อาทิตย์ เพราะมีอาการคลุ้มคลั่ง ใช้มีดกรีดแขนตัวเองเนื่องจากติดยา การที่สามารถจับคนร้ายได้รวดเร็ว เกิดจากความร่วมมือของพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ ตอนที่นายศิริมงคลรับผู้ตายขึ้นรถ ขับพาเข้าไปในที่เปลี่ยว หลังหมู่บ้านร้างก่อนลงมือฆ่า นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานในที่เกิดเหตุหลายอย่าง อาทิ ขนเพชร และคราบอสุจิในช่องคลอดผู้ตาย ถึงแม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ก็มีหลักฐานเอาผิดกับคนร้ายได้แน่ๆ


ผบก.น.2 กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ข้อมูลจากญาติผู้ต้องหาอีกว่า หลังจากที่นายศิริมงคลก่อเหตุแล้ว ก็ได้ขับรถกลับมายังห้องพัก และมาพูดให้ญาติฟังว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ไปฆ่าคนตายมา จึงคิดหลบไปอยู่ที่บ้านญาติจ.สุรินทร์ โดยนายศิริมงคล ส่งลูกสาวและแม่ยายขึ้นรถตู้ไปที่จ.สุรินทร์ก่อน ส่วนตัวเองและภรรยา จะขับมอเตอร์ไซค์ตามไปในช่วงเช้า โดยอาศัยนอนอยู่ที่ห้องดังกล่าว 1 คืน นํามีดที่ก่อเหตุห่อไว้ในเสื้อวิน วางไว้ที่ตะกร้าหน้ารถจยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดํา ทะเบียน ยบบ-328 กรุงเทพฯ พอถึงรุ่งเช้าทั้งคู่ก็ขับจยย.เดินทางไปยังจ.สุรินทร์กระทั่งถูกจับกุมตัว


"ผมส่งชุดไล่ล่าไปถึงจ.สุรินทร์ จับกุมผู้ต้องหาได้ ขณะขับมอเตอร์ไซค์พาเมียซ้อนท้าย มาตามทางหลวงหมายเลข 24 โชคชัย-เดชอุดม หลักก.ม.95-96 เขตอําเภอประโคนชัย เมื่อพบจึงแสดงหมายศาลอาญา เลขที่ 2423/2549 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนารวบตัวทันที" ผบก.น.2 กล่าว


ต่อมาเวลา 13.30 น.นางปิยะนันท์ ภิรมย์ไกรภักดิ์ ผอ.โรงเรียนและคณะอาจารย์ เดินทางเข้าขอบคุณพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2, พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมือง ที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยกล่าวว่า ขณะนี้ ทางโรงเรียนได้ดำเนินการ เพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวน.ส.วีร์วิมลแล้วบางส่วน และร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ เนื่องจากครอบครัวของเด็กมีฐานะยากจน โดยน.ส.วีร์วิมลเป็นเด็กเรียนดี ได้เกรดเฉลี่ย 3.8 เสียดายที่ต้องมาเสียชีวิตลงแบบนี้


ขณะเจ้าหน้าที่สอบสวนนายศิริมงคลอยู่บนสน.ดอนเมือง ได้มีประชาชนกว่า 500 คน มาดักดูหน้าฆาตกรอยู่บริเวณหน้าโรงพัก พร้อมตะโกนสาปแช่งขอให้ตายตกไปตามกัน ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ต้องเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เนื่องจากมีประชาชนนับพันไปรอล่วงหน้าที่จุดเกิดเหตุ


เวลา 16.30 น. พนักงานสอบสวนนําตัวนายศิริมงคล ออกจากห้องสอบสวนชั้นล่าง ขึ้นไปยังชั้น 3 เพื่อทำพิธีขอขมาแม่ผู้ตาย โดยเจ้าหน้าที่เตรียมดอกไม้ ธูปเทียน ให้ผู้ต้องหาเข้าไปขอขมา โดยนายศิริมงคล กล่าวขณะขอขมาแม่ผู้ตายว่า "ขออโหสิกรรมน้องด้วย ที่พี่ทําลงไปเป็นอารมณ์ชั่ววูบ" จากนั้นจึงยื่นดอกไม้ให้กับแม่ผู้ตาย แต่แม่ผู้ตายได้ยื่นคืนให้ผู้ต้องหา เอาไปขอขมาต่อหน้ารูปน.ส.วีร์วิมล หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวกลับมาชั้นล่างเพื่อสอบปากคำต่อไป


ระหว่างนําตัวผู้ต้องหาลงมาชั้นล่าง ได้มีประชาชนจำนวนมาก พยายามฝ่าด่านตํารวจที่ยืนเป็นกำแพงอยู่หน้าสน. เข้ารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา จนเกิดเหตุชุลมุน จนพล.ต.ต.อํานวย นิ่มมะโน ต้องใช้โทรโข่งพูดให้ประชาชนเข้าใจ ว่ากฎหมายจะลงโทษคนร้ายเอง ต่อจากนี้ เจ้าหน้าที่จะได้สรุปสำนวนส่งฟ้องโดยเร็วที่สุด


ในช่วงเย็นวันเดียวกัน นายศิริมงคลยอมเปิดปากรับสารภาพแล้วว่า เป็นผู้ลงมือข่มขืนเหยื่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกปากคำไว้


21 มิ.ย.2549 พล.ต.ต.สมยศ ดีมาก นายแพทย์ สบ.6 โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ แถลงผลการตรวจชันสูตรศพ น.ส.วีร์วิมล ศิริเวช หรือ น้องนัท ซึ่งถูก นายศิริมงคล หรือ เต่า เรือนนาค ฆ่าจนเสียชีวิต และตำรวจตามจับกุมตัวนายศิริมงคลได้ โดยเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าน้องนัทจริง แต่ยังไม่ยอมรับว่าได้ข่มขืน ทั้งที่แพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น พบร่องรอยการถูกข่มขืน


พล.ต.ต.สมยศ กล่าวว่า ตำรวจได้มีการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ ที่พบในเล็บผู้ตาย และน้ำเมือกในช่องคลอดมาทำการตรวจพิสูจน์ ซึ่งเบื้องต้นมีการสันนิษฐานไว้ว่า นายศิริมงคล น่าจะเป็นผู้ข่มขืนผู้ตาย และจากการผ่าชันสูตรศพอย่างละเอียดของแพทย์นิติเวช สามารถยืนยันได้ จากการตรวจบริเวณอวัยวะเพศของผู้ตาย ซึ่งพบการฉีกขาดใหม่ของเยื่อพรหมจรรย์ และพบน้ำเมือกในช่องคลอด แต่ไม่พบตัวอสุจิ นอกจากนี้ บริเวณทวารหนักมีรอยบวมช้ำ ซึ่งการตรวจสอบพบว่า เมือกในช่องคลอด และชิ้นเนื้อในซอกเล็บของผู้ตาย มีลักษณะดีเอ็นเอ ตรงกับตัวอย่างเลือดและเส้นขนของผู้ต้องหา ถึง 16 จุด ประกอบกับมีร่องรอยการต่อสู้ของผู้ตาย จึงสามารถยืนยันได้แน่ชัดว่า นายศิริมงคล เป็นผู้ลงมือข่มขืนเพียงคนเดียว เนื่องจากไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่นปะปน


พล.ต.ต.สมยศ กล่าวอีกว่า การตรวจอย่างละเอียดดังกล่าว แต่ไม่พบตัวอสุจินั้น อาจเป็นไปได้ว่า ผู้ต้องหาเป็นหมัน หรือจำนวนอสุจิมีจำนวนน้อย ส่วนประเด็นที่ว่า น้องนัทถูกฆ่าตายก่อน หรือถูกข่มขืนก่อนฆ่านั้น จากการดูจากสภาพบาดแผล และสำนวนของพนักงานสอบสวนประกอบกัน เชื่อว่า ผู้ต้องหาได้ลงมือจ้วงแทงผู้ตาย เพื่อให้หยุดนิ่งจากการต่อสู้ดิ้นรน จากนั้นจึงค่อยลงมือข่มขืน โดยที่ยังไม่เสียชีวิตทันที ซึ่งผู้ตายอาจจะมาเสียชีวิตในภายหลัง จากการเสียเลือดมาก จนภาวะหัวใจล้มเหลว


ด้านพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ซึ่งค่อนข้างมั่นใจอยู่แล้วว่า นายศิริมงคล ได้ข่มขืนผู้ตาย แต่เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาเพียงข้อหาเดียวนั้น ขณะนี้ ได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเพิ่มอีกข้อหา


12 ก.ค.2554 ที่ห้องพิจารณาคดี 910 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ อ.2760/2549 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายศิริมงคล หรือเต่า เรือนนาค อายุ 38 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฐานข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย และพาอาวุธไปในเมือง


กรณีเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.49 เวลากลางคืน จำเลยใช้มีดปลายแหลม ยาวประมาณ 7 นิ้ว แทง น.ส.นัท จำนวน 6 แผลจนถึงแก่ความตาย ก่อนข่มขืนผู้ตาย พร้อมกับชิงทรัพย์เงินสดจำนวน 550 บาท เหตุเกิดที่ด้านหลังหมู่บ้านริมสวน-ฟ้าใส ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิต และให้ชดใช้เงินจำนวน 600,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี แก่ญาติของผู้เสียชีวิต จำเลยฎีกาขอให้ลดโทษ


ศาลฎีกาประชุมปรึกษาหารือแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า มีเหตุให้ลดโทษประหารชีวิตหรือไม่ จำเลยฎีกาว่าที่กระทำผิดไปเนื่องจากเสพยาบ้า และดื่มสุราจนเมาขาดสติ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี เห็นว่า การที่จำเลยสมัครใจเสพยาเสพติดดังกล่าว ย่อมทราบดีว่าจะเกิดอาการมึนเมา จำเลยจะอ้างว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองนั้นไม่ได้ อีกทั้งการกระทำของจำเลย เป็นความผิดหลายกรรม ทั้งฆ่า ชิงทรัพย์ ข่มขืนผู้เยาว์ซึ่งเป็นนักเรียน ใช้มีดแทงผู้ตายหลายแผล ถือเป็นความผิดร้ายแรง และเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ในชั้นสอบสวนจำเลยยังให้การปฏิเสธ ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษประหารชีวิตนั้น เหมาะสมกับพฤติกรรมแห่งรูปคดีแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน ให้ประหารชีวิต



 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาลาการเปรียญไม้ทรงโบราณ ที่อำเภอเสาไห้

ตำนาน และประวัติความเป็นมา ของอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง

[คติธรรม] คมธรรมของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ