ต้นยาง - ต้นขี้เหล็ก บนถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูน ถนนในกระแสข่าวตอนนี้


 ต้นยาง - ต้นขี้เหล็ก บนถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูน ถนนในกระแสข่าวตอนนี้

บริเวณริมฝั่งถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูน ในช่วงฝั่งเชียงใหม่ทั้งสองข้างทางจะปลูกต้นยาง ส่วนฝั่งลำพูนทั้งสองข้างทางจะปลูกต้นขี้เหล็ก ซึ่งมีมุขปาฐะเรื่องเล่าเกี่ยวกับที่มาของต้นยางกับต้นขี้เหล็กนี้หลายเรื่อง เช่นเจ้าหลวงเชียงใหม่กับเจ้าหลวงลำพูนแข่งกันปลูกเพื่อปักปันเขตแดนกันบ้าง หรือเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ใช้นโยบาย “น้ำต้อง กองต๋ำ” เป็นผู้สั่งให้ปลูกต้นยางบ้าง ฯลฯ อีกหลายเรื่อง
ถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูนมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์มังราย เคยใช้เป็นเส้นทางเดินทางของพระมหาสุมนเถระ เจ้านิกายสวนดอกจากเมืองลำพูนมายังเมืองเชียงใหม่ในรัชสมัยพระญากือนา และเป็นเส้นทางเดินทางจากเชียงใหม่ไปลำพูนเพื่อนมัสการพระธาตุหริภุญชัยของกวีผู้แต่งโคลงนิราศหริภุญชัย ในพ.ศ. 2060 รัชสมัยพระเมืองแก้ว ซึ่งในโคลงระหว่างการเดินทางก็มีการกล่าวถึงสถานที่ชื่อ “ยางหนุ่ม” (ปัจจุบันคือวัดกองทราย ที่พบจารึกวัดยางหนุ่ม พ.ศ. 2066) แต่คงจะเป็นต้นยางธรรมชาติมากกว่าต้นยางปลูก
“...ลุเถิงยางหนุ่มหน้า หนักทรวง อยู่แล
คึดคอบเถิงทิพดวง ดอกฟ้า
รอยดลรสาสรวง สวรรคเทพ โพ้นฤา
ฤาบ่ยังเยื้อนข้า ข่าวเหยี้ยมยาทรวง..."




ถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูนมีการสร้างถนนอย่างเป็นทางการขึ้นครั้งแรก โดยพระยาทรงสุรเดช (อั้น บุนนาค) ข้าหลวงใหญ่รักษาราชการมณฑลลาวเฉียง ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2438 เริ่มสร้างตั้งแต่เชิงสะพานนวรัฐ (หน้าโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียนในปัจจุบัน) เลียบตามแนวแม่น้ำปิงห่างจนถึงเมืองลำพูน

“...พระยาทรงสุรเดช...จะทำถนนระหว่างเมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูลให้เกวียนเดินได้ด้วย การที่ไม่เปนไปโดยพลันทันทีได้เพราะขัดข้องด้วยเรื่องการภาษีอากรเมืองเชียงใหม่อยู่ ถ้าได้จัดการเรียบร้อยแล้ว พระยาทรงสุรเดชจะได้ลงมือจัดการแต่งสร้างถนนหนทางขึ้นให้สมควรแก่สมัยที่เจริญขึ้นได้...”

สันนิษฐานว่าถนนที่สร้างคงจะแล้วเสร็จก่อนเดือนกันยายน พ.ศ. 2440 เพราะปีแอร์ โอร์ต (Pierre Orts) ที่ปรึกษากฎหมายชาวเบลเยี่ยมที่เดินทางขึ้นไปร่วมพิจารณาพิพากษาคดีที่นครเชียงใหม่ แล้วเลยไปตรวจราชการหัวเมืองต่าง ๆ ในมณฑลลาวเฉียง ได้บันทึกไว้เมื่อวันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2440 ว่า

“...ข้าพเจ้าออกจากเชียงใหม่เมื่อเวลาบ่าย 3 โมง นับว่าเป็นการออกเดินทางที่เอิกเกริกมาก มีข้าราชการสองคนตามไปส่งพร้อมด้วยพวกเจ้าพนักงานชั้นผู้น้อย ถนนจากเชียงใหม่ไปลำพูนซึ่งข้าพเจ้าเคยกล่าวถึงด้วยความชื่นชมนั้นมิได้มีสิ่งใดพิเศษ เป็นเพียงเส้นทางที่คดเคี้ยวไปมาใต้ต้นไม้สูงหรือป่า มีธารน้ำไหลผ่านหลายแห่ง ภูมิประเทศดูเหมือนว่ามีราษฎรอาศัยอยู่หนาแน่น เราพบฝูงวัวควายที่ดูน่าชมหลายฝูง อีกราว 2 กิโลเมตรจะถึงเมืองลำพูน ข้าพเจ้าพบเจ้านายลำพูน 3 องค์ที่มาคอยรับล่วงหน้า ตอน 6 โมงครึ่งข้าพเจ้าก็มาถึงเมืองลำพูน...”
(Diaries of a Belgian Assistant Legal Advisor During the Reign of King Chulalongkorn 3 August 1897 - 5 January 1898)

ต่อมาในคราวที่พระยาศรีสหเทพ (เส็ง วิรยศิริ) ราชปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทยเป็นข้าหลวงพิเศษขึ้นมาจัดระเบียบราชการในมณฑลตวันตกเฉียงเหนือเมื่อปลายปี ร.ศ. 118 (พ.ศ. 2442) ก็ได้มีการกล่าวถึงถนนสายเชียงใหม่–ลำพูนในรายงานประชุมปรึกษาข้อราชการที่เมืองนครเชียงใหม่ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก 118 ว่า

“...มิสเตอร์คอลลินซ์ (Rev. David G. Collins) กล่าวขึ้นว่า ได้ทราบข่าวจากชาวเมืองลำพูนว่าได้ตกลงกันจะปูอิฐตลอดถนนในระหว่างเมืองลำพูนแลเชียงใหม่ มิสเตอร์คอลลินซ์เห็นว่าถนนสายนี้เป็นถนนดีมาก ถ้าจะเอาอิฐปูเข้า เข้าใจว่ากลับทำให้ถนนเสียลง

ที่ประชุมได้ปรึกษากันช้านาน พระยาศรีสหเทพจึงพูดว่า ได้ฟังเสียงในที่ประชุมเห็นกันโดยมากว่าไม่ควรจะปูอิฐตามถนนในระหว่างเมืองเชียงใหม่แลเมืองลำพูน แต่ควรจะซ่อมแซมถนนให้ดีขึ้นนั้น พระยาศรีสหเทพมีความยินดีที่ได้ทราบดังนั้น ราษฎรจะได้ไม่มีความลำบากที่จะต้องทำถนน เพราะฉะนั้นจะได้ทดลองเอาอิฐปูตามถนนบางแห่งเพื่อจะได้ทราบว่าอิฐจะทนน้ำฝนได้เพียงไร และขอให้บรรดาท่านทั้งหลายที่ได้เคยไปมาตามถนนลำพูนได้โปรดชี้แจงว่าควรจะซ่อมตอนใดบ้าง

มิสเตอร์เกรก (H. W. Clarke) กล่าวว่าชาวบ้านมักจะทำนาบนถนน ควรจะมีข้อบังคับให้เปิดทางไว้ให้คนเดินได้บ้าง
มิสเตอร์แฮริซ (Rev. Dr. William Harris) ชี้แจงว่าในเรื่องทำนาบนถนนนี้ มิสเตอร์แฮริซได้ทราบเหตุเรื่องหนึ่งที่มีท่านผู้หนึ่งต้องเสียเงิน 15 รูเปียเพื่อเป็นค่าทำขวัญที่ต้องเดินตัดนาไป

พระยาศรีสหเทพจึงได้ตกลงว่าต่อไปจะได้ห้ามมิให้ราษฎรทำนาบนถนนใหญ่ แต่จะต้องเปิดทางเดินไว้ให้กว้าง 6 ฟิตเสมอ แต่ข้อที่จะห้ามนี้เฉพาะแต่ถนนใหญ่ ถ้าเป็นทางเดินเล็กน้อยไม่เป็นที่ห้ามอย่างใด...”




3 เดือนถัดมาจากการประชุม พ.ศ. 2443 หม่อมอุดมพงษ์เพ็ญสวัสดิ์ (ม.ร.ว.ประยูร อิศรศักดิ์) ข้าหลวงประจำนครเชียงใหม่ ได้มีโทรเลขรายงานไปยังกระทรวงมหาดไทยว่า

“...ในโทรเลข ข้าพระพุทธเจ้า หม่อมอุดมพงษ์เพ็ญสวัสดิ์ ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม รัตนโกสินทร์ศก 119 ว่าถนนที่เมืองนครเชียงใหม่ ตั้งแต่สนามแข่งม้าจนถึงต่อแดนเมืองนครลำพูน หม่อมอุดมพงษ์เพ็ญสวัสดิ์ ได้ให้เจ้าราชบุตรเปนแม่กองใหญ่ เจ้าน้อยมหาวัน พระยาสุนทร พระยาธรรมพิทักษ์ พระยาเทพวงษ์ ท้าวขุนแก้ว เปนผู้ช่วยให้แบ่งน่าที่กันทำเปนตอน ๆ ถนนสายนี้ได้ทำเสร็จแล้ว เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม รัตนโกสินทร ศก 119 เจ้าอุปราชแลข้าราชการอีกหลายนาย พร้อมด้วยหม่อมอุดมพงษ์เพ็ญสวัสดิ์ ได้ไปตรวจดูถนนสายนี้ เห็นด้วยเกล้าฯ ว่าเรียบร้อยดีพอใช้ รถเทียมม้าได้ตลอดทาง แลเปนที่กว้างมาก ข้างริมคันถนน เจ้าราชบุตรได้สั่งให้ปลูกต้นยางได้ปลูกแล้วบ้าง แลยังกำลังปลูกอีกต่อไป การทำถนนสำเร็จได้โดยเร็วดังนี้ ควรเปนที่สรรเสริญเจ้าราชบุตร แลผู้ที่ช่วยทำนั้นเปนอันมาก กับทั้งเจ้าอุปราชก็ได้ช่วยเปนธุระสั่ง ในเรื่องทำถนนสายนี้โดยแขงแรง แลการทำถนนนั้นถ้าทำเสร็จแล้วไม่มีการรักษาก็คงซุดโซมเร็ว หม่อมอุดมพงษ์เพ็ญสวัสดิ์จะได้จัดระเบียบการที่จะรักษาต่อไป...”

จากโทรเลขนี้ ทำให้ทราบว่าผู้ที่สั่งให้ปลูกต้นยางตลอดสองข้างทางถนนในเขตเชียงใหม่ คือเจ้าราชบุตร (เจ้าน้อยคำตื้อ) บุตรของเจ้าอุปราช (บุญทวงษ์) แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้ใดเป็นคนปลูกต้นขี้เหล็กในถนนฝั่งลำพูน
ส่วนถนนทางด้านเมืองลำพูน ปรากฏในโทรเลขที่เจ้าอินทยงยศโชติ เจ้านครลำพูน รายงานไปยังกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ร.ศ. 188 ว่า

“...เจ้านครลำพูนพร้อมกับพระยาศรีสหเทพได้จัดที่นอกเวียงข้างเหนือทำเป็นตลาดหลวงใหญ่ตลอดออกไปจากถนนในเวียง เจ้านครลำพูนรับก่ออิฐถนนก่ออิฐตั้งตะแคงอย่างถนนในกรุงเทพฯ แต่เมืองนครลำพูนไปจนต่อเขตร์แดนเมืองนครเชียงใหม่ กำหนดจะแล้วใน 4 เดือน...”

พ.ศ. 2448 ได้มีการปรับปรุงและขยายผิวถนนสายเชียงใหม่-ลำพูนอีกครั้ง ตามใบบอกของพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ข้าหลวงใหญ่รักษาราชการมณฑลพายัพ ลงวันที่ 26 กรกฎาคม ร.ศ. 124 ว่า

“...ถนนสายนครเชียงใหม่ไปนครลำพูนที่ทำไว้แล้วแต่ก่อนแคบไปบ้าง กว้างไปบ้างไม่เท่ากัน และชำรุดทรุดโทรมไปมาก ถนนสายนี้เป็นทางสำคัญลูกค้าได้อาไศรย์ใช้ล้อเกวียนเป็นประโยชน์ในการค้าขายแลคนเดินทางมาก เค้าสนามหลวงนครเชียงใหม่กับนครลำพูนได้ตกลงกันจะช่วยซ่อมแซมทำให้ดีขึ้น...ได้ให้มิศเตอร์โรเบิตตี้ที่ข้าหลวงโยธาออกไปเป็นผู้แนะนำ แลในแขวงเชียงใหม่จัดให้เจ้าบุรีรัตน์กับกรมการแขวงป่ายางเป็นผู้ดูแล ส่วนแขวงลำพูนจัดให้เจ้าราชภาติกะวงษ์เป็นผู้ดูแล ทั้งสองกองนี้ได้ขอแรงราษฎรมาช่วยทำเดือนเศษจึงแล้วเสร็จ ถนนสายที่ทำนี้ทำโดยกว้าง 3 วา ยาว 665 เส้น...”

เมื่อปลูกต้นยางในเขตเชียงใหม่และปลูกต้นขี้เหล็กในเขตลำพูนแล้ว ได้มีการกำหนดกฎระเบียบในการดูแลรักษาอย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามเลี้ยงสัตว์บนเขตถนนและที่ทำการของราชการ ถ้าต้นยางปลูกตรงกับหน้าบ้านใด ให้เจ้าของบ้านผู้นั้นเอาใจใส่ทำรั้วล้อมรอบเพื่อกันวัวควายเข้ามาเหยียบย่ำ และให้หมั่นรดน้ำพรวนดินดายหญ้า ใส่ปุ๋ย สำหรับต้นยางนาที่ไม่ตรงกับหน้าบ้านผู้ใดจะมอบหมายให้หมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงรับผิดชอบ โดยให้หัวหน้าหมู่บ้านนำลูกบ้านมาช่วยกันดูแลรักษาหากสัตว์เลี้ยงของผู้ใดเหยีบย่ำต้นไม้ที่ปลูกไว้ จะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 20 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน

ต้นยางที่ปลูกนี้ได้เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูน และเคยเป็นที่มาของชื่อ “อำเภอยางเนิ้ง” ชื่อเก่าของอำเภอสารภีอีกด้วย แต่ในปัจจุบันนี้ ถนนสายนี้ได้มีการใช้สัญจรไปมาอย่างมาก มีประชาชนปลูกบ้านเรือนริมถนนอยู่ใต้ต้นยาง ทำให้เกิดปัญหาเรื่องความปลอดภัย การขยายถนน บางแห่งชิงพ่นยาหรือตัดทำลายต้นยางเสียก่อน บางแห่งเกิดอุบัติเหตุรถชนต้นยาง หรือกิ่งไม้ ลำต้นยางหักโค่นลงมาทับถนนหนทางและบ้านเรือน ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า อนาคตของต้นยางและต้นขี้เหล็กเหล่านี้ จะเป็นไปในแนวทางใด?
ขอบคุณข้อมูลเรียบเรียงคุณ Nubkao kiatchaweephan

เรื่องเล่าชาวล้านนา



อ้างอิง
- โคลงนิราศหริภุญชัย เข้าถึงจาก https://vajirayana.org/โคลงนิราศหริภุญชัย
- วรชาติ มีชูบท. ถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน.
- ปีแอร์ โอร์ต . พิษณุ จันทร์วิทัน (แปล). ล้านนาไทยในแผ่นดินพระพุทธเจ้าหลวง. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: สายธาร, 2546.
- หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ร.๕ ม.๕๘/๓๙ เรื่อง ซ่อมและสร้างถนนกับที่ว่าการมณฑลพายัพ (๔ มีนาคม ๑๑๔ – ๑๖ กุมภาพันธ์ ๑๑๖)
- เจ้าราชบุตร. (อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลตรีเจ้าราชบุตร(วงษต์วัน ณ เชียงใหม่) ป.ช., ป.ม., ท.จ.ว. ณ เมรุวัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2561). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์กรมแผนที่ทหาร 2516.
- ราชกิจจานุเบกษา, โทระเลขข้าหลวงประจำนครเชียงใหม่ แลใบบอกข้าหลวงประจำเมืองน่าน, เล่ม 17, ตอน 12, 17 มิถุนายน ร.ศ. 119, หน้า 114.
- หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ร.๕ ม.๕๘/๔๒ เรื่อง พระยาศรีสหเทพ ตรวจจัดราชการต่างๆ ในมณฑลพายัพ (๓๐ มกราคม – ๒๖ มีนาคม ๑๑๘).
- หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ร.๕ ม.๕๘/๔๖ เรื่องก่อสร้างซ่อมถนนถนนหนทาง แลตะพานในมณฑลพายัพ (๒๗ กรกฎาคม ๑๒๐ – ๓๐ สิงหาคม ๑๒๔).
- เพ็ญสุภา สุขคตะ.ปริศนา "ต้นยางนา" จาก "ไม้หมายเมือง" สู่ "ถนนเชียงใหม่-ลำพูน" ๑-๒-๓

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดินแดนล้านนา เมืองเชียงใหม่

(ชาติพันธุ์) ลาวทรงดํา ไทยทรงดํา ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง

มาชู ปิกชู ประเทศเปรู เมืองสาบสูญแห่งอินคา