เจ้าหญิงมณีไลย มกุฎราชกุมารีพระองค์สุดท้าย แห่งอาณาจักรลาว (ເຈົ້າຟ້າຍິງມະນີໄລ ມົງກຸດຣາຊະກຸມາລີ ອົງສຸດທ້າຍ ແຫ່ງຣາຊະອານາຈັກລາວ)


 

เจ้าหญิงมณีไลย มกุฎราชกุมารีแห่งลาว

     เจ้าหญิงมณีไลย มกุฎราชกุมารีแห่งลาว หรือ สมเด็จพระวรชายา พระองค์เจ้ามณีไลย (ลาว: ເຈົ້າຟ້າຍິງມະນີໄລ) หรือ เจ้ามะนีไล สว่าง (ประสูติ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2484 —) หรือที่ชาวหลวงพระบางรู้จักในชื่อ "เจ้าป้า" พระวรชายาในสมเด็จเจ้าฟ้าชายวงศ์สว่าง องค์มกุฎราชกุมาร พระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์องค์สุดท้าย แห่งราชอาณาจักรลาว

เจ้าหญิงมณีไลย ประสูติเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ณ เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว มีพระนามเดิมว่า มณีไลย ปัญญา เป็นพระธิดา ในองค์เสด็จเจ้าฟ้าชายคำพรรณปัญญา กับหม่อมชาวเมืองปากลาย ไม่ปรากฏนาม โดยพระชนกของพระองค์ เป็นพระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ กับหม่อมคำหล้า เจ้าหญิงมณีไลยทรงสำเร็จการศึกษาขั้นต้น จากโรงเรียนประถมหลวงพระบาง และโรงเรียนลิเซปาวี ในนครหลวงพระบาง และได้ศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ

เจ้าหญิงมณีไลย ได้อภิเษกสมรสกับสมเด็จเจ้าฟ้าชายวงศ์สว่าง องค์มกุฎราชกุมาร พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา กับพระอัครมเหสีคำผูย เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2505 มีพระโอรส-ธิดาด้วยกัน 7 พระองค์ เป็นพระโอรส 5 พระองค์ และพระธิดา 2 พระองค์ ได้แก่

เจ้าชายสุลิวง ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ลาวองค์ปัจจุบัน สมรสกับเจ้าจันทร์ศุกร์ สุขธารา ปัจจุบันประทับในฝรั่งเศส

เจ้าชายทันยะวง สมรสกับสาทุเจ้าหญิงมาลิกา คำม้าว ปัจจุบันประทับในสหรัฐอเมริกา

เจ้าหญิงมะนีโสมพัน สมรสกับเสด็จเจ้าชายไชยคำพรรณ ปัญญา พระมาตุลา (พี่ชายของพระมารดา) ปัจจุบันประทับในออสเตรเลีย

เจ้าหญิงสะหวีนาลี สมรสกับนายสันติ อินทะวง มีบุตร-ธิดาด้วยกัน 2 คน ปัจจุบันประทับในลาว

เจ้าชายสิลานะวง ปัจจุบันประทับในสหรัฐอเมริกา

เจ้าชายมะนีลามา สมรสกับสตรีสัญชาติเวียดนาม ปัจจุบันประทับในลาว

เจ้าชายอนุลาดวง (อนุราชวงศ์) ปัจจุบันประทับในลาว

ในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 พระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา ทรงสละราชบัลลังก์ ก่อนการสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 1 อาทิตย์ โดยฝ่ายปะเทศลาว ได้ทำการรัฐประหารยึดอำนาจ และเปลี่ยนแปลงการปกครอง เหล่าพระราชวงศ์ ทรงถูกส่งไปจองจำที่ค่ายสัมมนาในแขวงหัวพัน ทางภาคเหนือของประเทศ ภายในค่ายสัมมนา คือค่ายกักกัน สร้างความยากลำบากสำหรับเหล่าพระราชวงศ์ จนกระทั่งสมเด็จเจ้าฟ้าชายวงศ์สว่าง องค์มกุฎราชกุมาร พระภัสดาของพระองค์ได้เสด็จสวรรคตลงเสียก่อนที่ศูนย์สัมมนาหมายเลข 5 เมืองเวียงไซ แขวงหัวพัน ในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2524 ต่อมาพระนางคำผุย ก็สิ้นพระชนม์ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2524 สิริพระชนมายุ 69 พรรษา ภายในค่ายสัมมนาที่หมู่บ้านสบฮาว ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2521 หรือ พ.ศ. 2527 ไม่แจ้งชัดนัก แต่ประชาชนบางส่วนเชื่อว่า สิ้นพระชนม์เนื่องจากการขาดสารอาหาร ส่วนพระองค์เอง ก็ทรงตกระกำลำบาก อยู่ในสภาวะที่เรียกว่า "ซิ่นขาดคาขา" แต่พระองค์ก็รอดพ้นเหตุการณ์ดังกล่าวมาได้

หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์ต่างๆ แล้ว ทางการจึงได้มีการปล่อยตัว ให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ที่เมืองหลวงพระบาง แต่ก็มีผู้คอยสอดแนมทุกฝีก้าวอยู่เสมอ พระโอรสของพระองค์สองพระองค์ คือ เจ้าสุลิวงและเจ้าทันยะวง ได้หนีออกจากประเทศลาว โดยเจ้าสุลิวง ทำทีเป็นแจ้งกับทางการว่า ไม่สบาย ต้องไปรักษาที่เวียงจันทน์ เจ้าหน้าที่ก็ยอม พอถึงเวียงจันทน์ ก็ติดต่อบรรดาอดีตเจ้านายเก่าของลาวให้พระโอรสพาข้ามแม่น้ำโขง โดยการนั่งเรือออกจากเวียงจันทน์ในเวลาค่ำคืน ถึงฝั่งไทย หลังจากสอบสวนกันเรียบร้อย แล้วก็มีคนพาไปหลบซ่อนตัวในที่ปลอดภัย ก่อนที่ส่งต่อไปยังฝรั่งเศส และเป็นผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ลาวคนปัจจุบัน

ในปัจจุบัน เจ้าหญิงมณีไลยทรงดำเนิน ชีวิตเยี่ยงสามัญในบ้านหลังเล็ก ในเมืองหลวงพระบาง และชาวหลวงพระบางเอง ก็เรียกขานพระองค์ว่า "เจ้าป้า" ทรงมีร้านอาหาร คือ ร้านสกุณา ที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงพระบาง ทรงมีโอกาสพบปะพระโอรสธิดาได้ไม่บ่อยครั้งนัก เนื่องจากลูกหลานไปประทับต่างประเทศเสียส่วนใหญ่ ประกอบกับพระองค์ไม่สะดวก ที่จะเดินทางออกจากลาว อย่างมากพระองค์ก็เสด็จมาพบแพทย์ ของโรงพยาบาลในจังหวัดอุดรธานีเป็นครั้งคราวเท่านั้น



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาลาการเปรียญไม้ทรงโบราณ ที่อำเภอเสาไห้

ตำนาน และประวัติความเป็นมา ของอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง

[คติธรรม] คมธรรมของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ