รวมบทกวีคัดทิ้ง เรื่อง เพลงลามีนาคม

รวมบทกวีคัดทิ้ง
เรื่อง เพลงลามีนาคม
ผู้เขียน ประเสริฐ ยอดสง่า








เพลงลามีนาคม

"แผ่วเพลงลามีนาคมลมรำเพย เกินจะเอ่ยเคยครุ่นคิดสักนิดหนึ่ง ฤดูหนาวราวล่วงห้วงคำนึง ร้อนแล้งล้ามาถึงรำพึงรำพัน แดดเช้าเก่าแก่ในแง่งาม ไหน่หนามลามไล้ทางไต่ฝัน วิปโยคโลกร่วงดวงตะวัน หม่นหมอกควันกรุ่นกระจายละลายทาง จิบน้ำใจใครบางคนบนทางเทียว เพียงเศษเสี้ยวเกาะเกี่ยวรักมาหักล้าง เช้าชื่นหมอกดอกราตรีเริ่มสีจาง กรุ่นหอมกลิ่นแก้วบางบางจำฝังใจ เฝ้าขีดเขียนเพลงรักสักเพลงหนึ่ง ระบุถึงซึ่งรักเราเก่าไปไหม บางท่อนถ้อยร้อยวลีศรีวิไล ฉันจำได้ใครสักคนขับทุ้มลำ แผ่วเพลงลามีนาคมลมหยอกฝน ฉันขึ้นต้นบทกลอนตอนหัวค่ำ บ้างอาจเหมือนเพลงลาวาทกรรม จดแล้วจำคำบางคำใครบางคน"

 



'ฤๅจะร่วงหล่นลามีนาคม กับคลื่นลมฤดูร้อนก่อนเมษา หลังลมฝนหลงเดือนปีกลางมีนา บ้างร่วงลบซบหน้าน้ำตาริน คล้ายผิวแผ่วแว่วทุ้มลำคำเอื้อนเอ่ย ฤดูกาลผ่านเลยละร่วงสิ้น ร่ายรำฟ้อนอ้อนลมลวงร่วงซบดิน คละเคล้ากลิ่นดินหมาดฝนคืนวันลา บานดอกติ้วพลิ้วลมร้อนฟ้อนลมหนาว ผ่านอีกคราวหนาวสั่นไหวโอ้ใจข้า ในห้วงฝันวันเดือนปีที่ผ่านมา ฉันสบตาความบ้าใบ้ในลำพัง'






'บานดอกติ้วพลิ้้วลมเช้าเย้าหยอกฝัน ปีเดือนวันลั่นเลื่อนขับเคลื่อนย้าย ทยอยเก็บฝันเหน็บหนาวอันเปล่าดาย ที่เรียงรายหล่นร่วงเรี่ยลานดิน เช้าหมอกหม่นฝนแปลกหน้ามาเยี่ยมยาม โลกสีงามถามไถ่ไล้รมย์กลิ่น ฝันสีหมอกบอกติ้วหม่นให้ยลยิน ว่าคืนถิ่นแล้วเจ้านกระหกมา เสียงจั๊กจั่นลั่นร้องก้องระงม เพลงผสมลมหนาวจากราวป่า นกกระจิบกระซิบซาบแล้วลับลา เพลงของฟ้าว่าชีวิตเพื่อชีวิต บานติ้วดอกบอกเล่าเรื่องเศร้าโศก ร้องเพลงโลกกล่อมรักสลักจิต ละลานติ้ว ณ ลานเทเนรมิต ปล่อยความคิดละลอยล่องท่องอุทยาน'





"ใครบอกเธอให้เพ้อฝันถึงวันพรุ่ง นั่นโค้งรุ้งเหนือทุ่งนาเธอว่าไหม เหมือนล้าโรยโหยหาด้วยอาลัย เธอยังฝันจะพบใครในพรุ่งนี้ เก็บซากรักหักพังฝังไว้เถอะ คราบเลอะเทอะเขรอะขระขยะขยี้ เศษซากฝันบิบิ่นไร้ชิ้นดี ผ่านเดือนปีคงคลี่คลายละลายลา อาจดอกฝันบานเบ่งในดงดับ แล้วเลือนลับอับจนไปพ้นหน้า ไม่มีแล้วแผ่วเพลงละเลงมา คราบน้ำตาเปื้อนแก้มใครแต้มเติม ฉันเคยเพ้อละเมอฝันถึงวันพรุ่ง นับริ้วรุ้งเหนือทุ่งนามาแต่เริ่ม แต่ความฝันที่ฉันมีย่ำที่เดิม ที่สร้างเสริมก็เริ่มร้างหาทางลา เมื่อร่วงซบกลบดินฝังฉันหวังวาด จารึกรอยประวัติศาตร์ปรารถนา วันนี้วันพรุ่งนี้กี่น้ำตา หวังว่าพบเธอซบหน้าลงบ่านี้"


"ตาเว็นแลง อยู่ฮิมโขง หวิวลมหนาว จากฟากของ แว่วลำล่องคอนสะหวัน เพ้อรำพันมหาไซย ลี้อยู่ไสน้อสาวเจ้า ลมฮ้อนอ่วย ฮ้องถามหา อีกบ่ดนหนาวสิลา ฝากส่งข่าวหานางน้อง" ชายหนุ่มเสพเศร้า ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านห้อม แลงค่ำ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่3 นครพนม-ท่าแขก อ่านบทกวี... สี่พันดอน คอนพะเพ็ง เพ้อรำพันถึงหญิงสาวอันเป็นที่รัก ปรารถนาเสพสุข ริมฝั่งนำงึม หญิงสาวอันเป็นที่รัก... หล่อนเคยเอ่ยปรารถนา เช้าของวันขึ้น15ค่ำเดือน6 เมื่อ15ปีผ่านมาแล้ว ละลายดีกรีสามขวด วาบลมเย็นริมโขง ชายหนุ่มสะอื้นอั้น ฝันที่เคยฝัน "สุดท้ายฉันก็มีสิทธิ์ได้แค่ฝัน" ชายหนุ่มฟูมฟาย ร้องไห้เสียงดัง ไม่อายแม้แต่สายตา ของชายชราสองคน บนเรืออีโปง ที่นั่งมองชายหนุ่ม ขณะวางอวน ลากยาวออกไปกลางแม่น้ำโขง แต่สายตายังจับต้องอยู่ที่ชายหนุ่ม...



ซุกซ่อนเศร้าในเงาหม่นราวคนคุก ลุผ่านยุคทุกข์เข็ญที่เป็นอยู่ ร้าวเรื่องร้ายรายวันเกี่ยวพันตู เรื่องที่รู้ทำไม่รู้อยู่ร่ำไป ขังความคิดติดหนับกับฝันบ้า โลกชราเริ่มล้าโรยระโหยไห้ อ่อนแรงแข็งข่มลมหายใจ นับลิเกใบไม้ไปพลางพลาง ก่อกบฏคดคิดจิตบูดเน่า ที่เศร้ายิ่งเศร้าโศกกว่าโลกกว้าง นั่งยิ้มเหม่อลอยเหมือนปล่อยวาง ซ่าบซ่านทั่วสรรพางค์ระหว่างเวลา นับความว่างเปล่ากี่ว่างเปล่า ฟังเรื่องเล่ากี่ความเศร้าไม่เข้าท่า เช็ดน้ำตาขณะที่มีน้ำตา สบถฟ้าห่าเหวเลวจัญไร ซุกซ่อนเศร้าในเงาหม่นราวคนคุก ก้าวข้ามความทุกข์แห่งยุคสมัย ร่ายร่อนฟ้อนลำความเป็นไป บ้างยิ้มบ้างร้องไห้สะใจดี...



'ฉันเผลอลืมความหลังไว้ที่ใดสักแห่ง อาจเกาะแก่งแหล่งน้ำลำนำไหน หรือวัยเยาว์เขลาขลาดนิวาสใด หรือหม่นไหม้ในลึกลับชั่วกัปกัลป์ อ่านบันทึกที่ตั้งใจเขียนบันทึก นั่งนิ่งนึกตรึกตรองละอองฝัน ห้วงอดีตเก่าแก่แย่ยักยัน ฉันเขียนวันบอดใบ้ใจเปล่ากลวง หน้าที่สามบรรทัดที่ห้าว่าชีวิต ฉันเสพติดพิษรักอย่างหนักหน่วง โอ้หญิงสาวในบทกวีธิดาดวง รักจะร่วงฤๅจะลาว่าจะรัก คุ้ยเขี่ยหาความหลังตั้งใจวาด หลังนิราศนาฎกรรมเหมือนช้ำหนัก เหมือนฟูมฟายมายเมาเง่ายิ่งนัก ขลุกขลักกักขฬะขณะเมา ปิดบันทึกลึกลับอันอัปลักษณ์ เหมือนจมปลักในขำขื่นคืนวันเก่า แม้ไม่อาจหาความหลังครั้งวัยเยาว์ แต่เรื่องเล่ายังเล่าเรื่องต่อเนื่องนาน'



'ฟังเพลงรักจากชายป่าอารยธรรม ท่วงทำนองร้องลำนำสมัย ขับเชียงขวางเต้ยสั่งลา ມະຫາໄຊ วาสภูไทได้ซึมซับขับทุ้มลาว "โอ้เด...ผู้สาวเอย คำเอื้อนเอ่ยเฉลยกลอนออดอ้อนสาว ผูกฮักมั่นสายสัมพันธ์ให้ยืนยาว แคนจ้วดจ้าวหย่าวลำเดินเอิ้นสั่งนาง แต้มรอยยิ้มพริ้มพรายบนใบหน้า ตาสบตาภาษาใจไม่เว้นว่าง แล้วสดับขับทุ้มลำหลวงพระบาง บั๊ดสะหลบอย่าหลบทางของหางตา ว่าโอ้ละหนอคนฮัก เจ้าอย่ากักฮักไว้ให้โหยหา สีพันดอนคอนพะเพ็งอย่าเร่งลา แม่นางฟ้าผู้น่ารักสักนิรันดร์" จบเพลงรักจากชายป่าอารยธรรม ท่วงทำนองของหมอลำยังจำมั่น ภาพรอยยิ้มยังถักทอวันต่อวัน แผ่วเพลงฝันวันจากมา...ว่าโอ้ละหนอ'




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศาลาการเปรียญไม้ทรงโบราณ ที่อำเภอเสาไห้

ตำนาน และประวัติความเป็นมา ของอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง

[คติธรรม] คมธรรมของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ