สำนักสงฆ์อาจารย์ซ่วน แหล่งท่องเที่ยวสุดหลอน ที่ความน่าสะพรึงกลัวหดหายไป
สำนักสงฆ์อาจารย์ซ่วน แหล่งท่องเที่ยวสุดหลอน
ที่ความน่าสะพรึงกลัวหดหายไป
สำนักสงฆ์อาจารย์ซ่วน แหล่งท่องเที่ยวสุดหลอน
แต่ความน่าสะพรึงกลัว กำลังเริ่มหดหายไปจากอดีต เมื่อครั้งตกเป็นข่าวดังเมื่อ 4
ปีก่อน ที่ความหลอนถมึนทึงในป่าดิบ
ของบรรดาเหล่าหุ่นปั้นฝังวิญญาณในสถานที่อันรกร้างถูกเผยแพร่ออกไป
ได้ทำให้ผู้คนที่ชื่นชอบในความท้าทาย ต่างมุ่งหน้าเข้ามาพิสูจน์เพื่อให้เห็นด้วยตาตนกันอย่างต่อเนื่อง
จนมาถึงในวันนี้ ความวังเวงแปลกตาชวนขนหัวลุก ได้เริ่มจากหายไปจนเกือบหมดสิ้นแล้ว
ที่สำนักสงฆ์ร้างในอดีตเมื่อกว่า 4
ปีก่อน ซึ่งเคยมีอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าลาดใต้ “อาจารย์ซ่วน”
ผู้โด่งดังในตำนาน ด้านการสร้างปลัดขิกเรียกทรัพย์
และการปั้นหุ่นเพื่อประกอบพิธีกรรม เสริมดวงชะตาในด้านต่างๆ ให้แก่คนดังในยุคนั้น
ที่ต่างเดินทางเข้ามาเป็นลูกศิษย์จำนวนมากมาย
ทั้งนางงามผู้โด่งดังระดับชาติเมื่อกว่า 33 ปีก่อน และเหล่าศิลปิน ดารา ข้าราชการ
นักการเมือง และดาวตลก ที่แอบเข้ามาทำพิธีเสริมบารมี รวมถึงผู้มีชื่อเสียงในสังคม
ที่ต่างให้ความเคารพนับถือถึงความแก่กล้า และความขลังในพิธีกรรมที่ถูกประกอบขึ้น
ภายในสำนักสงฆ์แห่งนี้
แต่หลังจากพระอาจารย์ซ่วน ปัญญาธโร
ได้มรณภาพลงด้วยวัย 63 ปี เมื่อ 28
ปีที่แล้ว สำนักสงฆ์แห่งนี้ จึงได้ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างมาโดยตลอด
เป็นเวลานานถึงกว่า 24 ปีเต็ม นับจากปี 2536
ถึงปี 2560 เนื่องด้วยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล
ที่ทางเจ้าสำนัก ได้ใช้ที่ดินส่วนตัวสร้างขึ้น
ซึ่งเป็นสมบัติของนายวันผู้เป็นบิดาของอาจารย์ซ่วน จำนวน 2
ไร่ ในพื้นที่ ม.5 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
ด้านฝั่งตรงข้ามเยื้องกับวัดท่าลาดใต้ ของลำคลองท่าลาด
เพื่อหลบเลี่ยงความวุ่นวายจากผู้คน ที่ต่างพากันเดินทางมุ่งหน้าเข้ามาหา
เพื่อให้ช่วยหาทางแก้ไขคลายทุกข์เกือบตลอดทั้งวัน
จนแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อนเป็นการส่วนตัว จนกลายเป็นสถานที่จำวัดอันสงบเงียบ ไร้การรบกวน
ได้อย่างสมความต้องการของเจ้าสำนัก
เนื่องด้วยในสมัยอดีต
การคมนาคมมายังสถานที่แห่งนี้ไม่สะดวก ไม่มีสะพานข้ามคลอง
ไม่มีถนนในการเดินทางได้อย่างสะดวกสบายตัดผ่าน แต่สามารถพายเรือข้ามฝาก
มาจากทางฝั่งวัดท่าลาดใต้ได้เพียงไม่กี่อึดใจ เนื่องจากเป็นสถานที่ตั้งอยู่ด้านตรงข้าม
เยื้องกันมาไม่ไกลนัก จึงทำให้บรรดาหุ่นปั้นที่ถูกสร้างขึ้น จากเรื่องราวในวรรณคดี
ทั้งความเชื่อทางศาสนา ที่มีทั้งรูปปูนปั้นหุ่นแบบไทย จีน อินเดีย
รวมทั้งหุ่นของโจรร้ายผู้มีชื่อเสียงนับร้อยตน เพื่อเสริมดวงพลิกโชคชะตา
ของบรรดาเหล่าศิษย์พระดัง เมื่อครั้งนั้น ได้ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างมาเป็นเวลานาน
ล่วงเลยผ่านไปตามกาลเวลามาถึงกว่า 24 ปีเต็ม
สุดท้าย เมื่อช่วงปลายปี 2559
ต่อเนื่องมาจนถึงต้นปี 2560 จึงได้มีสื่อโซเชียล
พร้อมด้วยสื่อกระแสหลักหลายสำนัก รวมถึงสื่อสายนักล่าท้าผี
และผู้แสวงหาความดิบเถื่อนชวนสยอง ต่างพากันเข้ามาท้าทายตีแผ่ถึงความน่าสะพรึงกลัว
จากความรกร้างของสถานที่ในขณะนั้น
และกลายมาเป็นความโด่งดังไปทั่วทั้งวงการสังคมภูตผี
จนทำให้สำนักสงฆ์แห่งนี้ถูกพลิกฟื้นคืนชีพ กลับมายืนขึ้นได้อีกครั้ง
และกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบันของท้องถิ่น
นางสายพิน เจนภูมิเดช อายุ 69 ปี
หรือ “ป้าติ่ม” พร้อมด้วยสามี
ผู้ดูแลสถานที่ ร่วมกับพระปลัดนิกร อาภสฺสโร เจ้าอาวาสวัดท่าลาดใต้ เปิดเผยว่า
นับจากสำนักสงฆ์แห่งนี้ ตกเป็นข่าวดังในครั้งแรก เมื่อเกือบ 5
ปีก่อน ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปโดยรอบอย่างมากพอสมควร และทำให้พื้นที่มีการพัฒนาสู่ความเจริญมากยิ่งขึ้น
โดยในปัจจุบันท่ามกลางสถานการณ์ของโรคโควิด 19
ที่ยังคงระบาดซ้ำขึ้นภายในประเทศ แต่ก็ยังคงมีผู้คน นักท่องเที่ยว
เดินทางเข้ามาเที่ยวชมสถานที่และหุ่นปั้นกันอยู่เป็นระยะ อย่างน้อยวันละกว่า 100 คน
และจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงวันหยุดราชการ โดยเฉพาะวันอาทิตย์
และก่อนวันออกเลขสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 วันจะมีคนเข้ามามาก
ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเข้ามาเพื่อแสวงหาเลขโชคลาภ และขอพรความสำเร็จในด้านต่างๆ
ซึ่งได้ช่วยทำให้คนในพื้นที่ อ.พนมสารคาม มีรายได้เข้ามา
จากการลุกฟื้นกลับคืนมาได้ใหม่ ของสำนักสงฆ์แห่งนี้
สำหรับการพัฒนาพื้นที่
ส่วนใหญ่จะเป็นการซ่อมแซมบูรณะของเก่า ที่หักชำรุด และทาสีใหม่
รวมถึงการเคลื่อนย้ายปูนปั้นบางส่วน ที่อยู่โดยรอบพื้นที่
ที่ไม่ใช่ที่ดินของสำนักสงฆ์ เนื่องจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงติดกัน
ไม่ต้องการหุ่นปูนปั้นเหล่านี้ ไว้ในพื้นที่ของตน
จึงมีปูนปั้นบางส่วนถูกรื้อทำลายลงไป ต้นไม้ใหญ่ถูกตัดโค่น เช่น ต้นโพธิ์
และองค์พระขนาดใหญ่ ที่สามารถเคลื่อนย้ายเข้ามายังในพื้นที่ ได้แต่เพียงแค่เศียร
ก่อนนำมาสร้างแท่นคอนกรีตไว้รองรับ สำหรับตั้งวางขึ้นมาใหม่
นางสายพิน กล่าว ด้านพระปลัดนิกร อาภสุสโร วัย 56
ปี เจ้าอาวาสวัดท่าลาดใต้ กล่าวว่า ทางวัดและชาวบ้านผู้ดูแล
ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงอะไรในสำนักสงฆ์ไปมากนัก
เพียงแต่ได้ทำการบูรณะสถานที่ในส่วนที่ชำรุดทรุดโทรม หรือกำลังจะพังลงไปขึ้นมาใหม่
ให้กลับมาอยู่ในสภาพที่ดีใช้งานได้ ขึ้นมาทดแทนเท่านั้น แต่ในอนาคตต่อไป
ได้เตรียมที่จะจัดให้มีตลาดน้ำขึ้น ภายในบริเวณวัดท่าลาดใต้
และจะทำสะพานข้ามคลองท่าลาด เพื่อให้นักท่องเที่ยว
ได้เดินข้ามไปยังที่สำนักสงฆ์ร้างเดิมของอาจารย์ซ่วน
เป็นการช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เข้ามาในพื้นที่อีกทางหนึ่ง
แต่ยังติดขัดเกี่ยวกับเรื่องของโฉนดที่ดินอีกเพียงเล็กน้อย
ที่ยังคงเป็นชื่อของอาจารย์ซ่วนอยู่ จึงต้องรอการปรับเปลี่ยนแก้ไขต่อไปอีกสักระยะ
พระปลัดนิกร ระบุ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น