ตำนานรักเขาสอยดาว (เจ้าแม่เขาเกลือ)
ตำนานรักเขาสอยดาว (เจ้าแม่เขาเกลือ)
ความรัก เมื่อเกิดขึ้นมากับใครแล้ว มักจะทำให้ลืมความทุกข์ยากใดๆ โดยสิ้นเชิง ตำนานโศกนาฏกรรม ความรักอันแสนเศร้าและไม่สมหวัง ของเจ้าแม่เขาเกลือ
เมื่อประมาณพันกว่าปีมาแล้ว อาณาจักรขอม รุ่งเรืองอยู่ในแถบสุวรรณภูมินี้ พระเจ้าชัยวรมันปกครองดินแดนนี้ ด้วยความสงบสุขร่มเย็น ครั้งหนึ่ง พระเจ้าชัยวรมัน ในยุคนั้น ได้มีพระบรมราชโองการ ให้เจ้าชาย ควบคุมไพร่พลทำถนน เพื่อตัดข้ามเขา ไปยังดินแดนฝั่งเมืองควนคราบุรี อันเป็นดินแดนติดต่อกันจะด้วยเหตุใดยังมิทราบ เจ้าชายวรมัน ได้ตัดถนนจากเมืองนครธมมาเรื่อยๆ จนถึงเขามะเกลือ ที่บนเขา เต็มไปด้วยต้นมะเกลือ และมีกระท่อมสองตา ยาย ตั้งอยู่บนเขา สองตา ยาย มีหลานสาวหน้าตาสะสวยอยู่ 1 คน และในตำนาน ก็ไม่ได้กล่าวถึงชื่อของนาง ผู้นั้นแต่อย่างได
วันหนึ่ง เจ้าชายเสร็จจากภาระกิจ ในการตรวจการทำถนนของเหล่าทหาร และได้เห็นบ้านของสองตา ยาย บนเขามะเกลือนั้น จึงได้พบสบตากับสาวน้อยผู้เป็นหลานสาว และตั้งแต่นั้นมา เจ้าชายก็ไปมาหาสู่ พบปะพูดคุยกับสาวน้อยผู้นั้น จนเกิดความรักปฏิพัทธ์ต่อกันเป็นอย่างมาก จนเวลาผ่านไป การตัดถนนก็เสร็จสิ้น ทำให้เจ้าชายต้องเดินทางกลับพระนคร ในค่ำคืนวันอำลาจากกัน เจ้าชายได้สัญญากับสาวน้อยผู้นั้นว่า จะมารับไปอยู่ด้วยกันในวัง และก่อนจากกันทรงตรัสถามถึงสิ่งที่นางอยากได้และให้ขอ สาวน้อยเมื่อได้ฟังสิ่งที่เจ้าชายตรัสก็เพ่งมองไปยังท้องฟ้าเห็นดวงดาวส่องสว่างสุกใสจึงร้องขอดาวจากเจ้าชายในค่ำคืนนั้น ด้วยความรักที่เจ้าชายมีต่อสาวน้อยผู้นั้นและเป็นผู้รักษาวามสัตย์ในสิ่งที่ตนพูดไปจึงรับปากว่าจะสอยดวงดาวให้กับสาวน้อยผู้นั้นโดยมอบทรัพย์สมบัติบางส่วนที่ตนมีอยู่ให้สาวน้อยผู้นั้นไว้แล้วตรัสทิ้งท้ายไว้ว่า "ทรัพย์สมบัติที่พี่มีนี้น้องจงเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นเถิด หากภายใน 7 วันนี้ พี่มิกลับมาก็ขอให้น้องรู้ไว้ว่า พี่จะรักเจ้าเพียงผู้เดียว"
เจ้าชายมีฤทธิ์มากสามารถเหาะได้ จึงพาทหารคนสนิทไปบางส่วน พระองค์ไปถึงยอดเขาสูงยอดที่หนึ่งในคืนแรกทรงสั่งให้ทหารตัดไผ่ต่อให้ยาวที่สุดเพื่อสอยดาวให้กับนางอันเป็นที่รักแต่ต่อไม้ไผ่ยาวแค่ไหนก็ยังไม่ถึง และในคืนต่อๆ มา เจ้าชายได้เปลี่ยนไปตามยอดเขาต่างๆ จนไปถึงยอดเขาที่ 7 ซึงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดจนใคร ๆ ก็คิดว่าค่ำคืนนี้คงได้ดาวสมปรารถนาแต่พระองค์ทรงคิดผิด ต่อให้ต่อบันใดไม้ไผ่ให้สูงขึ้นเพียงใด ต่อไม้สอยให้ยาวอีกสักเท่าใดก็ไม่อาจสอยดาวได้สำเร็จ เจ้าชายวรมันทรงตรอมพระทัยด้วยความเสียใจและในที่สุดพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ลง อาจเนื่องมาจากความหักโหมและมิได้เสวยอะไรเลยถึง 7 วัน 7 คืน ด้วยความมุ่งมันที่จะสอยดาวให้สำเร็จ
ทหารได้นำความมาบอกสาวน้อยที่กำลังรอเจ้าชายอยู่นั้นว่าเจ้าชายได้สิ้นพระชนม์แล้ว สาวน้อยผู้นันเมื่อทราบว่าเจ้าชายสิ้นพระชนม์ก็เสียใจเป็นอย่างมากถึงกับล้มป่วย และไม่นานก็สิ้นใจตามเจ้าชายไป สองตา ยาย เสียใจมากที่หลานสาวต้องมาตายด้วยความรักเช่นนี้จึงนำทรัพย์สมบัติที่เจ้าชายมอบไว้มาวางใกล้ศพของหลานรักและเผาศพของนางไปพร้อมกับกระท่อมหลังนั้นก่อนจะอพยพย้ายถิ่นฐานจากไปจากเขามะเกลือนั้น
กาลเวลาต่อมา ถนนสายที่เจ้าชายได้นำไพร่พลมาตัดไว้ก็มีคนสัญจรไปมาด้วยเกวียนบ้าง เดินบ้าง ม้าบ้าง ต่างก็ได้พบเห็นสาวน้อยนั่งรอใครบางคนอยู่ในกระท่อมในยามค่ำคืนจนเป็นที่โจษขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสาวน้อยผู้นั้น และผู้คนก็ได้ถวายนามให้กับสาวน้อยผู้นั้นว่าเจ้าแม่เขามะเกลือ ตามชื่อของเขาแต่ต่อมาเขานั้นได้เรียกเพี้ยนเปลี่ยนไปเป็นเขาเกลือ พระนามของเจ้าแม่จึงเปลี่ยนเป็นเจ้าแม่เขาเกลือในปัจจุบัน ส่วนด้านของเจ้าชายวรมันผู้ตั้งมั่นในคำสัตย์มีคำบอกเล่าว่ามีศาลบนยอดเขาที่เหล่าบรรดานายพราน คนเดินป่าสร้างถวายไว้ให้และขนานนามพระองค์ว่าเจ้าพ่อสอยดาว ซึ่งปัจจุบันไม่อาจรู้ได้ว่ายังมีศาลของพระองค์อยู่บนนั้นหรือไม่ แต่เบื้องล่างมีศาลของพระองค์แล้ว นั่นจึงกลายเป็นที่มาของเขาสอยดาว อันได้ชื่อว่าอยู่ใกล้ดวงดาวที่สุด
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในจังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ครอบคลุมเขาสอยดาวใต้ และเขาสอยดาวเหนือ ที่เป็นจุดสูงสุดสองแห่ง ในเทือกเขาจันทบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคาร์ดามอม ซึ่งเป็นเทือกเขาหลัก ที่ตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชา พื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าประกอบไปด้วยป่าดิบชื้น ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำ ของแม่น้ำจันทบุรี มีเนื้อที่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ทางทิศใต้ ติดต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ตั้งขึ้นเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2515 มีเนื้อที่ประมาณ 744.96 ตารางกิโลเมตร หรือ 465,602 ไร่ ภูมิประเทศส่วนใหญ่ประกอบด้วยภูเขา โดยในปี 2550 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่สำคัญ เพื่อการอนุรักษ์นก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ ในการอนุรักษ์นก
พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว มีความลาดชันน้อย มีลักษณะเป็นแบบลูกคลื่น ประกอบกับที่ลาดเชิงเขา ต่อเนื่องจากภูเขา มีสายน้ำ คือลำธารไหลต่อเนื่องตลอดทั้งปี จำนวน 2 สาย ซึ่งมีต้นน้ำมาจากเทือกเขาสอยดาว
พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เป็นรูปแบบของภูมิอากาศ แบบมรสุมเขตร้อน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ประกอบด้วย ฤดูที่โดดเด่นชัด ทั้ง 3 ฤดู อุณหภูมิเฉลี่ย 26.8 องศาเซียลเซียส สูงสุดเฉลี่ย 31.6 องศาเซลเซียส
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เป็นเพียง IBA แห่งเดียวในประเทศไทย ที่พบนกกระทาดงจันทบูรณ์ ซึ่งเป็นสัตว์ในกลุ่ม A2 คือกลุ่มที่มีการแพร่กระจายที่จำกัด รวมถึงเป็นที่อยู่อาศัยของนก ที่มีความสำคัญต่อการอนุรักษ์ อีกหลายสายพันธุ์ ประกอบไปด้วย ไก่ฟ้าพญาลอ นกกก นกคัคคูเหยี่ยวเล็ก ซึ่งที่กล่าวมานี้ อยู่ในสถานะใกล้ถูกคุกคามในระดับโลก นอกจากนี้ ยังมีนกที่มีสีสันสวยงาม อย่างนกแต้วแล้วใหญ่ หัวสีน้ำเงิน ซึ่งมีสถานะใกล้สูญพันธุ์ในประเทศไทย พบอาศัยอยู่เพียงที่นี่เท่านั้นเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบนกอีกกว่า 128 ชนิด ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อาทิ นกแก๊ก ไก่ป่า นกกระทาดง นกขุนทอง นกพญาปากกว้าง และนกอพยพต่าง ๆ
ในส่วนของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว พบหลากหลายชนิดเช่นกัน อาทิ ช้างป่า เก้ง หมูหริ่ง ชะมด อีเห็น แมวป่า ลิงกัง ลิงลม พญากระรอกดำ รวมไปถึงสัตว์ที่อยู่ในสถานะถูกคุกคามในระดับโลก ประกอบไปด้วย ช้างเอเชีย เสือโคร่ง เสือไฟ และกระทิง ก็ถูกพบที่นี่เช่นกัน สำหรับสัตว์ประเภทลิงนั้น ชะนีมงกุฎ ถือเป็นสัตว์อีกชนิดที่โดดเล่น สำหรับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
สำหรับสัตว์เลื้อยคลานที่พบ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ประกอบไปด้ย ตัวเงินตัวทอง ตะกวด งูเหลือม งูหลาม งูจงอาง งูเขียวหางไหม้ เต่หวาย ตะกอง กิ้งก่าหนามเขา สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก อาทิ กบอกหนาม ซึ่งเป็นสัตว์ประจำถิ่น กบอ๋อง อึ่ง เขียด ปาดอีกหลายชนิด
น้ำตกเขาสอยดาว อยู่ภายในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว มีจำนวน 16 ชั้น เหมาะกับการชมผีเสื้อ และศึกษาพรรณไม้ เนื่องจากมีพื้นที่ที่มีความหลากหลาย ทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง รวมถึงมีต้นไม้ยักษ์ หรือต้นพระเจ้าห้าพระองค์ อยู่ทางขวาของน้ำตก ห่างไปประมาณ 200 เมตร จากน้ำตกชั้นแรก ลำต้นมีขนาดใหญ่ประมาณ 20 คนโอบ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น